ตรวจข้อสอบ > พชร วรเดชอุดมกุล > การแข่งขันและทดสอบความถนัดทางการแพทย์ | ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย > Part 2 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 26 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


เป้าหมายหลักของการใช้การสัมผัสปลายนิ้วของมนุษย์ในกระบวนการประกอบหุ่นยนต์คืออะไร

เพื่อกำจัดความล้มเหลวในการประกอบ เช่น การกัดเพลาและรู

การใช้ การสัมผัสปลายนิ้วของมนุษย์ ในการประกอบหุ่นยนต์ช่วยให้ระบบรับรู้ได้อย่างแม่นยำว่าชิ้นส่วนแต่ละชิ้นอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่เทคโนโลยีนี้ช่วยลด ข้อผิดพลาดในกระบวนการประกอบ เช่น การกัดเพลาและรูที่ไม่ตรงกัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความล้มเหลวในการประกอบ การรับรู้สัมผัส เป็นเทคโนโลยีที่ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับแรงและการสัมผัส เพื่อช่วยให้ระบบหุ่นยนต์ทำงานได้อย่างแม่นยำและอ่อนโยนเหมือนมือมนุษย์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


อุปกรณ์ใดใช้วัดข้อมูลแรงระหว่างงานประกอบ

อุปกรณ์วัดแรงด้วยเซ็นเซอร์ความดัน

เซ็นเซอร์ความดัน ออกแบบมาเพื่อวัดแรงหรือแรงบิดที่กระทำระหว่างการประกอบชิ้นส่วน ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการควบคุมคุณภาพและป้องกันความเสียหาย การวัดแรงในงานประกอบจำเป็นต้องใช้ Force/Torque Sensors ที่มีความแม่นยำสูงเพื่อควบคุมแรงที่ใช้ให้เหมาะสม 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


จากการศึกษาวิจัยได้อธิบายวิธีการใดเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวในการประกอบระบบหุ่นยนต์

การวัดข้อมูลแรงสัมผัสและการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

การวัดแรงสัมผัส และวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ช่วยให้หุ่นยนต์รับรู้สถานะและแรงที่เกิดขึ้นในระหว่างการประกอบระบบสามารถปรับการเคลื่อนไหวหรือแรงทันทีเมื่อตรวจพบความผิดปกติ เช่น การสอดประสานชิ้นส่วนผิดตำแหน่ง ทำให้ลดความล้มเหลวในการประกอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนวคิด Haptic Feedback Control และ Real-time Force Sensing เป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มความแม่นยำของหุ่นยนต์ในงานประกอบ การวิเคราะห์ข้อมูลแรงในเวลาจริงช่วยให้ระบบสามารถตอบสนองต่อปัญหาได้ทันที ป้องกันการเกิดความเสียหาย 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


การวัดวิถีการเคลื่อนที่ของชิ้นงานระหว่างงานประกอบมีความสำคัญอย่างไร

เพื่อประเมินความแม่นยำของเส้นทางของหุ่นยนต์และป้องกันการเยื้องศูนย์

การวัดวิถีการเคลื่อนที่ช่วยตรวจสอบว่าแขนหุ่นยนต์หรือชิ้นงานเคลื่อนที่ตามเส้นทางที่ถูกต้องตามแบบแผนที่กำหนดไว้หรือไม่ ความแม่นยำของเส้นทางมีผลต่อคุณภาพของงานประกอบ เช่น การสอดประสานของชิ้นส่วน หากเส้นทางคลาดเคลื่อน อาจเกิดความเสียหายหรือประกอบไม่สมบูรณ์ Trajectory tracking and control เป็นหนึ่งในหัวใจของระบบหุ่นยนต์ โดยเฉพาะในงานประกอบที่ต้องการความแม่นยำสูง 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


ส่วนประกอบใดที่จำเป็นสำหรับการคำนวณแรงปฏิกิริยาแนวนอนระหว่างกระบวนการจับยึด

เซ็นเซอร์วัดแรงกดบนปลายนิ้ว

แรงปฏิกิริยาแนวนอนในกระบวนการจับยึดหมายถึงแรงที่เกิดขึ้นระหว่างพื้นผิวสัมผัส ซึ่งจำเป็นต้องวัดแรงกดหรือแรงสัมผัสโดยตรง เซ็นเซอร์วัดแรงกดบนปลายนิ้ว สามารถจับข้อมูลแรงสัมผัสที่เกิดขึ้นในแนวนอนได้แม่นยำ การวัดแรงสัมผัส เป็นหัวใจสำคัญในระบบจับยึดอัตโนมัติ เพื่อควบคุมแรงไม่ให้มากเกินไปหรือน้อยเกินไปในงานประกอบ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


เหตุใดจึงใช้โพเทนชิโอมิเตอร์ (Potentiometers) ในอุปกรณ์ตรวจวัดการเคลื่อนไหว

เพื่อกำหนดมุมการหมุนของข้อต่อชุดประกอบ

โพเทนชิโอมิเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนตำแหน่งเชิงกลให้เป็นค่าความต้านทานไฟฟ้า การเปลี่ยนแปลงความต้านทานนี้สามารถนำไปแปลงเป็น มุมการหมุน ของแกนหมุน เช่น ข้อต่อของแขนหุ่นยนต์ โพเทนชิโอมิเตอร์ทำงานบนหลักการของตัวต้านทานแปรผัน ที่เปลี่ยนค่าตามตำแหน่งเชิงกลใช้ในงาน position sensing และ angle measurement อย่างแพร่หลายในระบบควบคุมหุ่นยนต์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


การทดลองสอบเทียบที่อธิบายไว้ในการศึกษานี้มีหน้าที่อะไร?

เพื่อตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำของเอาต์พุตเซนเซอร์กับมุมที่ทราบ

การสอบเทียบ เป็นกระบวนการที่ใช้ ตรวจสอบและปรับความถูกต้องของค่าที่เซ็นเซอร์วัดได้ ให้ตรงกับค่ามาตรฐานหรือค่าที่ทราบล่วงหน้า ในกรณีนี้ เซ็นเซอร์วัดมุมหรือการเคลื่อนไหวจะถูกเปรียบเทียบกับมุมที่ทราบ เพื่อยืนยันว่าเอาต์พุตเซ็นเซอร์ให้ค่าที่ถูกต้องและแม่นยำ Calibration คือกระบวนการสำคัญในระบบเซ็นเซอร์เพื่อให้มั่นใจว่าค่าที่อ่านได้ตรงกับมาตรฐานหรือค่าจริง 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


การศึกษาเสนอแนะเพื่อเพิ่มความสามารถของหุ่นยนต์ในการประกอบชิ้นส่วนโดยไม่เกิดข้อผิดพลาดอย่างไร

โดยการบูรณาการความรู้สึกสัมผัสของมนุษย์เข้ากับระบบหุ่นยนต์

การบูรณาการ ระบบสัมผัส หรือความรู้สึกสัมผัสแบบมนุษย์เข้ากับหุ่นยนต์ช่วยให้หุ่นยนต์รับรู้แรงและการสัมผัสระหว่างการประกอบได้อย่างแม่นยำ ทำให้ระบบสามารถปรับตัวและแก้ไขข้อผิดพลาด เช่น การสอดประสานที่ผิดตำแหน่ง หรือแรงจับที่ไม่เหมาะสมได้ทันที Haptic integration in robotics เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้หุ่นยนต์ทำงานเหมือนมือมนุษย์ เพิ่มความไวและความสามารถในการควบคุมแรง 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


จากการศึกษาวิจัยพบว่าระบบหุ่นยนต์มีเป้าหมายที่จะเอาชนะปัญหาหลักอะไรบ้าง

ความล้มเหลวในการประกอบ เช่น การเยื้องศูนย์และความเสียหายของชิ้นส่วน

ปัญหาหลักที่ระบบหุ่นยนต์ในงานประกอบต้องแก้ไขคือ ความล้มเหลวในการประกอบ ซึ่งรวมถึงการเยื้องศูนย์ และความเสียหายของชิ้นส่วนที่เกิดจากการจับหรือสอดประสานผิดพลาด ความล้มเหลวเหล่านี้ส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเพิ่มต้นทุนการซ่อมแซมหรือผลิตซ้ำ การเพิ่มความแม่นยำในการประกอบและลดความล้มเหลวถือเป็นเป้าหมายหลักของ ระบบหุ่นยนต์ในงานอุตสาหกรรม การใช้เทคโนโลยี haptic sensing และการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มคุณภาพงานประกอบ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


อุปกรณ์ใดใช้บันทึกแรงดันเอาต์พุตจากอุปกรณ์วัดการเคลื่อนไหวและแรง

ไมโครคอมพิวเตอร์ Arduino Mega

Arduino Mega เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ใช้สำหรับรับข้อมูลสัญญาณแรงดันไฟฟ้า จากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ รวมทั้งอุปกรณ์วัดการเคลื่อนไหวและแรง Arduino จะทำหน้าที่อ่านข้อมูลแรงดัน และเก็บหรือส่งต่อข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อ ระบบเซ็นเซอร์มักจะต้องมี ไมโครคอนโทรลเลอร์ เช่น Arduino เพื่อรับและแปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิทัล และจัดเก็บข้อมูล Arduino เป็นตัวอย่างอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ยอดนิยมสำหรับงานวิจัยและระบบทดลองทางหุ่นยนต์และเซ็นเซอร์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


แนวทางการใช้ชีวิตกล่าวถึงความท้าทายเฉพาะอะไรบ้างในบริบทของการแพร่ระบาด เช่น COVID-19?

กล่าวถึงการขาดความร่วมมือระหว่างประเทศ

การแพร่ระบาดของโรค เช่น COVID-19 เผชิญกับความท้าทายที่สำคัญคือ การขาดความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูล การจัดสรรทรัพยากร และการวางมาตรการรับมืออย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีการพัฒนาวัคซีนและข้อมูลแบบเรียลไทม์ แต่ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้การตอบสนองเป็นไปอย่างรวดเร็วและครอบคลุม แนวคิด Global Health Security เน้นความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อรับมือโรคระบาด การขาดความร่วมมือทำให้เกิดช่องว่างในการจัดการโรคและความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากร 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


จากการศึกษาพบว่า อะไรคืออุปสรรคสำคัญในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์

ปัญหาด้านอุปทานที่ส่งผลต่อการรักษาที่แนะนำ

อุปสรรคที่สำคัญในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทางการแพทย์ คือ ปัญหาด้านอุปทาน เช่น การขาดแคลนยา เวชภัณฑ์ หรือทรัพยากรที่จำเป็น ซึ่งทำให้ไม่สามารถดำเนินการรักษาหรือแนวทางที่แนะนำได้ตามมาตรฐาน ถึงแม้ว่าวิธีการรวบรวมข้อมูลหรือทุนวิจัยจะมีผล แต่ปัญหาอุปทานส่งผลกระทบโดยตรงต่อการปฏิบัติจริงในคลินิกหรือโรงพยาบาล การจัดการด้าน supply chain management เป็นหัวใจสำคัญในการทำให้แนวทางการรักษาเป็นไปได้จริง การขาดแคลนทรัพยากรนำไปสู่ความไม่สม่ำเสมอในการดูแลผู้ป่วยและลดคุณภาพบริการ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


การศึกษาชี้ให้เห็นว่ามีความจำเป็นอย่างไรในการปรับปรุงการดำเนินการตามแนวทางการดำรงชีวิต

การปรับปรุงการแปลและการปรับให้เข้ากับบริบทท้องถิ่น

แนวทางการดำรงชีวิต หากจะนำไปใช้ได้ผลจริงในแต่ละพื้นที่จำเป็นต้องได้รับการแปลและปรับให้เหมาะสมกับบริบททางวัฒนธรรม, สังคม และทรัพยากรของท้องถิ่นนั้น ๆ การปรับให้เข้ากับบริบทท้องถิ่นช่วยเพิ่มความเข้าใจและความยอมรับจากผู้ปฏิบัติและประชาชน Implementation Science เน้นการแปล และการปรับใช้ ของแนวทางทางการแพทย์และสุขภาพให้เหมาะสมกับบริบทเฉพาะ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


แนวทางการใช้ชีวิตมีบทบาทอย่างไรตามบทความ Australian living guidelines for the clinical care of people with COVID-19?

ข้อมูลเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นข้อมูลอ้างอิงหลักสำหรับ การรักษา โควิด -19

แนวทางการใช้ชีวิต สำหรับการดูแลผู้ป่วย COVID-19 ของออสเตรเลีย ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็น แหล่งข้อมูลที่อัปเดตและเชื่อถือได้ สำหรับทีมแพทย์ในการตัดสินใจรักษาเน้นการรวมข้อมูลวิจัยล่าสุดและข้อแนะนำที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและทันสมัย Living guidelines คือแนวทางที่มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามหลักฐานใหม่ เพื่อช่วยให้การตัดสินใจทางคลินิกมีความทันสมัยและเหมาะสม 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


แนวทางการใช้ชีวิตได้รับการปรับปรุงอย่างไรเพื่อให้ยังคงมีความเกี่ยวข้องในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น โรคระบาด

ผ่านการเฝ้าระวังหลักฐานอย่างต่อเนื่องและการอัปเดตเป็นประจำ

ในสถานการณ์โรคระบาดที่ข้อมูลและหลักฐานเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เช่น COVID-19 แนวทางการใช้ชีวิต จะต้องมีการ ตรวจสอบและเฝ้าระวังหลักฐานใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาปรับปรุงและอัปเดตแนวทางให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสถานการณ์ล่าสุด การประชุมประจำปีหรือการเปลี่ยนผู้นำไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แนวคิด Living Guidelines คือการพัฒนาแนวทางที่มีการอัปเดตตามหลักฐานใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง การอัปเดตแบบไดนามิกช่วยให้การปฏิบัติทางคลินิกมีความทันสมัยและเหมาะสมกับข้อมูลปัจจุบัน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


อะไรคือจุดแข็งของแนวทางการใช้ชีวิตในช่วงโควิด -19 ของออสเตรเลีย

พวกเขาได้รับความไว้วางใจว่าเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้และมีหลักฐานเชิงประจักษ์

แนวทางการใช้ชีวิต ของออสเตรเลียในช่วงโควิด-19 ได้รับการพัฒนาอย่างเข้มงวดโดยอิงตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยและได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นแหล่งข้อมูลที่ผู้ปฏิบัติทางการแพทย์และบุคลากรทางสุขภาพไว้วางใจว่ามีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ Evidence-based guidelines เน้นการใช้หลักฐานที่ดีที่สุดเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมและน่าเชื่อถือ ความน่าเชื่อถือและการอัปเดตอย่างต่อเนื่องเป็นหัวใจของความสำเร็จของแนวทางการใช้ชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉิน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


แนวทางปฏิบัติทางคลินิกตามการศึกษาวิจัยนี้มีผลกระทบอะไรบ้าง?

พวกเขาสร้างมาตรฐานการรักษาในภูมิภาคต่างๆ

แนวทางปฏิบัติทางคลินิก มีบทบาทสำคัญในการสร้างและส่งเสริม มาตรฐานการรักษา ที่เป็นเอกภาพในแต่ละภูมิภาคและประเทศ การสร้างมาตรฐานช่วยลดความแปรปรวนในการดูแลผู้ป่วย และเพิ่มความสอดคล้องของการรักษาตามหลักฐาน Standardization in healthcare ช่วยให้การรักษามีคุณภาพและปลอดภัยมากขึ้น Clinical practice guidelines ถูกออกแบบมาเพื่อสอดคล้องกับหลักฐานทางการแพทย์และส่งเสริมการดูแลที่เป็นมาตรฐาน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


บทความ Australian living guidelines for the clinical care of people with COVID-19 นี้เสนอแนะแนวทางการใช้ชีวิตในอนาคตอย่างไร

พวกเขาจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาเป็นหลัก

แนวทางการใช้ชีวิต เป็นเครื่องมือสำหรับอัพเดตข้อมูลทางคลินิกและใช้เพื่อให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่เกี่ยวข้อง แนวทางเหล่านี้ไม่ใช่ตำราการแพทย์ที่ใช้แทนกันได้ โดยตรง และโดยทั่วไปไม่ได้มีผลทางกฎหมายโดยตรง แต่ช่วยให้การรักษามีความสอดคล้องและเป็นมาตรฐานมากขึ้น Living guidelines มีบทบาทในการ สนับสนุนการเรียนรู้และการตัดสินใจ ในวงการแพทย์ โดยเน้นความทันสมัยและความถูกต้อง 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


แนวทางการใช้ชีวิต (Living Guideline) คืออะไร

ทรัพยากรแบบไดนามิกที่ได้รับการอัปเดตเป็นประจำเมื่อมีข้อมูลใหม่

Living Guideline คือแนวทางหรือคู่มือที่ถูกออกแบบให้มีการ ปรับปรุงและอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลและหลักฐานวิจัยใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับคำแนะนำที่ทันสมัยและเหมาะสมที่สุด แตกต่างจากแนวทางปกติที่อาจถูกทบทวนและอัปเดตในช่วงเวลาห่างกันมาก เช่น ทุกสิบปี การพัฒนาแนวทางแบบ Living Guidelines ช่วยลดช่องว่างระหว่างงานวิจัยและการปฏิบัติในคลินิก 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


แนวทางปฏิบัติทั่วไปในสถานพยาบาลใช้ร่วมกันมีอะไรบ้าง

การควบคุมการติดเชื้อ การบริหารจัดการยา การป้องกันเเละจัดการความเสี่ยง การสื่อสารเเละการบันทึกข้อมูลทางการเเพทย์ การดูเเลผู้ป่วยอย่างมีมนุษย์ธรรม การอบรมเเละพัฒนาบุคลากร แนวทางเหล่านี้เป็นมาตรฐานพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อให้การบริการทางการแพทย์และการดูแลผู้ป่วยมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ การใช้แนวทางร่วมกันในสถานพยาบาลช่วยลดข้อผิดพลาด เพิ่มคุณภาพการรักษา และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ป่วยและครอบครัว เป็นกรอบการทำงานที่ช่วยให้ทีมสุขภาพสามารถประสานงานและดำเนินการได้อย่างเป็นระบบ Evidence-Based Practice (EBP): การใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ประกอบการตัดสินใจในการดูแลผู้ป่วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด Quality Improvement Frameworks: เช่น Model for Improvement, Plan-Do-Study-Act (PDSA) ช่วยสนับสนุนการพัฒนาและปรับปรุงแนวทางปฏิบัติ Patient Safety Frameworks: เน้นการลดความเสี่ยงและข้อผิดพลาดในการดูแลสุขภาพ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 119.75 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา