ตรวจข้อสอบ > ทิพอาภา ลีมะทวีกูล > ชีวเคมีเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Biochemistry > Part 2 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 58 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


ก. ไข่ขาว , น้ำตาลทราย , เอทิลแอซิเตต

x เป็นโปรตีน เพราะว่าเปลี่ยนเป็นสีม่วง ซึ่งไข่ขาวเป็นโปรตีน y เป็นคาร์โบไฮเดรต เพราะสารละลายเปลี่ยนเป็นสีแดงอิฐ ตอบน้ำตาลทราย ซึ่งถึงแม้จะเป็นน้ำตาลที่จริงๆใช้เบเนดิกต์ ทดสอบไม่ได้ แต่ได้ผ่ายกรด HCl และ NaOH แล้ว z เมื่อต้มกับ HCl ได้น้ำส้มสายชู โซเดียมไฮดรอกไซต์และคอปเปอร์ทูซัลเฟต ใช้ทดสอบกรดอะมิโนได้โดยจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง สารละลายเบเนดิกต์ใช้ทดสอบคาร์โบไฮเดรตโดยให้ตะกอนสีแดงอิฐ เมื่อเอทิลอะซิเตดต้มกับกรดไฮโดรคลอริคแล้วจะได้สารละลายที่มีกลิ่นฉุน 6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


ข. น้ำมันมะกอกเท่านั้นที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว จึงทำปฏิกิริยาฟอกจางสีโบรมีนได้

กรดไลโนเลอิกกับโอเลอิกต่างเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวทั้งคู่ซึ่งในน้ำมันหมูและไขวัวก็มีในส่วนนี้เช่นกัน แต่มีในสัดส่วนที่น้อยกว่าเฉยๆ จึงสามารถฟอกจางสีโบรมีนได้เช่นกัน กรดไขมันไม่อิ่มต้ว : กรดโอเลอิกและกรดไลโนเลอิก : เป็นกรดไขมันที่มีพันธะคู่ขึ้นไป การฟอกจางสีโบรมีน : โบรมีนจะเข้าไปแทรกตามพันธะคู่ 6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


ข้อ จ.

น้ำมัน x เป็นกรดไขมันอิ่มตัวเพราะเป็นไขง่าย น้ำมัน Y เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเพราะเป็นไขยาก กรดไขมันอิ่มตัว : จุดหลอมเหลวสูงกว่า(เป็นไขง่าย) เหม็นหืนยาก กรดไขมันไม่อิ่มตัว : จุดหลอมเหลวต่ำ(เป็นไขยาก) เหม็นหืนง่ายกว่า การเหม็นหืน : การที่กรดไขมันทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ซึ่งต้องมีพันธะคู่ถึงจะเกิดง่าย เพราะสามารถแทรกเข้าไปในพันธะได้ง่าย 6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


ข้อ จ.

การหยดไอโอดีนแสดงถึงการมีพันธะคู่ยิ่งหยดเยอะเท่าไหรแสดงว่ามีพันธะคู่เยอะเท่านั้น เพราะไอโอดีนจะเข้าไปแทรกในพันธะคู่ ส่วนการทำอาหารด้วยไฟอ่อนๆเป็นเวลานานต้องใช้น้ำมันจากสัตว์ซึ่งมีกรดไขมันอิ่มตัวเยอะและกรดไขมันอิ่มตัวเป็นสาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด ไอโอดีน สามารถเข้าไปแทรกในพันธะคู่ได้ ถ้าหยดไอโอดีนเยอะๆคือมีพันธะคู่เยอะ พันธะคู่เยอะกรดไขมันไม่อิ่มตัว โรคหัวใจขาดเลือด สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากมีไขมันอุดดันในเส้นเลือด 6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


ค.โปรตีนจัดเป็นสารประกอบที่เห็น แอมโฟเทริก (amphottric)

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


ก. เพปไทด์ที่เกิดจากกรดXและกรดYทําปฏิกิริยากับCuSO4ในสภาวะเบสให้สารสีม่วง

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


ข. เอนไซม์เป็นสารประเภทโปรตีน

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


ง. 2 และ 3

คนที่เป็นเบาหวานควรลดเนื่องจากมีน้ำตาลมากเกินไปแล้ว อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ช่วยจัดการน้ำตาลในกระแสเลือด เบาหวาน คือโรคที่มีน้ำตาลในกระแสเลือดมากเกินไป อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์พอดี 6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


ค. กรดนิวคลีอิก

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


2. สามารถพบลักษณะของ cell membrane แบบ phospholipid bilayer ได้

10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


2. พืชไม่สามารถใช้ ADP และ NADP+ ได้ตามปกติ

พืชไม่สามารถใช้เพราะพืชไม่สามารถผลิต ATP และ NADPH ได้ ซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรง แต่ผลกระทบต่อมาคือเมื่อพืชไม่สามารถสร้างพลังงานที่จะต้องใช้ในวัฎจักร Calvin ได้จะทำให้พืชไม่สามารถตรึงคาร์บอนได้ และขาดอาหารตายในที่สุด Diuron และ Paraquat เป็นสารยับยั้งการถ่ายทอดอิเล็กตรอนของพืช ยับยั้งโดยการแย่งอิเล็กตรอนออกจาก PS2 และ PS1 ตามลำดับ การถ่ายทอดอิเล็กตรอน : เป็นการสร้างพลังงานในรูปแบบของ ATP และ NADPH ในพืช 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


จ. กรดอะมิโน

เนื่องจากกรดอะมิโนมีหลายแบบมาก ทั้งที่เป็นกรดและเบส ซึ่งเป็นกรดและเบสอ่อนๆจึงสามารถเป็นบัฟเฟอร์ได้ บัฟเฟอร์คือ สารละลายที่คอยควบคุมปริมาณโปรตอนและไฮดรอกไซต์ในน้ำให้อยู่ในภาวะสมดุล กรดอะมิโนสามารถมีหมู่ R ซึ่งเป็นหมู่ฟังก์ชั่นที่สามารถเป็นกรดหรือเบสได้ด้วย 6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


จ. W, X, Y และ Z

w x y z เป็น Reducing sugar หมด จึงสามารถทำให้เบเนติกเกิดตะกอนสีแดงอิฐได้ y มีหมู่แอลดีไฮด์แสดงว่าเป็นคาร์โบไอเดรต x มีหมมู่คีโตนแสดงว่าเป็นคาร์โบไฮเดรต Reducing sugar สามารถทำให้เบเนติกเกิดตะกอนสีแดงอิฐได้ ซึ่งน้ำตาลส่วนใหญ่เป็น Reducing sugar หมดยกเว้นซูโครส 6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


ข. ไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัว แอลกอฮอล์ กรดคาร์บอกซิลิก แป้ง

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


ง. นมถั่วเหลือง กลูโคส น้ำตาลทราย

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


ข. มีข้อถูก 2 ข้อ

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


ข. มีข้อถูก 2 ข้อ

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

21


ค. ข้อ 1 และ ข้อ 3 ถูก

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

22


ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับอะไมโลสและอะไมเลส

จ. อะไมโลส และอะไมเลสไม่ทำปฏิกิริยากับสารละลายนินไฮดริน

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

23


2. Inducer

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

24


2. Lac operon เกี่ยวข้องกับกระบวนการ breakdown ของ lactose

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

25


1. Permease

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 53.45 เต็ม 161

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา