1 |
|
ก. ไข่ขาว , น้ำตาลทราย , เอทิลแอซิเตต |
|
เพราะ x คือการทดสอบโปรตีน y เพราะโมโนแซ็กคาไรด์ทุกชนิดสามารถทำปฏิกิริยากับสารละลายเบเนดิกต์ได้ตะกอนสีแดงอิฐดังนั้นสารละลายที่ได้จากการต้มกับสารละลาย HCl จึงน่าจะมีโมโนแซ็กคาไรด์อยู่ด้วย และzเอทิลแอซิเตตต้มกับ HCl แล้วได้กลิ่นคล้ายน้ำส้มสายชู |
การทดสอบสารอาหารและการทดลองกรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ |
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
|
ข. น้ำมันมะกอกเท่านั้นที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว จึงทำปฏิกิริยาฟอกจางสีโบรมีนได้ |
|
เพราะน้ำมันมะกอกมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวคือโอลีอิกและลิโนเลอิก จึงทำปฏิกิริยาฟอกจางสีโบรมีนได้ |
จากเอกสารประกอบการบรรยายรายการ เปิดประตูสู่มหาวิทยาลัย เรื่องสารชีวโมเลกุล |
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
|
ข้อ ค. |
|
เพราะไขมันอิ่มตัวจะแข็งตัวได้ง่ายกว่าไขมันไม่อิ่มตัว |
หลักการหาคำตอบคือหาเกี่ยวกับเรื่องสารชีวโมเลกุลในส่วนของลิพิดและกรดไขมันอิ่มตัวไม่อิ่มตัว |
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
|
ข้อ จ. |
|
|
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
|
|
|
A เป็นกลีเซอรอล
B เป็นกรดไขมัน
C เป็นไขมันหรือน้ำมัน |
จากโครงสร้างของลิพิด |
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
|
ก.กรดอะมิโน 4 ชนิดจับกันด้วยพันธะเพปไทด์ 3 พันธะ ได้สารประกอบที่เรียนว่าไตรเพปไทด์ |
|
เพราะการเรียกชื่อสารประกอบจะเรียกตามจำนวนของพันธะที่เกิดขึ้น |
1 พันธะ - มอนอเพปไทด์
2 พันธะ - ไดเพปไทดื
3 พันธะ - ไตรเพปไทด์
4 พันธะขึ้นไป - พอลิเพปไทด์ |
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
|
จ. เพปไทด์ที่เกิดจากการรวมตัวของกรดXกรดYและกรดZจะได้โมเลกุลของนํ้าออกมา3โมเลกุล |
|
เพราะการสร้าง1พันธะจะได้น้ำออกมา1โมเลกุล |
การสร้างพันธะโดยใช้วิธีการ dehydration |
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
|
ข. เอนไซม์เป็นสารประเภทโปรตีน |
|
|
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
|
ค. 3 และ 4 |
|
เพราะผู้ป่วยเบาหวานร่างกายไม่สามารถสร้างอินซูลินเองได้ |
หลักการหาคำตอบคือหาจากอาการและสาเหตุของผู้ป่วยโรคเบาหวาน |
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
|
จ. คาร์โบไฮเดรต |
|
เพราะหน่วยย่อยเป็นน้ำตาลฟรักโทสและกลูโคส |
หลักการหาคำตอบคือ โครงสร้างของอินนูลินคืออะไร |
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
|
2. สามารถพบลักษณะของ cell membrane แบบ phospholipid bilayer ได้ |
|
|
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
|
4. ระบบแสง I (PSI) และ ระบบแสง II (PSII) ถูกกระตุ้นการทำงานมากขึ้น ทำให้มีการหลุดของอิเล็กตรอน ในระบบแสงเพิ่มมากขึ้น |
|
|
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
|
จ. กรดอะมิโน |
|
|
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
|
จ. W, X, Y และ Z |
|
เพราะทุกอันคือน้ำตาล |
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
|
ง. ไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัว แอลกอฮอล์ กรดไขมันไม่อิ่มตัว กลูโคส |
|
|
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
|
ข. กรดอะมิโน น้ำตาลทราย ไข่ขาว |
|
เพราะสารzต้องไม่ใช่แป้ง |
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
|
ค. มีข้อถูก 3 ข้อ |
|
|
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
|
|
|
4ชนิด |
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
|
|
|
X:hydrolysis
Y:dehydration
Z:hydrolysis |
ปฏิกิริยาสร้างและสลายพันธะ |
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
|
ง. ถูกทุกข้อ |
|
|
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
21 |
|
ง. ข้อ 2 และ ข้อ 3 ถูก |
|
|
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
22 |
ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับอะไมโลสและอะไมเลส
|
ก. อะไมโลส จัดเป็นพอลิแซ็กคาไรด์แบบโซ่ตรง ที่สามารละลายน้ำได้ |
|
อะไมโลสไม่ละลายน้ำ |
|
6 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
23 |
|
2. Inducer |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
24 |
|
2. Lac operon เกี่ยวข้องกับกระบวนการ breakdown ของ lactose |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
25 |
|
4. Cellular metabolism |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|