| 1 |
เป้าหมายหลักของการใช้การสัมผัสปลายนิ้วของมนุษย์ในกระบวนการประกอบหุ่นยนต์คืออะไร
|
เพื่อกำจัดความล้มเหลวในการประกอบ เช่น การกัดเพลาและรู |
|
การสัมผัสปลายนิ้วของมนุษย์สามารถช่วยตรวจสอบและปรับแต่งรายละเอียดเล็กๆที่อาจไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยเครื่องมือหุ่นยนต์อย่างเดียว |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 2 |
อุปกรณ์ใดใช้วัดข้อมูลแรงระหว่างงานประกอบ
|
อุปกรณ์วัดแรงด้วยเซ็นเซอร์ความดัน |
|
สามารถตรวจจับและวัดแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการประกอบชิ้นส่วนได้อย่างแม่นยำ |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 3 |
จากการศึกษาวิจัยได้อธิบายวิธีการใดเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวในการประกอบระบบหุ่นยนต์
|
การวัดข้อมูลแรงสัมผัสและการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ |
|
เพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวในการประกอบระบบหุ่นยนต์ |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 4 |
การวัดวิถีการเคลื่อนที่ของชิ้นงานระหว่างงานประกอบมีความสำคัญอย่างไร
|
เพื่อประเมินความแม่นยำของเส้นทางของหุ่นยนต์และป้องกันการเยื้องศูนย์ |
|
ลดความเสี่ยงของความผิดพลาดในการประกอบ |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 5 |
ส่วนประกอบใดที่จำเป็นสำหรับการคำนวณแรงปฏิกิริยาแนวนอนระหว่างกระบวนการจับยึด
|
เซ็นเซอร์วัดแรงกดบนปลายนิ้ว |
|
เซ็นเซอร์นี้สามารถวัดแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการจับยึดชิ้นงานและคำนวณแรงปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้ |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 6 |
เหตุใดจึงใช้โพเทนชิโอมิเตอร์ (Potentiometers) ในอุปกรณ์ตรวจวัดการเคลื่อนไหว
|
เพื่อกำหนดมุมการหมุนของข้อต่อชุดประกอบ |
|
โพเทนชิโอมิเตอร์ทำหน้าที่เป็นตัวแปรความต้านทานที่สามารถตรวจวัดตำแหน่งเชิงมุมของข้อต่อหรือล้อโดยการแปลงการเคลื่อนไหวเชิงกลเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่สามารถอ่านได้ |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 7 |
การทดลองสอบเทียบที่อธิบายไว้ในการศึกษานี้มีหน้าที่อะไร?
|
เพื่อตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำของเอาต์พุตเซนเซอร์กับมุมที่ทราบ |
|
ช่วยให้แน่ใจว่าเซ็นเซอร์ที่ใช้งานอยู่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 8 |
การศึกษาเสนอแนะเพื่อเพิ่มความสามารถของหุ่นยนต์ในการประกอบชิ้นส่วนโดยไม่เกิดข้อผิดพลาดอย่างไร
|
โดยการบูรณาการความรู้สึกสัมผัสของมนุษย์เข้ากับระบบหุ่นยนต์ |
|
เพื่อเพิ่มความสามารถของหุ่นยนต์ในการประกอบชิ้นส่วนโดยไม่เกิดข้อผิดพลาด การนำความรู้สึกสัมผัสเข้ามาช่วยให้หุ่นยนต์สามารถรับรู้และตอบสนองต่อการสัมผัสอย่างละเอียดและปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 9 |
จากการศึกษาวิจัยพบว่าระบบหุ่นยนต์มีเป้าหมายที่จะเอาชนะปัญหาหลักอะไรบ้าง
|
ความล้มเหลวในการประกอบ เช่น การเยื้องศูนย์และความเสียหายของชิ้นส่วน |
|
เพื่อเพิ่มความแม่นยำและความเชื่อถือได้ในการประกอบชิ้นส่วนเป็นสิ่งสำคัญในการลดข้อผิดพลาดและปรับปรุงคุณภาพของกระบวนการผลิต |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 10 |
อุปกรณ์ใดใช้บันทึกแรงดันเอาต์พุตจากอุปกรณ์วัดการเคลื่อนไหวและแรง
|
ไมโครคอมพิวเตอร์ Arduino Mega |
|
สามารถรับสัญญาณจากเซ็นเซอร์ต่างๆ |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 11 |
แนวทางการใช้ชีวิตกล่าวถึงความท้าทายเฉพาะอะไรบ้างในบริบทของการแพร่ระบาด เช่น COVID-19?
|
กล่าวถึงการขาดความร่วมมือระหว่างประเทศ |
|
การขาดความร่วมมือระหว่างประเทศอาจส่งผลให้การควบคุมการแพร่ระบาดเป็นไปได้ยากขึ้นและการฟื้นฟูเศรษฐกิจช้าลง |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 12 |
จากการศึกษาพบว่า อะไรคืออุปสรรคสำคัญในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
|
ปัญหาด้านอุปทานที่ส่งผลต่อการรักษาที่แนะนำ |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 13 |
การศึกษาชี้ให้เห็นว่ามีความจำเป็นอย่างไรในการปรับปรุงการดำเนินการตามแนวทางการดำรงชีวิต
|
การปรับปรุงการแปลและการปรับให้เข้ากับบริบทท้องถิ่น |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 14 |
แนวทางการใช้ชีวิตมีบทบาทอย่างไรตามบทความ Australian living guidelines for the clinical care of people with COVID-19?
|
ข้อมูลเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นข้อมูลอ้างอิงหลักสำหรับ การรักษา โควิด -19 |
|
จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลและคำแนะนำที่เป็นปัจจุบันและเชื่อถือได้สำหรับการจัดการดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 |
โดยอ้างอิงจากหลักฐานที่ได้รับการตรวจสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 15 |
แนวทางการใช้ชีวิตได้รับการปรับปรุงอย่างไรเพื่อให้ยังคงมีความเกี่ยวข้องในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น โรคระบาด
|
ผ่านการเฝ้าระวังหลักฐานอย่างต่อเนื่องและการอัปเดตเป็นประจำ |
|
ช่วยให้แนวทางสามารถตอบสนองต่อข้อมูลใหม่ๆที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 16 |
อะไรคือจุดแข็งของแนวทางการใช้ชีวิตในช่วงโควิด -19 ของออสเตรเลีย
|
พวกเขาได้รับความไว้วางใจว่าเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้และมีหลักฐานเชิงประจักษ์ |
|
|
อิงจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการตรวจสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 17 |
แนวทางปฏิบัติทางคลินิกตามการศึกษาวิจัยนี้มีผลกระทบอะไรบ้าง?
|
ลดเวลาที่ต้องใช้ในการตัดสินใจทางคลินิก |
|
|
หลักฐานเชิงประจักษ์และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 18 |
บทความ Australian living guidelines for the clinical care of people with COVID-19 นี้เสนอแนะแนวทางการใช้ชีวิตในอนาคตอย่างไร
|
พวกเขาจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาเป็นหลัก |
|
แนวทางเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์ นักศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการสุขภาพเกี่ยวกับแนวทางการรักษาและการจัดการสถานการณ์ที่อิงตามหลักฐานเชิงประจักษ์และข้อมูลที่ทันสมัย |
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 19 |
แนวทางการใช้ชีวิตคืออะไร
|
ทรัพยากรแบบไดนามิกที่ได้รับการอัปเดตเป็นประจำเมื่อมีข้อมูลใหม่ |
|
ให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ทันสมัยและเชื่อถือได้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่เกี่ยวข้อง |
อิงตามหลักฐานเชิงประจักษ์และการค้นพบใหม่ๆในวงการแพทย์ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 20 |
แนวทางปฏิบัติทั่วไปในสถานพยาบาลใช้ร่วมกันมีอะไรบ้าง
|
เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจในการรักษา |
|
เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการดูแลรักษาผู้ป่วย |
อิงตามหลักฐานเชิงประจักษ์และแนวทางที่ดีที่สุดในการปฏิบัติ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|