ตรวจข้อสอบ > กฤตพิชญ์ อนุสุนัย > ชีววิทยาเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Biology in Medical Science > Part 2 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 16 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


What is the primary function of AI in the medical imaging industry?

To improve diagnostic accuracy and patient outcomes

ผมเลือกข้อนี้เพราะในวงการแพทย์ โดยเฉพาะทางการแพทย์ภาพ (medical imaging) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยวิเคราะห์ภาพอย่างแม่นยำ ลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ และช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้เร็วขึ้นและถูกต้องขึ้น เป้าหมายสำคัญคือการปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วยให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ลดค่าใช้จ่ายหรือทำงานบริหาร หลักคิดสำคัญคือ “AI ในการแพทย์ภาพเน้นการเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการวินิจฉัย” ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และสมาคมรังสีการแพทย์สากล (International Society of Radiology) เน้นย้ำว่าเทคโนโลยี AI ช่วยส่งเสริมการวินิจฉัยที่ดีขึ้นและลดความล่าช้าในการรักษ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


Which of the following is a key benefit of AI in radiology noted in the article?

Acts as a second medical opinion

ผมเลือกข้อนี้เพราะ AI ในทางรังสีช่วยเสริมความแม่นยำในการวินิจฉัย โดยเปรียบเสมือนการมีผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมช่วยตรวจสอบผลภาพ อีกทั้งยังช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากมนุษย์ ทำให้แพทย์ได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากขึ้นก่อนตัดสินใจรักษา หลักคิดสำคัญคือ “AI ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยวินิจฉัยหรือ ‘second opinion’ ซึ่งช่วยเพิ่มความถูกต้องและลดข้อผิดพลาดในการแพทย์ภาพ” ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่องค์การอนามัยโลก (WHO) และสมาคมรังสีการแพทย์นานาชาติแนะนำ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


What does AI literacy refer to according to the article?

Understanding and knowledge of AI technology

ผมเลือกข้อนี้เพราะ AI literacy หมายถึงความสามารถในการเข้าใจหลักการทำงานและการใช้เทคโนโลยี AI อย่างถูกต้อง รวมถึงการประเมินผลและข้อจำกัดของ AI เพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในชีวิตจริง หลักคิดสำคัญคือ “AI literacy คือความเข้าใจในเทคโนโลยี AI ทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ” ซึ่งองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) และงานวิจัยทางการศึกษาด้านเทคโนโลยีเน้นย้ำว่าเป็นทักษะสำคัญในยุคดิจิทัล 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


Which factor is NOT listed as influencing the acceptability of AI among healthcare professionals?

The color of the AI machines

ผมเลือกข้อนี้เพราะปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับ AI ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ มักเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นในระบบ ความเข้าใจการทำงานของ AI การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนงานที่มีอยู่ และความพร้อมเปิดรับเทคโนโลยี ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องสีของเครื่องมือแต่อย่างใด หลักคิดสำคัญคือ “การยอมรับเทคโนโลยี (technology acceptance)” ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นและความเข้าใจในเทคโนโลยี ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยทฤษฎีการยอมรับเทคโนโลยี (Technology Acceptance Model – TAM) และรายงานจากองค์การอนามัยโลก (WHO) 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


What role does social influence play in AI acceptability in healthcare according to the article?

Affects healthcare professionals’ decisions to use AI

ผมเลือกข้อนี้เพราะบทบาทของอิทธิพลทางสังคม (social influence) หมายถึงแรงกดดันหรือการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา หรือชุมชนวิชาชีพ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจของบุคลากรทางการแพทย์ว่าจะยอมรับและใช้เทคโนโลยี AI หรือไม่ การมีการสนับสนุนและยอมรับจากคนรอบข้างช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความกังวล ทำให้การใช้ AI ในงานรักษาพยาบาลเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น หลักคิดสำคัญคือ “อิทธิพลทางสังคม (social influence)” เป็นส่วนหนึ่งของโมเดลการยอมรับเทคโนโลยี (Technology Acceptance Model - TAM) และโมเดล Unified Theory of Acceptance and Use of Technology (UTAUT) ที่เน้นว่า การสนับสนุนจากบุคคลรอบข้างมีผลต่อการตัดสินใจใช้เทคโนโลยีอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งได้รับการยอมรับจากงานวิจัยและรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


What is a perceived threat regarding AI usage in healthcare settings?

Concerns about replacing healthcare professionals

ผมเลือกข้อนี้เพราะในวงการแพทย์ ความกลัวว่า AI อาจทำให้บุคลากรทางการแพทย์สูญเสียบทบาท หรือถูกแทนที่ เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ส่งผลต่อการยอมรับและการนำ AI มาใช้ในงานจริง ความกังวลนี้มีผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมของบุคลากร ทำให้บางคนต่อต้านหรือลังเลที่จะใช้ AI หลักคิดสำคัญคือ “Perceived threat” หรือ “ภัยคุกคามที่รับรู้ได้” เป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎีการยอมรับเทคโนโลยี (Technology Acceptance Model - TAM) และทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (Behavioral Change Theory) ที่ชี้ว่า ความกลัวต่อการสูญเสียบทบาทงาน เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งได้รับการกล่าวถึงในงานวิจัยและรายงานของ WHO 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


According to the article, what is essential for increasing AI acceptability among medical professionals?

Designing human-centred AI systems

ผมเลือกข้อนี้เพราะการที่ AI จะได้รับการยอมรับจากบุคลากรทางการแพทย์อย่างแท้จริง จำเป็นต้องออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการและวิธีการทำงานของผู้ใช้ เน้นความง่ายต่อการใช้งาน ความน่าเชื่อถือ และช่วยเสริมบทบาทของมนุษย์แทนการแทนที่ ระบบที่ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้จะช่วยลดความกังวล เพิ่มความมั่นใจ และส่งเสริมให้เกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย หลักคิดสำคัญคือ “Human-centred design” หรือการออกแบบที่เน้นผู้ใช้ เป็นแนวทางที่ได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยด้านเทคโนโลยีและสุขภาพ ว่าเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์และได้รับการยอมรับอย่างยั่งยืน ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และสมาคมวิชาชีพทางการแพทย์ต่างให้ความสำคัญในเรื่องนี้ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


What does the 'system usage' category of AI acceptability factors include according to the article?

Factors like value proposition and integration with workflows

ผมเลือกข้อนี้เพราะในบทความได้กล่าวชัดเจนว่า “system usage” หรือ “การใช้งานระบบ” เป็นหมวดปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของ AI ในการเข้ากับบริบทของการทำงานจริงในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล เช่น – AI มี “คุณค่าที่จับต้องได้” (value proposition) หรือไม่ เช่น ช่วยลดเวลา เพิ่มความแม่นยำ – สามารถ “บูรณาการเข้ากับกระบวนการเดิม” ได้อย่างราบรื่นหรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกำหนดว่าผู้ใช้จะรู้สึกว่า AI มีประโยชน์จริงหรือไม่ หลักคิดสำคัญคือ “การยอมรับเทคโนโลยีขึ้นอยู่กับคุณค่าที่ผู้ใช้รับรู้ (Perceived usefulness)” และ “ความสอดคล้องกับบริบทการทำงาน” ตาม Technology Acceptance Model (TAM) และแนวคิดของ Human-Centered AI ที่มุ่งเน้นว่า AI ต้องใช้งานได้จริงในบริบทของผู้ใช้ เพื่อให้เกิดการยอมรับอย่างแท้จริง 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


How does ethicality impact AI acceptability among healthcare professionals?

Affects views on AI based on compatibility with professional values

ผมเลือกข้อนี้เพราะในบทความได้อธิบายว่า “ethicality” หรือจริยธรรม เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกยอมรับหรือปฏิเสธ AI ในหมู่บุคลากรทางการแพทย์ หากระบบ AI ไม่สอดคล้องกับหลักจรรยาบรรณ หรือคุณค่าทางวิชาชีพ เช่น ความเคารพต่อคนไข้ ความเป็นส่วนตัว หรือความรับผิดชอบในผลการวินิจฉัย ก็จะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่ไว้วางใจหรือไม่อยากใช้งาน หลักคิดสำคัญคือ “จริยธรรมในเทคโนโลยีสุขภาพ (Ethical AI in Healthcare)” โดยเฉพาะแนวทางจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และ European Commission ที่เน้นว่า AI ต้อง “สอดคล้องกับค่านิยมของวิชาชีพและมนุษยธรรม” เช่น ความปลอดภัย ความโปร่งใส และการไม่ลำเอียง จึงจะได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


What methodological approach did the article emphasize for future AI acceptability studies?

Considering user experience and system integration deeply

ผมเลือกข้อนี้เพราะบทความเน้นชัดว่า แนวทางการวิจัยในอนาคตเกี่ยวกับการยอมรับ AI ในระบบสาธารณสุข ควรมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของผู้ใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรอื่น ๆ รวมถึงต้องวิเคราะห์ว่า AI จะเข้าไป “ผสาน” กับระบบงานเดิมได้มากน้อยแค่ไหน เช่น การอ่านภาพ การตัดสินใจร่วม และขั้นตอนการรักษา ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้การออกแบบและใช้งาน AI สอดคล้องกับบริบทจริง หลักคิดสำคัญคือแนวทางของ Human-Centered Design และ Sociotechnical Systems Theory ที่เน้นให้การออกแบบเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI ต้องพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง “คน – งาน – เทคโนโลยี” อย่างลึกซึ้ง องค์การอนามัยโลก (WHO) และ IEEE ก็แนะนำให้การศึกษา AI ยึดบริบทของผู้ใช้จริงและความเหมาะสมในการบูรณาการเข้ากับระบบงานสุขภาพเดิม 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


What is the primary objective of using human embryonic stem cells in treating Parkinson’s disease?

To replace lost dopamine neurons.

ผมเลือกข้อนี้เพราะโรคพาร์กินสันเกิดจากการเสื่อมและสูญเสียของเซลล์ประสาทที่สร้างสาร “โดพามีน” ในสมองส่วน substantia nigra ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการสั่น เกร็ง เคลื่อนไหวช้า และเสียสมดุล การใช้ human embryonic stem cells (hESCs) มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดให้กลายเป็นเซลล์ประสาทชนิด dopaminergic neurons เพื่อนำกลับไปปลูกถ่ายในสมองผู้ป่วยเพื่อ ทดแทนเซลล์ที่สูญเสียไป หลักคิดสำคัญคือแนวคิด Cell Replacement Therapy ซึ่งเป็นแนวทางบำบัดโรคทางระบบประสาทที่เกิดจากการสูญเสียเซลล์เฉพาะทาง โดยเฉพาะในโรคพาร์กินสัน งานวิจัยชั้นนำ เช่น Lancet Neurology และ Nature Reviews Neuroscience ระบุว่า การปลูกถ่ายเซลล์ประสาทที่ผลิตโดพามีนจาก hESCs คือเป้าหมายหลักในการรักษาแบบฟื้นฟูโครงสร้างและหน้าที่ของสมองผู้ป่วย 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Which animal was used to test the STEM-PD product for safety and efficacy?

Monkeys

ผมเลือกข้อนี้เพราะในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา STEM-PD ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อรักษาโรคพาร์กินสัน มีการทดสอบใน ลิง (monkeys) ซึ่งเป็นสัตว์ทดลองที่มีระบบประสาทใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด การทดลองในลิงจึงช่วยประเมินทั้ง ความปลอดภัย และ ประสิทธิภาพ ในระดับที่ใกล้เคียงมนุษย์มากกว่าสัตว์ขนาดเล็ก เช่น หนูหรือกระต่าย หลักคิดสำคัญคือ “การใช้สัตว์ทดลองที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์เพื่อทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพก่อนเข้าสู่การทดลองทางคลินิก” ซึ่งเป็นแนวทางตามมาตรฐานขององค์การอาหารและยา (FDA) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ในกรณีของโรคพาร์กินสัน การใช้ลิงที่ถูกชักนำให้เป็นพาร์กินสัน (Parkinsonian monkeys) ถือเป็นโมเดลสัตว์ทดลองที่เชื่อถือได้ที่สุดในการประเมินผลิตภัณฑ์เซลล์ต้นกำเนิด เช่น STEM-PD 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


What was the duration of the preclinical safety study in rats mentioned in the article?

12 months

ผมเลือกข้อนี้เพราะในบทความมีการระบุชัดว่า การทดสอบความปลอดภัยก่อนทดลองในมนุษย์ (preclinical safety study) ของผลิตภัณฑ์ STEM-PD ได้ดำเนินการใน หนู (rats) เป็นระยะเวลา 12 เดือน การติดตามผลระยะยาวนี้มีความสำคัญมาก เพราะช่วยประเมินว่าเซลล์ที่ปลูกถ่ายจะไม่เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว เช่น การกลายพันธุ์ของเซลล์ หรือการเจริญเติบโตผิดปกติ (tumorigenesis) หลักคิดสำคัญคือ “Preclinical safety testing must evaluate long-term effects before moving to human trials” (การศึกษาความปลอดภัยก่อนทดลองในมนุษย์ต้องครอบคลุมผลระยะยาว) องค์กรอย่าง EMA (European Medicines Agency) และ WHO ต่างกำหนดให้การทดลองในสัตว์เพื่อประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เซลล์ต้นกำเนิดต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 6–12 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายเมื่อนำมาใช้ในมนุษย์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


What is the name of the clinical trial phase mentioned for STEM-PD?

Phase I/IIa

ผมเลือกข้อนี้เพราะในบทความได้กล่าวถึงการทดลองทางคลินิกของผลิตภัณฑ์ STEM-PD อย่างชัดเจนว่าอยู่ในช่วง Phase I/IIa ซึ่งเป็นการรวมขั้นต้นของการทดลอง 2 ระยะ โดยมีเป้าหมายหลักคือ – Phase I: ประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในมนุษย์เป็นครั้งแรก – Phase IIa: เริ่มประเมินสัญญาณเบื้องต้นของประสิทธิภาพในกลุ่มผู้ป่วยขนาดเล็ก หลักคิดสำคัญคือ “Clinical trial phases are designed to progressively assess safety and efficacy” ซึ่งตามแนวทางของ EMA (European Medicines Agency) และ WHO การใช้ Phase I/IIa ถือเป็นแนวทางมาตรฐานเมื่อการศึกษาเน้นทั้งความปลอดภัยและเริ่มทดสอบประสิทธิผลเบื้องต้น โดยเฉพาะในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เซลล์ต้นกำเนิดที่ยังใหม่และซับซ้อน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


How is the STEM-PD product manufactured?

Under GMP-compliant conditions

ผมเลือกข้อนี้เพราะในบทความระบุชัดว่า STEM-PD เป็นผลิตภัณฑ์เซลล์ที่ถูกผลิตภายใต้ GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เข้มงวดสำหรับการผลิตทางการแพทย์และชีวเวชศาสตร์ การผลิตภายใต้ GMP มีเป้าหมายเพื่อ ควบคุมคุณภาพ ความปลอดภัย และความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเซลล์ที่นำไปใช้ในมนุษย์ หลักคิดสำคัญคือ GMP-compliance คือเกณฑ์ที่ใช้ทั่วโลกในการผลิตยาหรือผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพที่ใช้ในมนุษย์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เซลล์ต้นกำเนิด เช่น STEM-PD ซึ่งต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการปนเปื้อน การกลายพันธุ์ และรับประกันความปลอดภัย องค์กรอย่าง European Medicines Agency (EMA) และ องค์การอนามัยโลก (WHO) ต่างกำหนดให้การผลิตผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อใช้ทางคลินิกต้องเป็นไปตาม GMP อย่างเคร่งครัด 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


According to the article, what confirmed the safety of the STEM-PD product in rats?

There were no adverse effects or tumor formation.

ผมเลือกข้อนี้เพราะในบทความระบุชัดว่า การศึกษาความปลอดภัยในหนู (rats) สำหรับผลิตภัณฑ์ STEM-PD ไม่พบผลข้างเคียงหรือการเกิดเนื้องอก (tumor formation) ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อบ่งชี้สำคัญที่สุดว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยพอที่จะก้าวสู่การทดลองในมนุษย์ โดยเฉพาะเมื่อเป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมนุษย์ (hESCs) ที่มีศักยภาพในการแบ่งตัวสูง จึงต้องตรวจสอบเรื่อง tumorigenicity อย่างละเอียด การที่ไม่มีการแพร่กระจายของเซลล์นอกบริเวณสมอง และไม่พบอาการผิดปกติ จึงยืนยันได้ว่าผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยระดับหนึ่ง หลักคิดสำคัญคือ “Preclinical safety validation” โดยเฉพาะการประเมินผลด้าน tumorigenicity และ toxicity องค์การอาหารและยา (FDA) และ องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ผลิตภัณฑ์เซลล์ที่ใช้ทางคลินิกต้องผ่านการทดลองในสัตว์อย่างเข้มงวดเพื่อตรวจหา adverse effects และความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอก การไม่พบความผิดปกติในระยะเวลา 12 เดือนของการศึกษาจึงถือเป็นข้อมูลเชิงบวกที่ยืนยันความปลอดภัยของ STEM-PD 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


What key finding was noted in the efficacy study of STEM-PD in rats?

Transplanted cells reversed motor deficits in rats.

ผมเลือกข้อนี้เพราะในบทความระบุชัดเจนว่า ในการศึกษาประสิทธิภาพ (efficacy study) ของผลิตภัณฑ์ STEM-PD ที่ใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมนุษย์ (hESCs) ซึ่งแยกให้กลายเป็นเซลล์ประสาทโดพามีน (dopaminergic neurons) เมื่อนำไปปลูกถ่ายใน หนูที่ถูกทำให้มีภาวะพาร์กินสัน พบว่า อาการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของหนู (motor deficits) ดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเซลล์ที่ปลูกถ่ายสามารถ ทำหน้าที่แทนเซลล์โดพามีนที่เสียไปได้จริง หลักคิดสำคัญคือแนวทาง “Cell Replacement Therapy” ที่พัฒนาเพื่อฟื้นฟูหน้าที่ของระบบประสาท โดยเฉพาะในโรคพาร์กินสันที่มีสาเหตุจากการขาดเซลล์สร้างโดพามีน องค์การอนามัยโลก (WHO) และบทความในวารสาร Nature Neuroscience และ The Lancet Neurology ระบุว่า ความสามารถของเซลล์ต้นกำเนิดในการ ปรับปรุงอาการเคลื่อนไหว เป็นดัชนีสำคัญของ “ประสิทธิภาพ” (efficacy) ในการทดลองก่อนคลินิก (preclinical study) 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


What specific markers were used to assess the purity of the STEM-PD batch?

GIRK2 and ALDH1A1

ผมเลือกข้อนี้เพราะในบทความได้ระบุว่า การประเมินความบริสุทธิ์ (purity) ของชุดเซลล์ STEM-PD ใช้การตรวจวัด marker เฉพาะ ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ประสาทโดพามีนชนิด A9 ซึ่งเป็นชนิดเซลล์หลักที่สูญเสียในโรคพาร์กินสัน โดยตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้คือ GIRK2 และ ALDH1A1 ซึ่งเป็นโปรตีนที่บ่งบอกความเป็นเซลล์โดพามีนที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมสำหรับการปลูกถ่าย การเลือก marker เหล่านี้ช่วยยืนยันว่าเซลล์ต้นกำเนิดได้รับการแยกและคัดกรองจนได้เซลล์ที่มีความบริสุทธิ์และประสิทธิภาพสูง หลักคิดสำคัญคือการใช้ biomarkers ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของเซลล์ต้นกำเนิดเฉพาะทางในงานวิจัยชีวเวชศาสตร์ งานวิจัยในวารสาร Stem Cell Reports และ Nature Biotechnology ยืนยันว่า GIRK2 และ ALDH1A1 เป็น marker ที่แม่นยำสำหรับเซลล์โดพามีนชนิด A9 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาโรคพาร์กินสัน องค์การอาหารและยา (FDA) ก็สนับสนุนการใช้ marker เหล่านี้เพื่อรับรองคุณภาพของเซลล์ในกระบวนการผลิต 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


What role do growth factors like FGF8b and SHH play in the manufacturing process of STEM-PD?

They are used in cell patterning for specific neural fates.

ผมเลือกข้อนี้เพราะในกระบวนการผลิต STEM-PD มีการใช้ปัจจัยการเจริญเติบโต เช่น FGF8b และ SHH (Sonic Hedgehog) เพื่อกระตุ้นและควบคุมการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดให้เปลี่ยนไปเป็นเซลล์ประสาทโดพามีนชนิดที่ต้องการ ทั้งสองปัจจัยนี้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการ cell patterning หรือการกำหนดชะตากรรมของเซลล์ (cell fate determination) ทำให้เซลล์ต้นกำเนิดเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้องตามที่ต้องการ จึงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้เซลล์ที่ได้มีคุณสมบัติเฉพาะทาง เหมาะสมสำหรับการนำไปใช้รักษาโรคพาร์กินสัน หลักคิดสำคัญมาจากสาขา Developmental Biology ที่ศึกษาการใช้ growth factors ในการชักนำและควบคุมการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดให้กลายเป็นเซลล์เฉพาะทาง บทความวิจัยและรีวิวใน Nature Reviews Neuroscience และ Stem Cell Reports ยืนยันว่า FGF8b และ SHH มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเซลล์ประสาทโดพามีน โดยเฉพาะในกระบวนการ ventral midbrain patterning องค์การอาหารและยา (FDA) ยังเน้นย้ำความสำคัญของการควบคุมกระบวนการเหล่านี้เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับใช้ทางคลินิก 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


What was a key outcome measured in the preclinical trials for efficacy in rats?

Recovery of motor function

ในการศึกษาหรือทดลองเกี่ยวกับโรคพาร์กินสันและการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด เช่น STEM-PD ผลลัพธ์สำคัญที่แสดงความสำเร็จคือการที่ผู้ป่วยหรือสัตว์ทดลองมี การฟื้นฟูหน้าที่การเคลื่อนไหว เนื่องจากเซลล์ที่ปลูกถ่ายทดแทนเซลล์โดพามีนที่สูญเสียไปได้ อาการเคลื่อนไหวบกพร่องเป็นอาการหลักของโรคนี้ การฟื้นฟูจึงสะท้อนถึงประสิทธิภาพของการรักษา ส่วนตัวเลือกอื่น เช่น ความวิตกกังวล ความสามารถทางสมอง หรืออายุขัย มักไม่ใช่ผลลัพธ์หลักที่วัดในงานนี้ หลักคิดมาจากแนวทางการรักษาโรคพาร์กินสันแบบ Cell Replacement Therapy ที่มุ่งเป้าไปที่การฟื้นฟูเซลล์ประสาทโดพามีนซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมการเคลื่อนไหว บทความจาก Lancet Neurology และ Nature Neuroscience ระบุว่า “Recovery of motor function” เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จที่สำคัญในการทดลองทางคลินิกและก่อนคลินิกของผลิตภัณฑ์เซลล์ต้นกำเนิดสำหรับโรคนี้ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 119.75 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา