1 |
What is the primary function of AI in the medical imaging industry?
|
To improve diagnostic accuracy and patient outcomes |
|
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญในวงการภาพถ่ายทางการแพทย์ (medical imaging) โดยเฉพาะในด้าน:
การวิเคราะห์ภาพถ่ายรังสี เช่น เอกซเรย์, CT scan, MRI ได้แม่นยำและรวดเร็วขึ้นกว่ามนุษย์
ช่วยแพทย์ระบุโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด หรือโรคสมอง |
Machine Learning in Imaging: ใช้โมเดลเรียนรู้จากข้อมูลภาพจำนวนมาก เพื่อระบุรูปแบบของโรค (pattern recognition) |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
Which of the following is a key benefit of AI in radiology noted in the article?
|
Acts as a second medical opinion |
|
บทบาทสำคัญของ AI ในรังสีวิทยา (radiology) คือ:
ทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยทางคลินิก” โดยเปรียบเสมือน แพทย์อีกคนที่ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติม จากข้อมูลภาพทางการแพทย์
ช่วยยืนยันหรือเตือนแพทย์หากมีความผิดปกติที่อาจมองข้าม เช่น มะเร็งขนาดเล็กในภาพ CT หรือจุดเลือดออกในสมอง |
Augmented Intelligence: AI ไม่ได้มาแทนมนุษย์ แต่เสริมศักยภาพในการตัดสินใจของผู้เชี่ยวชาญ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
What does AI literacy refer to according to the article?
|
Understanding and knowledge of AI technology |
|
ในบทความที่กล่าวถึง AI literacy (ความรอบรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์) ได้ให้ความหมายว่า:
เป็น ความสามารถของบุคคลในการเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานของ AI
รวมถึงการรู้ว่า AI ถูกนำมาใช้ทำอะไร มีข้อจำกัดอะไร และส่งผลต่อระบบสุขภาพหรือการตัดสินใจทางการแพทย์อย่างไร |
AI Literacy Framework: ระบุว่า AI literacy ไม่ได้หมายถึงความสามารถในการเขียนโค้ด แต่หมายถึงความเข้าใจกลไกและการใช้งาน AI ในชีวิตจริง |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
Which factor is NOT listed as influencing the acceptability of AI among healthcare professionals?
|
The color of the AI machines |
|
ในบทความเกี่ยวกับการยอมรับ AI ของบุคลากรทางการแพทย์ มีการระบุปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความยอมรับ เช่น:
Trust in AI systems: แพทย์ต้องเชื่อมั่นในความแม่นยำและความปลอดภัยของ AI
System understanding: ความเข้าใจในหลักการทำงานของ AI ทำให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจ
Integration with existing workflows: AI ที่เข้ากันได้กับกระบวนการทำงานเดิม ช่วยให้บุคลากรยอมรับง่ายขึ้น
Technology receptiveness: ความเปิดรับต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ของแต่ละบุคคลก็เป็นปัจจัยสำคัญ
ในขณะที่ “สีของเครื่อง AI” ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ ความยอมรับเชิงวิชาชีพ หรือการตัดสินใจใช้งานระบบ AI แต่อย่างใด จึงไม่ใช่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในเชิงวิชาการ |
Technology Acceptance Model (TAM): ความยอมรับในเทคโนโลยีขึ้นอยู่กับความเข้าใจ ความเชื่อมั่น และการใช้งานได้จริงในงานประจำ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
What role does social influence play in AI acceptability in healthcare according to the article?
|
Affects healthcare professionals’ decisions to use AI |
|
บทความกล่าวว่า Social influence (อิทธิพลทางสังคม) มีบทบาทสำคัญในการทำให้บุคลากรทางการแพทย์ตัดสินใจว่าจะ “ใช้” หรือ “ไม่ใช้” AI ในการทำงาน โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่:
ความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงาน แพทย์รุ่นพี่ หรือผู้เชี่ยวชาญ
บรรยากาศในองค์กร หากมีการสนับสนุน AI อย่างชัดเจน ก็จะส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้งาน
แรงจูงใจจากเครือข่ายวิชาชีพ เช่น การได้รับการยอมรับจากคนในวงการ
ตัวอย่าง: ถ้าแพทย์ในโรงพยาบาลใช้ AI และเห็นว่ามีประโยชน์ คนอื่น ๆ ก็จะยอมรับและอยากลองใช้ตาม
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอิทธิพลทางสังคมที่ทำให้เกิดการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ |
Technology Acceptance Model (TAM2): อธิบายว่า social influence คือปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ใช้เชื่อว่าการใช้เทคโนโลยีคือสิ่ง “เหมาะสม” หรือ “คาดหวังจากสังคม” |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
What is a perceived threat regarding AI usage in healthcare settings?
|
Concerns about replacing healthcare professionals |
|
ในการใช้งาน AI ในระบบสุขภาพ หนึ่งใน “ภัยคุกคามที่ถูกรับรู้ (perceived threat)” ที่พบบ่อยที่สุด คือ:
ความกังวลของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ว่า AI อาจเข้ามาแทนที่บทบาทของมนุษย์
ทำให้เกิด ความไม่มั่นใจ หรือ ต่อต้านการนำ AI เข้ามาใช้ในโรงพยาบาลหรือคลินิก |
Perceived Job Displacement Theory: ความรู้สึกว่าตำแหน่งงานอาจถูกแทนที่โดยเทคโนโลยี ทำให้เกิดความต้านทาน |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
According to the article, what is essential for increasing AI acceptability among medical professionals?
|
Designing human-centred AI systems |
|
บทความชี้ว่า สิ่งสำคัญต่อการเพิ่มการยอมรับ AI ของบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ใช่แค่เรื่องประสิทธิภาพของอัลกอริทึม (แม้จะสำคัญ) แต่คือ:
การออกแบบ AI ให้สามารถ สื่อสาร เข้าใจ และทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ได้จริง
ระบบควรมี อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
ควรสามารถ อธิบายได้ว่า AI วิเคราะห์ผลอย่างไร เพื่อให้แพทย์ไว้ใจและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ |
Human-Centred Design (HCD): แนวทางการออกแบบเทคโนโลยีโดยยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
What does the 'system usage' category of AI acceptability factors include according to the article?
|
Factors like value proposition and integration with workflows |
|
บทความอธิบายว่า ในหมวดหมู่ “system usage” ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยของ AI acceptability (ความยอมรับในระบบ AI) นั้น จะครอบคลุม:
Value proposition (ข้อเสนอคุณค่า) → หมายถึง AI ต้องช่วยให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ง่ายขึ้น แม่นยำขึ้น หรือปลอดภัยขึ้น จึงจะได้รับการยอมรับ
Workflow integration (การผสานเข้ากับกระบวนการทำงาน) → หากระบบ AI ใช้งานได้ลื่นไหล ไม่ขัดจังหวะหรือเพิ่มภาระงาน ก็จะทำให้บุคลากรยอมรับมากขึ้น |
Technology Acceptance Frameworks (TAM/UTAUT): การใช้งานจริงจะเกิดขึ้นเมื่อระบบมีประโยชน์ชัดเจน (performance expectancy) และใช้งานสะดวก (effort expectancy)
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
How does ethicality impact AI acceptability among healthcare professionals?
|
Affects views on AI based on compatibility with professional values |
|
บทความอธิบายว่า ethicality (จริยธรรมของระบบ AI) เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการยอมรับ AI ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เพราะ:
แพทย์และเจ้าหน้าที่ต้องมั่นใจว่า AI ทำงาน สอดคล้องกับค่านิยมทางจริยธรรม เช่น การรักษาความลับผู้ป่วย, ความปลอดภัย, ความเท่าเทียม
หาก AI มีอคติ (bias), ไม่โปร่งใส (black-box decision) หรือไม่สามารถอธิบายได้ → จะเกิด ความไม่ไว้วางใจ และไม่ถูกนำไปใช้จริง |
Ethical AI Principles: ต้องออกแบบโดยคำนึงถึงความยุติธรรม ความโปร่งใส และสิทธิมนุษยชน |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
What methodological approach did the article emphasize for future AI acceptability studies?
|
Considering user experience and system integration deeply |
|
บทความเน้นว่า สำหรับการศึกษาความยอมรับใน AI ทางการแพทย์ในอนาคต ไม่ควรเน้นแค่ปัจจัยทางเศรษฐกิจหรือเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่ควร:
มุ่งเน้นที่ “ประสบการณ์ของผู้ใช้ (user experience)” เช่น ความง่ายในการใช้งาน การเข้าใจผลลัพธ์ การตอบสนองต่อความต้องการของแพทย์/พยาบาล
และควรศึกษาด้าน “การผสานระบบ AI เข้ากับการทำงานจริง (system integration)” เช่น การเชื่อมต่อกับระบบเวชระเบียน (EMR), เวิร์กโฟลว์การดูแลผู้ป่วย |
User-Centred Design (UCD): การออกแบบเทคโนโลยีที่เริ่มต้นจากความเข้าใจผู้ใช้จริง |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
What is the primary objective of using human embryonic stem cells in treating Parkinson’s disease?
|
To replace lost dopamine neurons. |
|
โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) เป็นโรคทางระบบประสาทที่เกิดจาก การเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทโดปามีน (dopaminergic neurons) ในสมองส่วน substantia nigra ซึ่งทำให้เกิดอาการสั่น เกร็ง เคลื่อนไหวช้า และสูญเสียการทรงตัว
การใช้ เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมนุษย์ (human embryonic stem cells) เป็นแนวทางที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการพัฒนาเซลล์ประสาทโดปามีนใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อ:
ทดแทนเซลล์ประสาทที่เสียไป ด้วยเซลล์ที่สามารถผลิตโดปามีนได้
ฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาทที่บกพร่อง |
Cell Replacement Therapy: แนวคิดหลักของการใช้ stem cell ในโรคพาร์กินสัน คือการปลูกถ่ายเซลล์ที่สามารถพัฒนาเป็น dopaminergic neurons |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
Which animal was used to test the STEM-PD product for safety and efficacy?
|
Monkeys |
|
ในงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ STEM-PD (ผลิตภัณฑ์เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อรักษาโรคพาร์กินสัน) ได้มีการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของเซลล์ที่ผลิตจาก human embryonic stem cells โดยใช้ ลิง (monkeys) เป็นสัตว์ทดลองก่อนที่จะเข้าสู่การทดลองในมนุษย์
สาเหตุที่เลือกใช้ลิง:
ระบบประสาทของลิงมีความคล้ายกับมนุษย์มากกว่าสัตว์ชนิดอื่น เช่น หนูหรือกระต่าย
ลิงสามารถแสดงอาการของโรคพาร์กินสันได้ใกล้เคียงกับมนุษย์ เมื่อถูกเหนี่ยวนำด้วยสารพิษต่อเซลล์ประสาท (เช่น MPTP) |
Translational Research: การใช้สัตว์ทดลองที่มีลักษณะทางกายวิภาคและระบบประสาทใกล้เคียงมนุษย์เพื่อทดสอบก่อนเข้าสู่การทดลองในคน |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
What was the duration of the preclinical safety study in rats mentioned in the article?
|
12 months |
|
บทความกล่าวถึงการทดลองความปลอดภัยก่อนการใช้ในมนุษย์ (preclinical safety study) ของผลิตภัณฑ์ STEM-PD โดยใช้หนูทดลอง (rats) เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 12 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลานานพอที่จะ:
ตรวจสอบว่าการปลูกถ่ายเซลล์จาก human embryonic stem cells มีความปลอดภัยหรือไม่ |
Good Laboratory Practice (GLP): มาตรฐานการทดลองก่อนคลินิกต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวพอ เช่น 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับอายุขัยสัตว์และชนิดของการรักษา
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
What is the name of the clinical trial phase mentioned for STEM-PD?
|
Phase I/IIa |
|
บทความระบุว่า STEM-PD ซึ่งเป็นการบำบัดโรคพาร์กินสันด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (stem cell therapy) กำลังเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ใน ระยะ Phase I/IIa ซึ่งเป็นขั้นตอนเริ่มต้นของการศึกษาในคนจริง โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ:
Phase I → ทดสอบ ความปลอดภัย ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาสาสมัครจำนวนน้อย
Phase IIa → เริ่มประเมิน ประสิทธิภาพเบื้องต้น ร่วมกับความปลอดภัยในกลุ่มผู้ป่วยจริง
การรวม Phase I/IIa ทำเพื่อเร่งกระบวนการวิจัย โดยสามารถประเมินทั้งความปลอดภัยและสัญญาณประสิทธิภาพเบื้องต้นได้พร้อมกัน ซึ่งเหมาะกับเทคโนโลยีใหม่อย่างการปลูกถ่ายเซลล์ |
Combined Phase Trials: มักใช้ในกรณีการรักษาโรคเรื้อรังที่ไม่มีทางรักษาหรือการทดลองผลิตภัณฑ์ชีวภาพใหม่ เช่น เซลล์บำบัดหรือยีนบำบัด |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
How is the STEM-PD product manufactured?
|
Under GMP-compliant conditions |
|
ผลิตภัณฑ์ STEM-PD ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการรักษาโรคพาร์กินสันในมนุษย์ ซึ่งต้องผ่าน ขั้นตอนการผลิตที่เข้มงวดและมีมาตรฐานระดับสูง เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ ความปลอดภัย และความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ โดยบทความระบุว่า:
การผลิตเซลล์ของ STEM-PD ดำเนินการ ภายใต้ข้อกำหนดของ GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับการผลิตยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
มีการควบคุมสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิต บุคลากร วัสดุ และการบันทึกข้อมูลอย่างเข้มงวด |
GMP (Good Manufacturing Practice): มาตรฐานการผลิตที่เน้นคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
According to the article, what confirmed the safety of the STEM-PD product in rats?
|
There were no adverse effects or tumor formation. |
|
นการศึกษาก่อนคลินิก (preclinical study) ของผลิตภัณฑ์ STEM-PD ในหนูทดลอง (rats) นักวิจัยต้องการยืนยันว่า:
เซลล์ต้นกำเนิดที่พัฒนาแล้ว ไม่ก่อให้เกิดอันตราย
ไม่มีการเจริญเติบโตแบบผิดปกติ หรือ ไม่ก่อเนื้องอก (tumorigenicity) |
Tumorigenicity Testing: เป็นหัวใจของการประเมินความปลอดภัยของเซลล์จาก human embryonic stem cells |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
What key finding was noted in the efficacy study of STEM-PD in rats?
|
Transplanted cells reversed motor deficits in rats. |
|
ใน การศึกษาประสิทธิภาพ (efficacy study) ของผลิตภัณฑ์ STEM-PD ซึ่งใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมนุษย์ที่พัฒนาเป็นเซลล์ประสาทโดปามีน (dopaminergic neurons) พบว่า:
หนูทดลองที่มีอาการคล้ายโรคพาร์กินสัน (เช่น เคลื่อนไหวช้าหรือไม่สมดุล) ได้รับการปลูกถ่ายเซลล์
เซลล์เหล่านี้สามารถ อยู่รอดและเจริญเป็นเซลล์โดปามีน |
Functional Recovery Assessment: การฟื้นตัวของพฤติกรรมการเคลื่อนไหวหลังปลูกถ่ายเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการบำบัด |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
What specific markers were used to assess the purity of the STEM-PD batch?
|
GIRK2 and ALDH1A1 |
|
ในการผลิตเซลล์สำหรับการรักษาโรคพาร์กินสันอย่าง STEM-PD สิ่งสำคัญคือการประเมินว่าเซลล์ที่ได้ มีความบริสุทธิ์และจำเพาะต่อเซลล์ประสาทโดปามีนชนิดที่ต้องการ จริงหรือไม่ โดยเฉพาะ:
GIRK2 (G protein-activated inward rectifier potassium channel 2) |
Cell identity validation: ต้องประเมิน marker เฉพาะเพื่อมั่นใจว่าเป็นเซลล์ที่ต้องการ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
What role do growth factors like FGF8b and SHH play in the manufacturing process of STEM-PD?
|
They are used in cell patterning for specific neural fates. |
|
นกระบวนการผลิต STEM-PD ซึ่งต้องการเปลี่ยนเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนมนุษย์ (hESCs) ให้กลายเป็น เซลล์ประสาทโดปามีนชนิด A9 จำเป็นต้องใช้ growth factors เฉพาะ เช่น:
SHH (Sonic Hedgehog)
FGF8b (Fibroblast Growth Factor 8b)
สองตัวนี้มีบทบาทสำคัญในการ “cell patterning” หรือ กำหนดชะตากรรมเซลล์ (neural fate specification) ให้พัฒนาไปเป็นเซลล์ประสาทของ midbrain (mesencephalon) ซึ่งเป็นบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโดปามีน และมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับโรคพาร์กินสัน |
การใช้ growth factor เหล่านี้ในช่วงต้นของการแยกเซลล์ช่วยให้ได้เซลล์ที่มีลักษณะเฉพาะใกล้เคียงกับ A9 dopaminergic neurons มากที่สุด ซึ่งเป็นเป้าหมายในการรักษา |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
What was a key outcome measured in the preclinical trials for efficacy in rats?
|
Recovery of motor function |
|
หนึ่งใน ตัวชี้วัดผลลัพธ์สำคัญ (key outcome) ของการทดลองก่อนคลินิก (preclinical trials) สำหรับ STEM-PD ในหนูทดลองคือ:
การฟื้นตัวของความสามารถในการเคลื่อนไหว หลังจากได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ประสาทโดปามีนที่ได้จากเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อนมนุษย์ |
Functional behavioral tests ใช้เพื่อประเมินการฟื้นตัวหลังจากการบำบัดด้วยเซลล์ เช่น amphetamine-induced rotations, cylinder test |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|