1 |
What is hybrid micellar liquid chromatography primarily used for in the study?
|
To detect commonly used pesticides in vegetables. |
|
Hybrid micellar liquid chromatography (HMLC) ใช้เป็นหลักในการวิเคราะห์และแยกสารประกอบต่างๆมากมาย รวมถึงยา ยาฆ่าแมลง และสารอื่นๆ ในเมทริกซ์ต่างๆ เช่น ของเหลวทางชีวภาพและการเตรียมยา |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
Which pesticide was found most commonly in the vegetable samples?
|
Chlorpyrifos |
|
Chlorpyrifos เป็นสารกำจัดแมลงกลุ่ม organophosphate ที่มักพบในพืชผัก เนื่องจากเป็นสารที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเกษตรกรรม แม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มควบคุมหรือห้ามใช้แล้วก็ตามแต่ในบริบทของงานวิจัยที่ศึกษาการปนเปื้อนของสารเคมีในผัก พบว่าchlorpyrifos ปรากฏในตัวอย่างผักบ่อยที่สุดเมื่อเทียบกับสารอื่น ๆ ที่ทดสอบ |
เทคนิคที่ใช้ในการตรวจวัดคือ Hybrid Micellar Liquid Chromatography ซึ่งมีความไวสูงและสามารถตรวจหาสาร chlorpyrifos ได้แม้ในปริมาณต่ำ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
What percentage of the vegetable samples tested were found to contain no detectable pesticides?
|
8% |
|
ในงานวิจัยที่ใช้เทคนิค Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) ตรวจสอบตัวอย่างผักเพื่อหาสารตกค้างของยาฆ่าแมลง พบว่ามีเพียงส่วนน้อยของตัวอย่างที่ ไม่พบสารตกค้างใดๆ |
สูตรการคำนวณความเข้มข้นของสารตกค้างในตัวอย่าง C=(Asample - Ablank)/S
โดยที่
C = ความเข้มข้นของสารตกค้างในตัวอย่าง (mg/kg หรือ µg/kg)
Asample = พีคพื้นที่ของสารในตัวอย่าง
Ablank = พีคพื้นที่จากตัวอย่างควบคุม (blank) หรือเบื้องหลัง
S = ความไวสัมพัทธ์ (sensitivity) หรือค่าคงที่ที่ได้จาก calibration curve (เส้นมาตรฐาน) |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
Which of the following is NOT a reason for the use of hybrid micellar liquid chromatography (HMLC)?
|
It requires extensive solvent use. |
|
HMLC ไม่ได้ใช้ตัวทำละลายในปริมาณมาก (extensive solvent use) เหมือนเทคนิคโครมาโทกราฟีแบบดั้งเดิมบางประเภท |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
What was the primary methodological change in the HMLC technique used in the study?
|
Use of a micellar mobile phase with reduced solvent usage. |
|
Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) เป็นเทคนิคที่พัฒนาต่อยอดจาก Micellar Liquid Chromatography (MLC) โดยมีการเปลี่ยนแปลงทางวิธีการหลักคือ
การใช้เฟสเคลื่อนที่ (mobile phase) ที่ประกอบด้วยสารซักฟอก (micelles) ซึ่งช่วยลดการใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ (organic solvents) c]tช่วยให้การแยกสารมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยใช้สารเคมีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดปริมาณของตัวทำละลายที่มีพิษ |
การใช้ micellar mobile phase ใน HMLC ช่วยให้สามารถแยกสารในตัวอย่างซับซ้อนได้ดีขึ้น และลดการใช้สารอินทรีย์ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
According to the study, why might vegetable growers prefer other pesticides over Imidacloprid (ICP)?
|
ICP is more expensive. |
|
จากการศึกษาพบว่าผู้ปลูกผักมักเลือกใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่มีราคาถูกกว่า Imidacloprid (ICP) แม้ว่า ICP จะมีประสิทธิภาพดี แต่ราคาที่สูงกว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกษตรกรเลือกใช้สารตัวอื่นแทน |
หลักเศรษฐศาสตร์ในเกษตรกรรมชี้ว่า ต้นทุนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้สารเคมี |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
What is the major benefit of using ICP as a pesticide, according to the study?
|
It is less toxic compared to many others. |
|
จากการศึกษาพบว่า Imidacloprid (ICP) เป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่มีข้อดีเรื่อง ความเป็นพิษต่อต่ำกว่าสารอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน หรือเมื่อเทียบกับสารกำจัดศัตรูพืชชนิดอื่น ๆ ที่ใช้ในเกษตรกรรม |
หลักการเลือกใช้สารกำจัดศัตรูพืชเน้นความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความปลอดภัย |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
What aspect of the pesticide detection method was focused on during the method validation phase?
|
Ensuring it produced results quickly for market use. |
|
ในขั้นตอน การยืนยันความถูกต้องของวิธีการ (method validation) สำหรับการตรวจจับสารตกค้างของยาฆ่าแมลงโดยใช้ Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) จะมุ่งเน้นที่การทดสอบว่าระบบสามารถตรวจจับสารตกค้างในระดับความเข้มข้นต่ำสุดที่ตรวจวัดได้ (limit of detection, LOD) มีความแม่นยำและความเที่ยงตรง (accuracy & precision) ในระดับสารตกค้างต่ำ |
การประเมินวิธีการตรวจวัดที่สามารถจับสารตกค้างได้ในระดับต่ำที่สุดเป็นหัวใจหลักในการตรวจสอบคุณภาพอาหารปลอดภัย |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
Considering the environmental impacts discussed, why is the HMLC method considered 'green'?
|
It involves less waste and uses low-toxicity solvents. |
|
Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) ถูกจัดว่าเป็น วิธีวิเคราะห์แบบ ‘green’ หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะ การใช้สารซักฟอก (surfactants) แทนการใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ที่มีพิษสูงจำนวนมาก และลดปริมาณของสารเคมีที่เป็นพิษและขยะสารเคมีที่เกิดจากการวิเคราะห์ |
การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (environmental impact assessment) ของ HMLC แสดงว่าช่วยลดมลพิษและความเป็นพิษในขั้นตอนการวิเคราะห์ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
What is the importance of the photodiode array detector in the HMLC technique used in the study?
|
It detects the presence of pesticides across a spectrum of wavelengths. |
|
Photodiode Array Detector (PDA) ในเทคนิค Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) มีบทบาทสำคัญในการตรวจจับสารเคมีในตัวอย่างโดยการวัดการดูดกลืนแสงในช่วงความยาวคลื่นหลายช่วง (multi-wavelength detection) และช่วยให้สามารถวิเคราะห์สารกำจัดศัตรูพืชหลายชนิดพร้อมกันได้ เพราะแต่ละสารจะดูดกลืนแสงที่ความยาวคลื่นแตกต่างกัน |
การใช้ PDA ช่วยให้ลดข้อผิดพลาดจากการตรวจจับที่ความยาวคลื่นเดียวและเพิ่มความถูกต้องของผลลัพธ์ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
What is hyperthermia commonly used to treat?
|
Cancer |
|
Hyperthermia คือการใช้ความร้อนในระดับที่ควบคุมได้เพื่อรักษาโรค โดยเฉพาะ การรักษามะเร็ง ซึ่งความร้อนจะช่วยทำลายเซลล์มะเร็งหรือเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาอื่นๆ |
มาตรฐานการรักษามะเร็งในหลายศูนย์ทางการแพทย์ทั่วโลกใช้ hyperthermia ร่วมกับวิธีการรักษาอื่น |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
Which method is used to apply heat directly to a tumor in local hyperthermia?
|
Microwaves |
|
ใน local hyperthermia จะใช้วิธีการให้ความร้อนเฉพาะจุดกับเนื้องอกเพื่อเพิ่มอุณหภูมิในบริเวณนั้นโดยตรง โดย microwaves เป็นวิธีที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจาก Microwaves สามารถเจาะลึกเข้าสู่เนื้อเยื่อและทำให้เซลล์เนื้องอกร้อนขึ้นโดยตรง และเป็นวิธีที่ควบคุมความร้อนได้ดีและมีประสิทธิภาพสูง |
หลักการของ microwave hyperthermia คือการใช้คลื่นไมโครเวฟในช่วงความถี่ 300 MHz ถึง 300 GHz เพื่อสร้างความร้อนในเนื้อเยื่อ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
What is the primary benefit of using hyperthermia in cancer treatment?
|
It kills cancer cells with minimal damage to normal cells. |
|
Hyperthermia ใช้ความร้อนควบคุมระดับสูงเพื่อทำลายหรือทำให้เซลล์มะเร็งตาย โดยมีจุดเด่นสำคัญคือ สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้โดยมีผลกระทบต่อเซลล์ปกติน้อยที่สุด เพราะเซลล์มะเร็งไวต่อความร้อนมากกว่าเซลล์ปกติ |
หลักชีววิทยา: เซลล์มะเร็งมีความไวต่อความร้อนสูงกว่าเซลล์ปกติ เพราะความสามารถในการซ่อมแซมเซลล์ต่ำกว่า |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
Hyperthermia is often used in combination with which of the following treatments?
|
Antibiotics |
|
Hyperthermia มักถูกใช้ร่วมกับ การฉายรังสีรักษา (radiotherapy) และ การให้ยาเคมีบำบัด (chemotherapy) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโดยทำให้เซลล์มะเร็งไวต่อการทำลายจากรังสีและยา ความร้อนช่วยทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรงและเพิ่มการซึมผ่านของยาในเนื้อเยื่อ |
กลไกทางชีววิทยา: ความร้อนช่วยเพิ่มการตายของเซลล์มะเร็งที่มีอยู่เดิมและช่วยกระตุ้นการตอบสนองต่อรังสีและยา |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
What is the main challenge of using hyperthermia in cancer treatment?
|
Reaching and maintaining the required temperature in the target area. |
|
การใช้ hyperthermia ในการรักษามะเร็งมีความท้าทายสำคัญคือ
การทำให้เนื้อเยื่อในบริเวณเนื้องอกร้อนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม
การรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับนี้อย่างคงที่ตลอดระยะเวลาการรักษา
การควบคุมอุณหภูมิให้เน้นเฉพาะที่เนื้องอกโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อปกติรอบข้าง |
การใช้เทคโนโลยี เช่น คลื่นไมโครเวฟหรืออัลตราซาวด์ ช่วยให้ควบคุมความร้อนได้ดีขึ้นแต่ยังคงเป็นความท้าทาย และความสำเร็จในการรักษาขึ้นอยู่กับการทำให้เนื้องอกร้อนอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อปกติ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
Which type of hyperthermia involves heating a larger region or the whole body?
|
Whole-body hyperthermia |
|
Whole-body hyperthermia คือการให้ความร้อนกับร่างกายทั้งหมดหรือบริเวณกว้าง เพื่อกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มประสิทธิภาพการรักษามะเร็งบางชนิด แตกต่างจาก local hyperthermia ที่ให้ความร้อนเฉพาะจุด หรือ regional hyperthermia ที่ให้ความร้อนในบริเวณกว้างแต่ไม่ใช่ทั้งร่างกาย วิธีนี้มักใช้กับผู้ป่วยที่มีมะเร็งกระจายหลายจุดหรือในระยะลุกลาม |
Whole-body hyperthermia ช่วยเพิ่มอุณหภูมิแกนกลางร่างกายเป็นเวลาหนึ่งช่วงเวลาที่กำหนด |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
What type of hyperthermia uses applicators inserted into or near a body cavity to deliver heat?
|
Endocavitary hyperthermia |
|
Endocavitary hyperthermia คือการใช้เครื่องมือหรือหัวให้ความร้อนที่สอดเข้าไปในโพรงร่างกาย เช่น ช่องท้อง ช่องคลอด หรือช่องปาก
การให้ความร้อนแบบนี้ช่วยเน้นที่บริเวณเนื้องอกใกล้กับโพรงนั้นโดยตรง |
แตกต่างจาก Interstitial hyperthermia ที่ใส่ applicators ลงไปในเนื้อเยื่อโดยตรง |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
What is a significant potential side effect of whole-body hyperthermia?
|
Systemic stress affecting major organs |
|
ความเครียดระบบร่างกาย (systemic stress) ที่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญการเพิ่มอุณหภูมิแกนกลางร่างกายอาจทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตและระบบประสาทมีภาระมากขึ้น |
กลไกการทำงานของการเพิ่มอุณหภูมิแกนกลางส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะภายใน และอาจทำให้เกิด stress response ในระดับระบบ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
Considering the physics of heat transfer, why is controlling hyperthermia challenging during treatment?
|
Human tissue has varying thermal conductivities which affect heat distribution. |
|
เนื้อเยื่อมนุษย์มีคุณสมบัติการนำความร้อน (thermal conductivity) แตกต่างกันในแต่ละชนิด เช่น เนื้อเยื่อไขมันกับกล้ามเนื้อจะนำความร้อนได้ไม่เท่ากัน
ทำให้อุณหภูมิที่ส่งผ่านไปยังเนื้องอกหรือบริเวณเป้าหมายไม่สม่ำเสมอ และยากที่จะรักษาระดับความร้อนในจุดที่ต้องการอย่างแม่นยำ |
หลักฟิสิกส์การถ่ายเทความร้อน (heat transfer physics) โดยเฉพาะ conduction ในร่างกายมนุษย์ที่มีลักษณะไม่สม่ำเสมอ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
Why is hyperthermia considered a beneficial adjunct to radiotherapy and chemotherapy?
|
It makes cancer cells more susceptible to other treatments. |
|
ความร้อนจะทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง (เช่น เสียโครงสร้างโปรตีนหรือ DNA)
ส่งผลให้เซลล์มะเร็ง ไวต่อรังสี (radiation) มากขึ้น เพราะร่างกายไม่สามารถซ่อมแซม DNA ที่ถูกทำลายจากรังสีได้ดีเมื่อมีความร้อน และช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้ยาเคมีบำบัด (chemotherapy drugs) เข้าถึงเซลล์มะเร็งได้มากขึ้น |
หลักการทางชีวฟิสิกส์: เซลล์มะเร็งไวต่อความร้อน และความร้อนรบกวนการซ่อมแซม DNA
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|