ตรวจข้อสอบ > พรนภา ใจมา > ชีววิทยาเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Biology in Medical Science > Part 2 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 4 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


What is the primary function of AI in the medical imaging industry?

To improve diagnostic accuracy and patient outcomes

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญในวงการภาพถ่ายทางการแพทย์ (medical imaging) โดยเฉพาะในด้าน: การวิเคราะห์ภาพถ่ายรังสี เช่น เอกซเรย์, CT scan, MRI ได้แม่นยำและรวดเร็วขึ้นกว่ามนุษย์ ช่วยแพทย์ระบุโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด หรือโรคสมอง Machine Learning in Imaging: ใช้โมเดลเรียนรู้จากข้อมูลภาพจำนวนมาก เพื่อระบุรูปแบบของโรค (pattern recognition) 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


Which of the following is a key benefit of AI in radiology noted in the article?

Acts as a second medical opinion

บทบาทสำคัญของ AI ในรังสีวิทยา (radiology) คือ: ทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยทางคลินิก” โดยเปรียบเสมือน แพทย์อีกคนที่ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติม จากข้อมูลภาพทางการแพทย์ ช่วยยืนยันหรือเตือนแพทย์หากมีความผิดปกติที่อาจมองข้าม เช่น มะเร็งขนาดเล็กในภาพ CT หรือจุดเลือดออกในสมอง Augmented Intelligence: AI ไม่ได้มาแทนมนุษย์ แต่เสริมศักยภาพในการตัดสินใจของผู้เชี่ยวชาญ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


What does AI literacy refer to according to the article?

Understanding and knowledge of AI technology

ในบทความที่กล่าวถึง AI literacy (ความรอบรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์) ได้ให้ความหมายว่า: เป็น ความสามารถของบุคคลในการเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานของ AI รวมถึงการรู้ว่า AI ถูกนำมาใช้ทำอะไร มีข้อจำกัดอะไร และส่งผลต่อระบบสุขภาพหรือการตัดสินใจทางการแพทย์อย่างไร AI Literacy Framework: ระบุว่า AI literacy ไม่ได้หมายถึงความสามารถในการเขียนโค้ด แต่หมายถึงความเข้าใจกลไกและการใช้งาน AI ในชีวิตจริง 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


Which factor is NOT listed as influencing the acceptability of AI among healthcare professionals?

The color of the AI machines

ในบทความเกี่ยวกับการยอมรับ AI ของบุคลากรทางการแพทย์ มีการระบุปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความยอมรับ เช่น: Trust in AI systems: แพทย์ต้องเชื่อมั่นในความแม่นยำและความปลอดภัยของ AI System understanding: ความเข้าใจในหลักการทำงานของ AI ทำให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจ Integration with existing workflows: AI ที่เข้ากันได้กับกระบวนการทำงานเดิม ช่วยให้บุคลากรยอมรับง่ายขึ้น Technology receptiveness: ความเปิดรับต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ของแต่ละบุคคลก็เป็นปัจจัยสำคัญ ในขณะที่ “สีของเครื่อง AI” ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ ความยอมรับเชิงวิชาชีพ หรือการตัดสินใจใช้งานระบบ AI แต่อย่างใด จึงไม่ใช่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในเชิงวิชาการ Technology Acceptance Model (TAM): ความยอมรับในเทคโนโลยีขึ้นอยู่กับความเข้าใจ ความเชื่อมั่น และการใช้งานได้จริงในงานประจำ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


What role does social influence play in AI acceptability in healthcare according to the article?

Affects healthcare professionals’ decisions to use AI

บทความกล่าวว่า Social influence (อิทธิพลทางสังคม) มีบทบาทสำคัญในการทำให้บุคลากรทางการแพทย์ตัดสินใจว่าจะ “ใช้” หรือ “ไม่ใช้” AI ในการทำงาน โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่: ความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงาน แพทย์รุ่นพี่ หรือผู้เชี่ยวชาญ บรรยากาศในองค์กร หากมีการสนับสนุน AI อย่างชัดเจน ก็จะส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้งาน แรงจูงใจจากเครือข่ายวิชาชีพ เช่น การได้รับการยอมรับจากคนในวงการ ตัวอย่าง: ถ้าแพทย์ในโรงพยาบาลใช้ AI และเห็นว่ามีประโยชน์ คนอื่น ๆ ก็จะยอมรับและอยากลองใช้ตาม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอิทธิพลทางสังคมที่ทำให้เกิดการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ Technology Acceptance Model (TAM2): อธิบายว่า social influence คือปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ใช้เชื่อว่าการใช้เทคโนโลยีคือสิ่ง “เหมาะสม” หรือ “คาดหวังจากสังคม” 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


What is a perceived threat regarding AI usage in healthcare settings?

Concerns about replacing healthcare professionals

ในการใช้งาน AI ในระบบสุขภาพ หนึ่งใน “ภัยคุกคามที่ถูกรับรู้ (perceived threat)” ที่พบบ่อยที่สุด คือ: ความกังวลของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ว่า AI อาจเข้ามาแทนที่บทบาทของมนุษย์ ทำให้เกิด ความไม่มั่นใจ หรือ ต่อต้านการนำ AI เข้ามาใช้ในโรงพยาบาลหรือคลินิก Perceived Job Displacement Theory: ความรู้สึกว่าตำแหน่งงานอาจถูกแทนที่โดยเทคโนโลยี ทำให้เกิดความต้านทาน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


According to the article, what is essential for increasing AI acceptability among medical professionals?

Designing human-centred AI systems

บทความชี้ว่า สิ่งสำคัญต่อการเพิ่มการยอมรับ AI ของบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ใช่แค่เรื่องประสิทธิภาพของอัลกอริทึม (แม้จะสำคัญ) แต่คือ: การออกแบบ AI ให้สามารถ สื่อสาร เข้าใจ และทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ได้จริง ระบบควรมี อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ควรสามารถ อธิบายได้ว่า AI วิเคราะห์ผลอย่างไร เพื่อให้แพทย์ไว้ใจและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ Human-Centred Design (HCD): แนวทางการออกแบบเทคโนโลยีโดยยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


What does the 'system usage' category of AI acceptability factors include according to the article?

Factors like value proposition and integration with workflows

บทความอธิบายว่า ในหมวดหมู่ “system usage” ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยของ AI acceptability (ความยอมรับในระบบ AI) นั้น จะครอบคลุม: Value proposition (ข้อเสนอคุณค่า) → หมายถึง AI ต้องช่วยให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ง่ายขึ้น แม่นยำขึ้น หรือปลอดภัยขึ้น จึงจะได้รับการยอมรับ Workflow integration (การผสานเข้ากับกระบวนการทำงาน) → หากระบบ AI ใช้งานได้ลื่นไหล ไม่ขัดจังหวะหรือเพิ่มภาระงาน ก็จะทำให้บุคลากรยอมรับมากขึ้น Technology Acceptance Frameworks (TAM/UTAUT): การใช้งานจริงจะเกิดขึ้นเมื่อระบบมีประโยชน์ชัดเจน (performance expectancy) และใช้งานสะดวก (effort expectancy) 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


How does ethicality impact AI acceptability among healthcare professionals?

Affects views on AI based on compatibility with professional values

บทความอธิบายว่า ethicality (จริยธรรมของระบบ AI) เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการยอมรับ AI ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เพราะ: แพทย์และเจ้าหน้าที่ต้องมั่นใจว่า AI ทำงาน สอดคล้องกับค่านิยมทางจริยธรรม เช่น การรักษาความลับผู้ป่วย, ความปลอดภัย, ความเท่าเทียม หาก AI มีอคติ (bias), ไม่โปร่งใส (black-box decision) หรือไม่สามารถอธิบายได้ → จะเกิด ความไม่ไว้วางใจ และไม่ถูกนำไปใช้จริง Ethical AI Principles: ต้องออกแบบโดยคำนึงถึงความยุติธรรม ความโปร่งใส และสิทธิมนุษยชน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


What methodological approach did the article emphasize for future AI acceptability studies?

Considering user experience and system integration deeply

บทความเน้นว่า สำหรับการศึกษาความยอมรับใน AI ทางการแพทย์ในอนาคต ไม่ควรเน้นแค่ปัจจัยทางเศรษฐกิจหรือเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่ควร: มุ่งเน้นที่ “ประสบการณ์ของผู้ใช้ (user experience)” เช่น ความง่ายในการใช้งาน การเข้าใจผลลัพธ์ การตอบสนองต่อความต้องการของแพทย์/พยาบาล และควรศึกษาด้าน “การผสานระบบ AI เข้ากับการทำงานจริง (system integration)” เช่น การเชื่อมต่อกับระบบเวชระเบียน (EMR), เวิร์กโฟลว์การดูแลผู้ป่วย User-Centred Design (UCD): การออกแบบเทคโนโลยีที่เริ่มต้นจากความเข้าใจผู้ใช้จริง 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


What is the primary objective of using human embryonic stem cells in treating Parkinson’s disease?

To replace lost dopamine neurons.

โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) เป็นโรคทางระบบประสาทที่เกิดจาก การเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทโดปามีน (dopaminergic neurons) ในสมองส่วน substantia nigra ซึ่งทำให้เกิดอาการสั่น เกร็ง เคลื่อนไหวช้า และสูญเสียการทรงตัว การใช้ เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมนุษย์ (human embryonic stem cells) เป็นแนวทางที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการพัฒนาเซลล์ประสาทโดปามีนใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อ: ทดแทนเซลล์ประสาทที่เสียไป ด้วยเซลล์ที่สามารถผลิตโดปามีนได้ ฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาทที่บกพร่อง Cell Replacement Therapy: แนวคิดหลักของการใช้ stem cell ในโรคพาร์กินสัน คือการปลูกถ่ายเซลล์ที่สามารถพัฒนาเป็น dopaminergic neurons 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Which animal was used to test the STEM-PD product for safety and efficacy?

Monkeys

ในงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ STEM-PD (ผลิตภัณฑ์เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อรักษาโรคพาร์กินสัน) ได้มีการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของเซลล์ที่ผลิตจาก human embryonic stem cells โดยใช้ ลิง (monkeys) เป็นสัตว์ทดลองก่อนที่จะเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ สาเหตุที่เลือกใช้ลิง: ระบบประสาทของลิงมีความคล้ายกับมนุษย์มากกว่าสัตว์ชนิดอื่น เช่น หนูหรือกระต่าย ลิงสามารถแสดงอาการของโรคพาร์กินสันได้ใกล้เคียงกับมนุษย์ เมื่อถูกเหนี่ยวนำด้วยสารพิษต่อเซลล์ประสาท (เช่น MPTP) Translational Research: การใช้สัตว์ทดลองที่มีลักษณะทางกายวิภาคและระบบประสาทใกล้เคียงมนุษย์เพื่อทดสอบก่อนเข้าสู่การทดลองในคน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


What was the duration of the preclinical safety study in rats mentioned in the article?

12 months

บทความกล่าวถึงการทดลองความปลอดภัยก่อนการใช้ในมนุษย์ (preclinical safety study) ของผลิตภัณฑ์ STEM-PD โดยใช้หนูทดลอง (rats) เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 12 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลานานพอที่จะ: ตรวจสอบว่าการปลูกถ่ายเซลล์จาก human embryonic stem cells มีความปลอดภัยหรือไม่ Good Laboratory Practice (GLP): มาตรฐานการทดลองก่อนคลินิกต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวพอ เช่น 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับอายุขัยสัตว์และชนิดของการรักษา 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


What is the name of the clinical trial phase mentioned for STEM-PD?

Phase I/IIa

บทความระบุว่า STEM-PD ซึ่งเป็นการบำบัดโรคพาร์กินสันด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (stem cell therapy) กำลังเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ใน ระยะ Phase I/IIa ซึ่งเป็นขั้นตอนเริ่มต้นของการศึกษาในคนจริง โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ: Phase I → ทดสอบ ความปลอดภัย ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาสาสมัครจำนวนน้อย Phase IIa → เริ่มประเมิน ประสิทธิภาพเบื้องต้น ร่วมกับความปลอดภัยในกลุ่มผู้ป่วยจริง การรวม Phase I/IIa ทำเพื่อเร่งกระบวนการวิจัย โดยสามารถประเมินทั้งความปลอดภัยและสัญญาณประสิทธิภาพเบื้องต้นได้พร้อมกัน ซึ่งเหมาะกับเทคโนโลยีใหม่อย่างการปลูกถ่ายเซลล์ Combined Phase Trials: มักใช้ในกรณีการรักษาโรคเรื้อรังที่ไม่มีทางรักษาหรือการทดลองผลิตภัณฑ์ชีวภาพใหม่ เช่น เซลล์บำบัดหรือยีนบำบัด 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


How is the STEM-PD product manufactured?

Under GMP-compliant conditions

ผลิตภัณฑ์ STEM-PD ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการรักษาโรคพาร์กินสันในมนุษย์ ซึ่งต้องผ่าน ขั้นตอนการผลิตที่เข้มงวดและมีมาตรฐานระดับสูง เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ ความปลอดภัย และความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ โดยบทความระบุว่า: การผลิตเซลล์ของ STEM-PD ดำเนินการ ภายใต้ข้อกำหนดของ GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับการผลิตยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ มีการควบคุมสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิต บุคลากร วัสดุ และการบันทึกข้อมูลอย่างเข้มงวด GMP (Good Manufacturing Practice): มาตรฐานการผลิตที่เน้นคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


According to the article, what confirmed the safety of the STEM-PD product in rats?

There were no adverse effects or tumor formation.

นการศึกษาก่อนคลินิก (preclinical study) ของผลิตภัณฑ์ STEM-PD ในหนูทดลอง (rats) นักวิจัยต้องการยืนยันว่า: เซลล์ต้นกำเนิดที่พัฒนาแล้ว ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ไม่มีการเจริญเติบโตแบบผิดปกติ หรือ ไม่ก่อเนื้องอก (tumorigenicity) Tumorigenicity Testing: เป็นหัวใจของการประเมินความปลอดภัยของเซลล์จาก human embryonic stem cells 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


What key finding was noted in the efficacy study of STEM-PD in rats?

Transplanted cells reversed motor deficits in rats.

ใน การศึกษาประสิทธิภาพ (efficacy study) ของผลิตภัณฑ์ STEM-PD ซึ่งใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมนุษย์ที่พัฒนาเป็นเซลล์ประสาทโดปามีน (dopaminergic neurons) พบว่า: หนูทดลองที่มีอาการคล้ายโรคพาร์กินสัน (เช่น เคลื่อนไหวช้าหรือไม่สมดุล) ได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ เซลล์เหล่านี้สามารถ อยู่รอดและเจริญเป็นเซลล์โดปามีน Functional Recovery Assessment: การฟื้นตัวของพฤติกรรมการเคลื่อนไหวหลังปลูกถ่ายเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการบำบัด 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


What specific markers were used to assess the purity of the STEM-PD batch?

GIRK2 and ALDH1A1

ในการผลิตเซลล์สำหรับการรักษาโรคพาร์กินสันอย่าง STEM-PD สิ่งสำคัญคือการประเมินว่าเซลล์ที่ได้ มีความบริสุทธิ์และจำเพาะต่อเซลล์ประสาทโดปามีนชนิดที่ต้องการ จริงหรือไม่ โดยเฉพาะ: GIRK2 (G protein-activated inward rectifier potassium channel 2) Cell identity validation: ต้องประเมิน marker เฉพาะเพื่อมั่นใจว่าเป็นเซลล์ที่ต้องการ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


What role do growth factors like FGF8b and SHH play in the manufacturing process of STEM-PD?

They are used in cell patterning for specific neural fates.

นกระบวนการผลิต STEM-PD ซึ่งต้องการเปลี่ยนเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนมนุษย์ (hESCs) ให้กลายเป็น เซลล์ประสาทโดปามีนชนิด A9 จำเป็นต้องใช้ growth factors เฉพาะ เช่น: SHH (Sonic Hedgehog) FGF8b (Fibroblast Growth Factor 8b) สองตัวนี้มีบทบาทสำคัญในการ “cell patterning” หรือ กำหนดชะตากรรมเซลล์ (neural fate specification) ให้พัฒนาไปเป็นเซลล์ประสาทของ midbrain (mesencephalon) ซึ่งเป็นบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโดปามีน และมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับโรคพาร์กินสัน การใช้ growth factor เหล่านี้ในช่วงต้นของการแยกเซลล์ช่วยให้ได้เซลล์ที่มีลักษณะเฉพาะใกล้เคียงกับ A9 dopaminergic neurons มากที่สุด ซึ่งเป็นเป้าหมายในการรักษา 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


What was a key outcome measured in the preclinical trials for efficacy in rats?

Recovery of motor function

หนึ่งใน ตัวชี้วัดผลลัพธ์สำคัญ (key outcome) ของการทดลองก่อนคลินิก (preclinical trials) สำหรับ STEM-PD ในหนูทดลองคือ: การฟื้นตัวของความสามารถในการเคลื่อนไหว หลังจากได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ประสาทโดปามีนที่ได้จากเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนมนุษย์ Functional behavioral tests ใช้เพื่อประเมินการฟื้นตัวหลังจากการบำบัดด้วยเซลล์ เช่น amphetamine-induced rotations, cylinder test 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 119.75 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา