ตรวจข้อสอบ > จริยา รักษาภักดี > ชีววิทยาเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Biology in Medical Science > Part 2 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 46 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


What is the primary function of AI in the medical imaging industry?

To improve diagnostic accuracy and patient outcomes

การวิเคราะห์ภาพที่มีความซับซ้อน : AI ใช้เทคนิคการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และการประมวลผลภาพ (Image Processing) ในการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ เช่น การถ่ายภาพ MRI, CT scans และ X-rays ซึ่งช่วยในการตรวจจับความผิดปกติ เช่น เนื้องอกหรือโรคทางระบบประสาทได้อย่างแม่นยำมากขึ้น การลดความผิดพลาด : การใช้ AI ช่วยลดอัตราการเกิดความผิดพลาดในการวินิจฉัย โดย AI สามารถประเมินและให้ข้อเสนอแนะที่อิงจากข้อมูลที่มีอยู่จำนวนมาก และเมื่อรวมกับความรู้ทางการแพทย์จะทำให้การวินิจฉัยมีความแม่นยำมากขึ้น การปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วย : เมื่อการวินิจฉัยถูกต้องและรวดเร็ว ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมทันเวลา ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพของผู้ป่วย ในด้านชีววิทยา การพัฒนาของเทคโนโลยี AI สามารถเชื่อมโยงกับแนวคิดเรื่อง ความสามารถในการปรับตัว (Adaptation) ในสิ่งมีชีวิตซึ่งสามารถพัฒนาตนเองเพื่ออยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง AI ในทางการแพทย์สามารถปรับตัวเพื่อให้บริการที่ดีกว่าแก่ผู้ป่วยและทำงานร่วมกับแพทย์ เพื่อส่งเสริมการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


Which of the following is a key benefit of AI in radiology noted in the article?

Acts as a second medical opinion

ประโยชน์ที่สำคัญของ AI ในการฉายภาพรังสี (radiology) ที่กล่าวถึงในบทความ เนื่องจาก AI สามารถช่วยในการวิเคราะห์ภาพและให้ข้อเสนอแนะแบบอัตโนมัติ ซึ่งสามารถช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความถูกต้องในการวินิจฉัย ส่งผลให้แพทย์มีข้อมูลเพิ่มเติมในการตัดสินใจทางการแพทย์ การที่ AI สามารถทำหน้าที่เป็นความเห็นทางการแพทย์ที่สองนั้น สามารถยกตัวอย่างจากทฤษฎีทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีในการแพทย์ เช่น หลักการของการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) และการประมวลผลภาพ (image processing) ที่ช่วยให้ระบบ AI สามารถ “เรียนรู้” จากข้อมูลจำนวนมาก จนสามารถสร้างแบบจำลองที่มีความแม่นยำในการวินิจฉัย หรือการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


What does AI literacy refer to according to the article?

Understanding and knowledge of AI technology

AI literacy หมายถึง "Understanding And Knowledge Of AI Technology" ซึ่งหมายถึงความเข้าใจและความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI โดยรวมทั้งการรู้จักวิธีการทำงานของ AI, การประยุกต์ใช้ในสาขาต่าง ๆ, รวมไปถึงผลกระทบต่อสังคมและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI การมีความรู้ในด้านนี้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจาก AI กำลังมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา การเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร จะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กร ทฤษฎีหลักคิดทางชีววิทยาอาจสนับสนุนความเข้าใจใน AI โดยการวิเคราะห์ข้อมูลและการเรียนรู้จากตัวอย่างคล้ายคลึงกับกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์และสัตว์ ที่มีการปรับตัวและพัฒนาทักษะจากการรับรู้สิ่งแวดล้อม สิ่งนี้สามารถแสดงให้เห็นว่า การศึกษา AI นั้นไม่เพียงแต่จะช่วยในการใช้งานเทคโนโลยี แต่ยังอาจนำไปสู่การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างเครื่องจักรและการทำงานของสมองมนุษย์ได้เช่นกัน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


Which factor is NOT listed as influencing the acceptability of AI among healthcare professionals?

The color of the AI machines

ปัจจัยที่ไม่ถูกระบุให้เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการยอมรับ AI ในหมอมืออาชีพคือ "สีของเครื่อง AI" นี่เป็นเพราะว่าไม่มีหลักฐานหรือแนวคิดทางทฤษฎีที่ชี้ให้เห็นว่าปัจจัยที่ไม่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชันการใช้งานหรือประโยชน์ของ AI จะมีผลต่อการยอมรับของผู้ใช้ในทางการแพทย์ การรับรองว่า AI มีความสามารถในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่สร้างความลำบากในการทำงานเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจจากบุคลากรทางการแพทย์ ในเชิงชีววิทยา การตอบสนองต่อการยอมรับเทคโนโลยีสามารถเชื่อมโยงกับความสามารถของมนุษย์ในการเรียนรู้และปรับตัวต่อสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและอารมณ์ของผู้ใช้ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


What role does social influence play in AI acceptability in healthcare according to the article?

Affects healthcare professionals’ decisions to use AI

อิทธิพลทางสังคมบนเครื่องมือ AI ในการแพทย์ช่วยส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการใช้เทคโนโลยีนั้น ซึ่งท้ายที่สุดอาจส่งผลให้มีการพัฒนาในด้านการดูแลสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แรงบันดาลใจจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมและเครือข่ายสังคมสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ ช่วยให้เกิดการรวมกลุ่มและการพัฒนาเชิงบวกในระดับการออกแบบและการตัดสินใจเกี่ยวกับการนำ AI ไปใช้ในสถานพยาบาล 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


What is a perceived threat regarding AI usage in healthcare settings?

Lesser patient interaction with doctors

การติดต่อสื่อสารที่จำกัด : การใช้ AI อาจทำให้มีการติดต่อสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วยลดลง เนื่องจาก AI อาจทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ข้อมูลและให้คำแนะนำแทนแพทย์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกขาดการสนับสนุนทางอารมณ์และจิตใจจากแพทย์ที่ดูแล การรับรู้และความเข้าใจ : การมีส่วนร่วมที่ดีระหว่างแพทย์และผู้ป่วยช่วยเพิ่มความมั่นใจของผู้ป่วยในการรักษา ซึ่ง AI อาจขาดความสามารถในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและการเข้าใจอารมณ์ของผู้ป่วยได้ไม่ดีเท่ากับแพทย์ และความเสี่ยงจากข้อมูลที่อาจผิดพลาด : ในกรณีที่ AI ให้คำแนะนำที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม แพทย์อาจจะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วโดยอิงจากข้อมูลที่จำกัด ซึ่งอาจส่งผลให้การดูแลทางการแพทย์มีความเสี่ยงมากขึ้น การศึกษาในด้านชีววิทยาและจิตวิทยาได้สนับสนุนความสำคัญของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล โดยการศึกษาแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแพทย์และผู้ป่วยสามารถส่งผลดีต่อผลลัพธ์ทางการรักษา การสื่อสารที่ดีก่อให้เกิดความเชื่อมั่นและการปฏิบัติตามการรักษาที่ดียิ่งขึ้น นี่ตรงกับทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองทางอารมณ์และจิตใจของมนุษย์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


According to the article, what is essential for increasing AI acceptability among medical professionals?

Designing human-centred AI systems

ความเป็นมิตรกับผู้ใช้ : การออกแบบระบบ AI ที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางช่วยให้ผู้ใช้ (แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์) สามารถเข้าใจการทำงานของระบบได้ดีขึ้น และสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความเชื่อมั่นต่อระบบ AI การปรับตัวต่อความต้องการ : ระบบที่ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้จะต้องสามารถปรับตัวให้ตรงกับความต้องการและความคาดหวังของผู้ใช้ได้ ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและเชื่อถือในเทคโนโลยีนั้นๆ และลดความไม่แน่นอน : การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในกระบวนการออกแบบสามารถช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำและความสามารถของระบบ AI โดยทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่ามีการควบคุมและสามารถเข้าใจระบบได้ดีขึ้น ในทางชีววิทยา การมีการออกแบบที่เหมาะสมสามารถเปรียบได้กับการพัฒนาสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น ระบบ AI ที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางจะเป็นลักษณะการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้เหมือนกับวิวัฒนาการที่พัฒนาขึ้นมาจากการตอบสนองต่อความท้าทายต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


What does the 'system usage' category of AI acceptability factors include according to the article?

Factors like value proposition and integration with workflows

การนำ AI มาใช้ในด้านการแพทย์หรือสาธารณสุข ต้องมีการพิจารณาความสามารถในการให้คุณค่าสูงสุด (Value Proposition) เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การลดค่าใช้จ่าย หรือการปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพ นอกจากนี้ การพูดคุยเกี่ยวกับการผสมผสาน (Integration) ก็เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากระบบ AI จะต้องสามารถทำงานร่วมกับเครื่องมือและซอฟต์แวร์ที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ตามทฤษฎีทางชีววิทยา การใช้งาน AI ในด้านการแพทย์ควรเป็นไปตามหลักการของการปรับตัว (Adaptation) ซึ่งหมายถึงการที่ระบบจะต้องสามารถปรับตัวเข้ากับระบบนิเวศที่มีอยู่แล้ว โดยที่ AI จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าสามารถประสานงานกับผู้ปฏิบัติงานในระบบสาธารณสุขได้อย่างราบรื่น เช่น การทำความเข้าใจกับความต้องการของผู้ใช้ (Healthcare Professionals) และการตอบสนองต่อการทำงานในแต่ละบริบท 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


How does ethicality impact AI acceptability among healthcare professionals?

Affects views on AI based on compatibility with professional values

ส่งผลต่อมุมมองเกี่ยวกับ AI ที่เข้ากับค่านิยมวิชาชีพ: ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์มักจะยึดถือค่านิยมและมาตรฐานจริยธรรม เช่น การเคารพในความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย, การรับผิดชอบในการรักษา และการปฏิบัติตามหลักทางการแพทย์ที่ดี ซึ่ง AI ที่มีการออกแบบและพัฒนามาโดยคำนึงถึงจริยธรรมจะมีแนวโน้มได้รับการยอมรับมากกว่า หาก AI สามารถแสดงให้เห็นถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยในการใช้งานสำหรับผู้ป่วย ผู้เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ก็จะเปิดกว้างในการนำ AI มาใช้ในการรักษา 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


What methodological approach did the article emphasize for future AI acceptability studies?

Considering user experience and system integration deeply

เหตุผลที่ทำให้แนวทางนี้สำคัญเหนือกว่าทางเลือกอื่นๆ สามารถอธิบายได้ด้วยหลักทางชีววิทยา ประสบการณ์ของผู้ใช้มีผลต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจของคนในด้านสุขภาพและการรักษา นอกจากนี้การรวมระบบที่ดีสามารถช่วยให้ข้อมูลและการสื่อสารระหว่างผู้ใช้และ AI ได้รับการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลต่อความพร้อมในการใช้งานและการยอมรับในเทคโนโลยี AI ในการแพทย์ การพัฒนาที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (user-centered design) ช่วยให้สามารถปรับปรุงและพัฒนา AI ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด ซึ่งสามารถทำให้มีการยอมรับ AI ในกลุ่มผู้ใช้ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความถูกต้องและความแม่นยำของ AI ในการทำงานในบริบทที่ซับซ้อน เช่น การดูแลสุขภาพ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


What is the primary objective of using human embryonic stem cells in treating Parkinson’s disease?

To replace lost dopamine neurons.

การใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมีศักยภาพในการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ที่สามารถผลิตโดปามีนได้ ซึ่งจะช่วยคืนสมดุลสารเคมีในสมองที่มีความสำคัญต่อการควบคุมการเคลื่อนไหวและการทำงานของระบบประสาทได้ การทดสอบในสัตว์ทดลองและการวิจัยเบื้องต้นในมนุษย์แสดงให้เห็นว่า การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดอาจช่วยลดอาการของโรคพาร์กินสันได้ ตามแนวทางทางชีววิทยา แนวคิดในการใช้เซลล์ต้นกำเนิดมาจากความสามารถในการแปรรูป (Differentiation) ของเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ รวมถึงเซลล์ประสาท การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการให้เซลล์ต้นกำเนิดเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลางอาจกระตุ้นการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ หรือช่วยให้เซลล์ประสาทที่ยังคงอยู่สามารถทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ลดอาการของโรคได้ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Which animal was used to test the STEM-PD product for safety and efficacy?

Rats

ในการตอบสนองต้องอาศัยการศึกษาข้อมูลด้านชีววิทยาที่เกี่ยวข้องทั้งด้านฟิสิกส์ พฤติกรรม และการสืบพันธุ์ ซึ่งทำให้เรามองเห็นภาพรวมของการทำงานของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศน์ที่ซับซ้อนนั่นเอง ระบบประสาท : ระบบประสาทของสิ่งมีชีวิตทำหน้าที่รับข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมและประมวลผลเพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้า ซึ่งรวมถึงเซลล์ประสาท (neurons) ที่สื่อสารกันผ่านสัญญาณไฟฟ้าและเคมี ระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) จะรับข้อมูลจากประสาทรับสัมผัส (sensory neurons) แล้วลงมือสั่งการผ่านประสาทสั่งการ (motor neurons) ไปยังอวัยวะต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการตอบสนอง เช่น การเคลื่อนไหว การตอบสนองต่อสิ่งเร้า (Stimulus Response) : ในลักษณะพื้นฐาน สิ่งมีชีวิตตอบสนองต่อสิ่งเร้า เช่น แสง เสียง หรือการสัมผัส โดยมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือสรีรวิทยา ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการปรับตัวให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม สัตว์หลายชนิดมีวิธีการตอบสนองที่แตกต่างกัน เช่น การหลบหนีจากนักล่า หรือการหากินอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับตัว (Adaptation) : การตอบสนองต่อสิ่งเร้าเป็นสิ่งสำคัญในการปรับตัว ซึ่งส่งผลต่อการอยู่รอดและการสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต ตัวอย่างเช่น การปรับสีของสัตว์เพื่อให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม ทำให้มันมีโอกาสรอดชีวิตจากนักล่า และการเลือกวิวัฒนาการ (Natural Selection) : หลักการนี้อธิบายว่าทำไมการตอบสนองในสิ่งมีชีวิตจึงมีความสำคัญต่อการอยู่รอด สิ่งมีชีวิตที่มีการตอบสนองที่เหมาะสมและทันเวลา จะมีโอกาสรอดชีวิตและส่งต่อยีนส์ไปยังรุ่นถัดไป ในที่สุด การตอบสนองเหล่านี้จะกลายเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่สามารถส่งต่อไปยังรุ่นใหม่ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


What was the duration of the preclinical safety study in rats mentioned in the article?

6 months

การตอบสนองเหล่านี้มีความซับซ้อนและมีการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อให้สิ่งมีชีวิตสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม การตอบสนองของสิ่งมีชีวิตเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันของระบบประสาท ระบบฮอร์โมน และระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีหลักการทางชีววิทยาที่เกี่ยวข้องหลายประการ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


What is the name of the clinical trial phase mentioned for STEM-PD?

Phase I/IIa

Phase I มักจะมุ่งเน้นไปที่การประเมินความปลอดภัยของการรักษาเป็นหลัก และตรวจสอบว่ามีผลข้างเคียงอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ในขณะที่ Phase II จะมุ่งเน้นไปที่การประเมินประสิทธิภาพของการรักษาในกลุ่มผู้ป่วยเล็ก ๆ และอาจเริ่มมีการประเมินขนาดยาที่เหมาะสมด้วย ในการศึกษาคลินิกของ STEM-PD (Stem Cell Therapy for Parkinson's Disease) โดยทั่วไปแล้วจะมีการดำเนินการในหลายช่วงของการทดลอง ซึ่งรวมถึง Phase I, Phase II, และ Phase III แต่สำหรับงานวิจัยเฉพาะนี้ ข้อมูลทั่วไปบ่งชี้ว่าอาจมีการดำเนินการใน Phase I/IIa 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


How is the STEM-PD product manufactured?

Under GMP-compliant conditions

การผลิตผลิตภัณฑ์ STEM-PD ที่มีคุณภาพควรทำภายใต้ GMP-Compliant Conditions เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญต่อความก้าวหน้าในวงการแพทย์ regenerative medicine และการนำเซลล์ต้นกำเนิดมาใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย Under GMP-Compliant Conditions: การผลิตภายใต้ข้อกำหนด GMP เป็นวิธีที่แนะนำและเป็นมาตรฐานในการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากเซลล์ต้นกำเนิด เมื่อต้องทำกระบวนการผลิตภายใต้ GMP จะมีการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยในทุกขั้นตอน เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์สุดท้ายมีเสถียรภาพและเหมาะสมต่อการใช้งานในมนุษย์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


According to the article, what confirmed the safety of the STEM-PD product in rats?

There were no adverse effects or tumor formation.

การประเมินความปลอดภัยดังกล่าวจึงถือเป็นขั้นตอนที่จำเป็นในกระบวนการพัฒนายาใหม่ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของผู้ใช้ในอนาคต การตรวจสอบผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ : ในการทดลองต่าง ๆ การประเมินผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสามารถบ่งชี้ถึงความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ เมื่อไม่มีผลกระทบเชิงลบกับหนูทดลอง แสดงให้เห็นว่าสารที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นั้นมีความปลอดภัยต่อสัตว์ทดลอง ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือพัฒนาการของพวกมัน และการตรวจสอบการเกิดเนื้องอก : การไม่พบการเกิดเนื้องอกเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในการยืนยันความปลอดภัย เนื้องอกสามารถเกิดจากการกระตุ้นหรือการเปลี่ยนแปลงในดีเอ็นเอของเซลล์ที่อาจเกิดจากสารเคมีหรือเซลล์ที่ถูกฉีดเข้าสู่ร่างกาย การไม่มีเนื้องอกแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ STEM-PD ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


What key finding was noted in the efficacy study of STEM-PD in rats?

Transplanted cells reversed motor deficits in rats.

สาเหตุที่ทำให้เซลล์ไม่สามารถอยู่รอดได้อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น สภาพแวดล้อมที่ต่างจากที่เซลล์เจริญเติบโตในห้องทดลอง เช่น ความเครียดจากเส้นเลือด การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน หรือการไม่สามารถเชื่อมต่อกับเซลล์ประสาทอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้หลักทางชีววิทยา เช่น การศึกษาความสามารถในการปรับตัวของเซลล์ (cell adaptability) และกระบวนการต่างๆ ที่ทำให้เซลล์ประสาทสามารถสร้างสมดุลในสภาพแวดล้อมใหม่ (neuroplasticity) เพื่อดูว่าสิ่งเหล่านี้มีบทบาทอย่างไรในการตอบสนองหลังการปลูกถ่าย 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


What specific markers were used to assess the purity of the STEM-PD batch?

OCT4 and NANOG

OCT4 (Octamer-binding transcription factor 4) : เป็นโปรตีนที่มีบทบาทในการรักษาสถานะของเซลล์ต้นกำเนิดที่มีพลศาสตร์ และยังมีส่วนช่วยในการควบคุมการแบ่งเซลล์และการสร้างเส้นทางการเจริญเติบโตของเซลล์ที่พัฒนา (Differentiation) NANOG : เป็นโปรตีนที่สำคัญในการบำรุงเซลล์ต้นกำเนิด โดยทำหน้าที่สร้างเครือข่ายควบคุมที่สามารถรักษาความเป็นเซลล์ต้นกำเนิดและป้องกันการพัฒนาที่ไม่ถูกต้อง ความบริสุทธิ์ของแบทช์ STEM-PD มักจะถูกเผยแพร่ผ่านการมีอยู่ของโปรตีน OCT4 และ NANOG เป็นหลัก ซึ่งเป็นเครื่องหมายเฉพาะที่จะช่วยยืนยันว่ายังมีเซลล์ต้นกำเนิดอยู่ในสภาพที่เหมาะสมและพร้อมสำหรับการพัฒนาในทิศทางที่ต้องการ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


What role do growth factors like FGF8b and SHH play in the manufacturing process of STEM-PD?

Prevent Differentiation (ป้องกันการแตกตัว) : FGF8b และ SHH สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ต้นกำเนิดแตกตัวเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่เฉพาะ โดยช่วยรักษาสถานะพลูโรโพเทนซี (pluripotent state) ได้ Enhance Pluripotency (เพิ่มพลูโรโพเทนซี) : ปัจจัยเหล่านี้ยังสามารถสนับสนุนและเพิ่มความสามารถของเซลล์ในการแตกตัวเป็นเซลล์ต่าง ๆ ได้ ด้วยการกระตุ้นสัญญาณภายในเซลล์ และCell Patterning for Specific Neural Fates (การจัดรูปแบบเซลล์เพื่อชะตากรรมทางประสาทเฉพาะ) : FGF8b และ SHH ยังมีบทบาทในการกำหนดชะตากรรมของเซลล์ประสาท โดยช่วยให้เซลล์ที่ผลิตมีลักษณะเฉพาะตามที่ต้องการ เช่น เซลล์โดพามินเนอร์จิก (dopaminergic neurons) การศึกษาเกี่ยวกับบทบาทของ FGF8b และ SHH ในการพัฒนาเซลล์ประสาทและการควบคุมการแตกตัวของเซลล์ต้นกำเนิดจากงานวิจัยในด้านชีววิทยาเซลล์และการพัฒนาประสาท (cell biology and neurodevelopment) 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


What was a key outcome measured in the preclinical trials for efficacy in rats?

Recovery of motor function

กลไกการฟื้นฟูทางระบบประสาท : เมื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับการฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อ หนูแรทจะถูกใช้เป็นโมเดลในการศึกษาโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือการบาดเจ็บที่ทำให้เกิดความเสียหายในระบบประสาท เพื่อดูว่าการรักษาแบบใดสามารถช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหวได้ การตรวจวัดประสิทธิภาพ : ผลลัพธ์การฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อสามารถวัดได้จากการทดสอบทางพฤติกรรม เช่น ระยะเวลาหรือความสามารถในการเคลื่อนที่ในเส้นทางที่ตั้งไว้ หรือการประเมินการทำงานของกล้ามเนื้อในกิจกรรมต่างๆ และความสำคัญในทางการแพทย์ : การฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อมีผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในอนาคต และมีความสำคัญในการพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ๆ การฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อในสัตว์ทดลองสามารถสร้างความเข้าใจในวิธีการทำงานของระบบประสาทและอาจใช้เพื่อพัฒนาแนวทางการรักษาใหม่ๆ สำหรับโรคหลากหลายประเภท ซึ่งเป็นพื้นฐานในการวิจัยทางการแพทย์ในอนาคต นอกจากนั้นยังมีการศึกษาผลกระทบของการรักษาต่างๆ ต่อการฟื้นฟูการทำงานของสมองและการเคลื่อนไหวให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 110.55 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา