ตรวจข้อสอบ > กิตติภูมินท์ ธัญยาธนาภิวัฒน์ > การแข่งขันและทดสอบความถนัดทางการแพทย์ | ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย > Part 2 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 86 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


เป้าหมายหลักของการใช้การสัมผัสปลายนิ้วของมนุษย์ในกระบวนการประกอบหุ่นยนต์คืออะไร

เพื่อกำจัดความล้มเหลวในการประกอบ เช่น การกัดเพลาและรู

การใช้การสัมผัสปลายนิ้วของมนุษย์ในกระบวนการประกอบหุ่นยนต์ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถรับรู้และปรับตำแหน่งชิ้นส่วนได้แม่นยำขึ้น ลดข้อผิดพลาด เช่น การกัดเพลา การประกอบรูไม่ตรงกัน จึงช่วยเพิ่มคุณภาพและลดความเสียหายของชิ้นงาน งานวิจัยด้าน robotic assembly ชี้ว่าการรับรู้สัมผัสช่วยลดความล้มเหลวในการประกอบและเพิ่มประสิทธิภาพ การออกแบบแขนหุ่นยนต์ที่มีเซ็นเซอร์สัมผัสช่วยให้ระบบควบคุมสามารถตอบสนองแบบเรียลไทม์ได้ดีขึ้น 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


อุปกรณ์ใดใช้วัดข้อมูลแรงระหว่างงานประกอบ

อุปกรณ์วัดแรงด้วยเซ็นเซอร์ความดัน

อุปกรณ์วัดแรงด้วยเซ็นเซอร์ความดันถูกออกแบบมาเพื่อวัดแรงที่เกิดขึ้นระหว่างงานประกอบ เช่น แรงกด แรงดึง หรือแรงบิด ซึ่งสำคัญต่อการควบคุมและประเมินประสิทธิภาพของกระบวนการประกอบในระบบหุ่นยนต์และเครื่องจักร ซ็นเซอร์วัดแรง (Force Sensor) ทำงานโดยแปลงแรงกลเป็นสัญญาณไฟฟ้า เพื่อนำไปวิเคราะห์ โพเทนชิออมิเตอร์ (Potentiometer) ใช้วัดตำแหน่งหรือมุม ไม่ได้วัดแรง 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


จากการศึกษาวิจัยได้อธิบายวิธีการใดเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวในการประกอบระบบหุ่นยนต์

การวัดข้อมูลแรงสัมผัสและการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


การวัดวิถีการเคลื่อนที่ของชิ้นงานระหว่างงานประกอบมีความสำคัญอย่างไร

เพื่อประเมินความแม่นยำของเส้นทางของหุ่นยนต์และป้องกันการเยื้องศูนย์

การวัดวิถีการเคลื่อนที่ช่วยให้ตรวจสอบว่าชิ้นงานและแขนหุ่นยนต์เคลื่อนที่ตามเส้นทางที่กำหนดอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งช่วยป้องกันการเยื้องศูนย์หรือความผิดพลาดในการวางตำแหน่งชิ้นส่วน ลดโอกาสความเสียหายและเพิ่มประสิทธิภาพการประกอบ หลักการ trajectory tracking ในระบบหุ่นยนต์เน้นความแม่นยำของเส้นทางเพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ งานวิจัยด้าน robotic control systems ใช้การวัดวิถีเคลื่อนที่เพื่อลดข้อผิดพลาดและเพิ่มคุณภาพงานประกอบ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


ส่วนประกอบใดที่จำเป็นสำหรับการคำนวณแรงปฏิกิริยาแนวนอนระหว่างกระบวนการจับยึด

ไมโครคอมพิวเตอร์ Arduino Mega

Arduino Mega ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงเซ็นเซอร์วัดแรงกด เพื่อคำนวณแรงปฏิกิริยาแนวนอนในกระบวนการจับยึด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมและปรับแรงจับให้เหมาะสม งานวิจัยด้านหุ่นยนต์เน้นบทบาทของไมโครคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูลเพื่อควบคุมการทำงาน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


เหตุใดจึงใช้โพเทนชิโอมิเตอร์ (Potentiometers) ในอุปกรณ์ตรวจวัดการเคลื่อนไหว

เพื่อกำหนดมุมการหมุนของข้อต่อชุดประกอบ

โพเทนชิออมิเตอร์ทำหน้าที่วัดตำแหน่งมุมหมุนของข้อต่อในชุดประกอบ โดยแปลงการหมุนเป็นค่าความต้านทานไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลง ทำให้สามารถระบุมุมและตำแหน่งของข้อต่อได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสำคัญต่อการควบคุมการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ หลักการทำงานของโพเทนชิออมิเตอร์คือการแปลงการเคลื่อนที่เชิงมุมเป็นสัญญาณไฟฟ้า 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


การทดลองสอบเทียบที่อธิบายไว้ในการศึกษานี้มีหน้าที่อะไร?

เพื่อตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำของเอาต์พุตเซนเซอร์กับมุมที่ทราบ

การสอบเทียบเซ็นเซอร์เป็นกระบวนการตรวจสอบและปรับค่าการวัดของเซ็นเซอร์ให้แม่นยำ โดยเปรียบเทียบข้อมูลเอาต์พุตกับค่ามุมที่ทราบล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าเซ็นเซอร์ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ในการใช้งานจริง การสอบเทียบ (Calibration) เป็นกระบวนการมาตรฐานในวิศวกรรมและการวัดเพื่อเพิ่มความแม่นยำของอุปกรณ์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


การศึกษาเสนอแนะเพื่อเพิ่มความสามารถของหุ่นยนต์ในการประกอบชิ้นส่วนโดยไม่เกิดข้อผิดพลาดอย่างไร

โดยการบูรณาการความรู้สึกสัมผัสของมนุษย์เข้ากับระบบหุ่นยนต์

การผสานระบบรับรู้สัมผัสของมนุษย์เข้ากับหุ่นยนต์ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถรับรู้แรงและการสัมผัสอย่างละเอียด ทำให้สามารถปรับตัวและตอบสนองได้ดีขึ้นในกระบวนการประกอบ ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความแม่นยำ งานวิจัยด้าน robotic tactile sensing ชี้ว่าการเพิ่มความสามารถในการรับรู้สัมผัสช่วยลดข้อผิดพลาดในงานประกอบ การบูรณาการความรู้สึกสัมผัสเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีความยืดหยุ่นและแม่นยำสูง 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


จากการศึกษาวิจัยพบว่าระบบหุ่นยนต์มีเป้าหมายที่จะเอาชนะปัญหาหลักอะไรบ้าง

ความล้มเหลวในการประกอบ เช่น การเยื้องศูนย์และความเสียหายของชิ้นส่วน

ระบบหุ่นยนต์ในงานประกอบมุ่งแก้ปัญหาความล้มเหลวที่เกิดจากการเยื้องศูนย์หรือการวางตำแหน่งชิ้นส่วนผิดพลาด รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับชิ้นส่วน เพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ปัญหาความล้มเหลวในการประกอบเป็นอุปสรรคหลักใน robotic assembly ที่ทำให้ต้องพัฒนาระบบตรวจจับและปรับแก้ข้อผิดพลาด 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


อุปกรณ์ใดใช้บันทึกแรงดันเอาต์พุตจากอุปกรณ์วัดการเคลื่อนไหวและแรง

ไมโครคอมพิวเตอร์ Arduino Mega

Arduino Mega เป็นอุปกรณ์ที่ใช้บันทึกและประมวลผลสัญญาณแรงดันเอาต์พุตจากเซ็นเซอร์วัดการเคลื่อนไหวและแรง ซึ่งช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลและนำไปวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบและควบคุมกระบวนการประกอบได้อย่างแม่นยำ Arduino เป็นแพลตฟอร์มไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในงานวิศวกรรมสำหรับการเก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


แนวทางการใช้ชีวิตกล่าวถึงความท้าทายเฉพาะอะไรบ้างในบริบทของการแพร่ระบาด เช่น COVID-19?

กล่าวถึงการขาดความร่วมมือระหว่างประเทศ

การแพร่ระบาดเช่น COVID-19 เน้นให้เห็นความท้าทายในการประสานงานและความร่วมมือระหว่างประเทศที่ไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูล การพัฒนาวัคซีน และการจัดการวิกฤติโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ หลักการ global health governance ชี้ว่าความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือโรคระบาด งานวิจัยในช่วง COVID-19 เน้นปัญหาการแบ่งปันข้อมูลและทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียมกัน แนวคิด One Health ส่งเสริมความร่วมมือข้ามชาติและข้ามสาขาในการจัดการโรคระบาด 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


จากการศึกษาพบว่า อะไรคืออุปสรรคสำคัญในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์

วิธีการรวบรวมข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกัน

การรวบรวมข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกันทำให้เกิดความยุ่งยากในการประเมินและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างถูกต้อง เพราะข้อมูลที่แตกต่างกันส่งผลให้การวิเคราะห์ผลลัพธ์และการตัดสินใจทางการแพทย์ไม่แม่นยำ การรวบรวมข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกันทำให้เกิดความยุ่งยากในการประเมินและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างถูกต้อง เพราะข้อมูลที่แตกต่างกันส่งผลให้การวิเคราะห์ผลลัพธ์และการตัดสินใจทางการแพทย์ไม่แม่นยำ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


การศึกษาชี้ให้เห็นว่ามีความจำเป็นอย่างไรในการปรับปรุงการดำเนินการตามแนวทางการดำรงชีวิต

การปรับปรุงการแปลและการปรับให้เข้ากับบริบทท้องถิ่น

การแปลและปรับแนวทางให้เหมาะสมกับบริบทท้องถิ่นช่วยให้ข้อมูลและแนวปฏิบัติสามารถนำไปใช้ได้จริงในแต่ละพื้นที่ โดยคำนึงถึงวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติตามแนวทาง การนำแนวทางการดำรงชีวิตหรือมาตรฐานสากลไปใช้ในระดับท้องถิ่นจำเป็นต้องมีการ แปลภาษาและปรับบริบทอย่างลึกซึ้ง (Cultural and Contextual Adaptation) เพื่อให้สอดคล้องกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม สังคม และทรัพยากรในแต่ละพื้นที่ตามทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (Behavior Change Theory) และทฤษฎีการแพร่กระจายของนวัตกรรม (Diffusion of Innovations Theory) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับบริบทท้องถิ่นเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มการยอมรับและการนำไปปฏิบัติจริงอย่างยั่งยืน งานวิจัยด้านสาธารณสุขและการจัดการความรู้ (Knowledge Translation) สนับสนุนว่าการปรับบริบทนี้ช่วยลดช่องว่างระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


แนวทางการใช้ชีวิตมีบทบาทอย่างไรตามบทความ Australian living guidelines for the clinical care of people with COVID-19?

ข้อมูลเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นข้อมูลอ้างอิงหลักสำหรับ การรักษา โควิด -19

แนวทางการใช้ชีวิต (living guidelines) ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลเชิงหลักฐานที่ทันสมัยและน่าเชื่อถือ สำหรับผู้ให้บริการทางการแพทย์ในการตัดสินใจรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ช่วยให้การดูแลรักษามีมาตรฐานและประสิทธิภาพสูงขึ้น แนวทางการใช้ชีวิตอิงกับหลักการ evidence-based medicine ที่เน้นการใช้ข้อมูลวิจัยที่มีคุณภาพสูงในการตัดสินใจทางคลินิก ระบบ clinical practice guidelines ทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงสำคัญในการบริหารจัดการโรคอย่างมีมาตรฐาน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


แนวทางการใช้ชีวิตได้รับการปรับปรุงอย่างไรเพื่อให้ยังคงมีความเกี่ยวข้องในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น โรคระบาด

ผ่านการเฝ้าระวังหลักฐานอย่างต่อเนื่องและการอัปเดตเป็นประจำ

ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เช่น โรคระบาด แนวทางการใช้ชีวิตต้องได้รับการติดตามและอัปเดตอย่างต่อเนื่องจากข้อมูลและงานวิจัยใหม่ เพื่อให้ทันกับความรู้ล่าสุดและการเปลี่ยนแปลงทางคลินิก ช่วยให้แนวทางมีความแม่นยำและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน งานวิจัยด้านการจัดการความรู้และนโยบายสาธารณสุขสนับสนุนการอัปเดตแบบไดนามิกเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโรคและเทคโนโลยี 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


อะไรคือจุดแข็งของแนวทางการใช้ชีวิตในช่วงโควิด -19 ของออสเตรเลีย

พวกเขาได้รับความไว้วางใจว่าเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้และมีหลักฐานเชิงประจักษ์

แนวทางการใช้ชีวิตของออสเตรเลียในช่วงโควิด-19 มีจุดแข็งคือได้รับการยอมรับและเชื่อถือจากผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากอิงข้อมูลจากหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยและถูกต้อง ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจในความน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางคลินิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทฤษฎีความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล (Source Credibility Theory) ชี้ว่าการยอมรับในแหล่งข้อมูลสำคัญต่อการนำไปใช้จริง งานวิจัยในด้านการสื่อสารสุขภาพย้ำถึงความสำคัญของความน่าเชื่อถือในการสร้างความร่วมมือของผู้ใช้บริการ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


แนวทางปฏิบัติทางคลินิกตามการศึกษาวิจัยนี้มีผลกระทบอะไรบ้าง?

พวกเขาสร้างมาตรฐานการรักษาในภูมิภาคต่างๆ

แนวทางปฏิบัติทางคลินิกช่วยกำหนดมาตรฐานการรักษาที่สอดคล้องกันในแต่ละภูมิภาค ลดความแปรปรวนในการดูแลผู้ป่วย และทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถปฏิบัติงานได้ตามหลักฐานวิชาการที่เป็นที่ยอมรับ งานวิจัยด้านระบบสุขภาพยืนยันว่าการมีแนวทางปฏิบัติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


บทความ Australian living guidelines for the clinical care of people with COVID-19 นี้เสนอแนะแนวทางการใช้ชีวิตในอนาคตอย่างไร

พวกเขาจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาเป็นหลัก

แนวทางการใช้ชีวิต (living guidelines) ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือให้ความรู้และข้อมูลทางคลินิกที่ทันสมัยแก่บุคลากรทางการแพทย์และนักศึกษา ไม่ได้มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่เน้นการสนับสนุนการเรียนรู้และปรับปรุงการดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยด้านการศึกษาทางคลินิกชี้ว่าแนวทางเหล่านี้ส่งเสริมความเข้าใจที่ดีขึ้นและการพัฒนาวิชาชีพ หลักการ knowledge translation ช่วยให้ข้อมูลวิชาการถูกนำไปใช้ในทางปฏิบัติอย่างเหมาะสม 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


แนวทางการใช้ชีวิต (Living Guideline) คืออะไร

ทรัพยากรแบบไดนามิกที่ได้รับการอัปเดตเป็นประจำเมื่อมีข้อมูลใหม่

Living Guideline คือแนวทางที่ถูกออกแบบให้มีการปรับปรุงและอัปเดตอย่างต่อเนื่องตามหลักฐานใหม่ ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางการรักษาและดูแลผู้ป่วยมีความทันสมัยและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งแตกต่างจากแนวทางปกติที่อัปเดตในช่วงเวลาห่างกันเป็นปี แนวคิด Living Guidelines ที่เน้นการเฝ้าระวังและอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง (Continuous Evidence Surveillance) หลักการ evidence-based medicine ที่เน้นการใช้ข้อมูลล่าสุดในการตัดสินใจทางคลินิก งานวิจัยด้านการจัดการความรู้และนโยบายสุขภาพที่สนับสนุนการใช้แนวทางไดนามิกเพื่อปรับปรุงคุณภาพการดูแลผู้ป่วย 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


แนวทางปฏิบัติทั่วไปในสถานพยาบาลใช้ร่วมกันมีอะไรบ้าง

แนวทางปฏิบัติทั่วไปในสถานพยาบาลใช้ร่วมกัน ได้แก่ การล้างมืออย่างถูกสุขลักษณะ การใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อ (เช่น การใส่หน้ากาก เจลแอลกอฮอล์) การตรวจสอบและบันทึกข้อมูลผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ การบริหารจัดการยาและเวชภัณฑ์อย่างปลอดภัย แนวทางเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ลดความผิดพลาดในการรักษา และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยให้บริการสุขภาพมีคุณภาพและปลอดภัยมากขึ้น หลักการ Infection Control และ Patient Safety ที่เน้นการลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและข้อผิดพลาดทางการแพทย์ (WHO, CDC) แนวทาง Standard Precautions ที่ใช้ในระบบสุขภาพทั่วโลก งานวิจัยด้านคุณภาพการดูแลสุขภาพที่สนับสนุนการปฏิบัติร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 101.35 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา