ตรวจข้อสอบ > พรปวีณ์ ศรีวงศ์เนียม > วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (เชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์) | Biological Sciences > Part 2 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 44 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


จงใช้แผนภูมิแท่งประกอบการตอบคำถามข้อที่ 1-2 แผนภูมิแท่งแสดงปริมาณสารอาหารในกระแสเลือดก่อนและหลังผ่านเข้าสู่อวัยวะ A และ อวัยวะ B ตามลำดับ 1. อวัยวะ A และ B มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอวัยวะใดตามลำดับ

3. ปอด ไต

อวัยวะ A และ B มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นปอด และ ไต หนังสือชีวะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


สาร x น่าจะเป็นสารชีวโมเลกุลประเภทใด

4. เกลือแร่

ถ้าอวัยวะที่2 เป็นไต สารx ก็ควรที่จะเป็น เกลือแร่ในยูเรีย หนังสือชีวะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ประกอบการตอบคำถามข้อที่ 3-4 โมเดลจำลองการหายใจเข้าและหายใจออกของมนุษย์ ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้อุปกรณ์ดังนี้ 1. ขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตร พร้อมฝาเจาะรู ตัดครึ่ง นำมาใช้เฉพาะส่วนบน 2. หลอด 2 อัน 3. ลูกโป่ง 2 ลูก 4. แผ่นยาง 1 แผ่น นำอุปกรณ์ทั้งหมดประกอบกัน โดยต่อหลอดกับลูกโป่งแล้วใส่ลงในขวดน้ำตัดครึ่ง จากนั้นปิดฝาด้านบนและใช้แผ่นยางขึงด้านล่างบริเวณรอยตัดครึ่งให้ตึง จากภาพ อุปกรณ์แต่ละชนิดจำลองอวัยวะใดในร่างกาย

(คำตอบเหมือนกันหมด) หนังสือชีวะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ประกอบการตอบคำถามข้อที่ 3-4 โมเดลจำลองการหายใจเข้าและหายใจออกของมนุษย์ ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้อุปกรณ์ดังนี้ 1. ขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตร พร้อมฝาเจาะรู ตัดครึ่ง นำมาใช้เฉพาะส่วนบน 2. หลอด 2 อัน 3. ลูกโป่ง 2 ลูก 4. แผ่นยาง 1 แผ่น นำอุปกรณ์ทั้งหมดประกอบกัน โดยต่อหลอดกับลูกโป่งแล้วใส่ลงในขวดน้ำตัดครึ่ง จากนั้นปิดฝาด้านบนและใช้แผ่นยางขึงด้านล่างบริเวณรอยตัดครึ่งให้ตึง จากภาพ เมื่อใช้โมเดลเพื่อสาธิตการหายใจเข้า อุปกรณ์ต่าง ๆ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

(คำตอบเหมือนกันหมด) แผ่นยาง จำลอง กระดูกซี่โครง ถูกดันขึ้น ลูกโป่ง จำลอง ปอด พองตัว ทิศทางการไหลของอากาศ ไหลเข้าลูกโป่ง หนังสือชีวะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


โรคถุงลมโป่งพองเกิดจากสาเหตุใดเป็นหลัก ส่งผลอย่างไรต่อระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ หากต้องการทำโมเดลเพื่อจำลองระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง จะต้องมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์อย่างไร

สาเหตุหลักมาจากการ สูบบุหรี่ ปรับโมเดล ให้เหมือนมีอะไรมาติด ทำให้หายใจตื้น โรคถึงลมโป่งพอง เป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เกิดจากการอักเสบและแตกของเนื้อปอดที่บริเวณถุงลมปอด ทำให้เนื้อปอดมีถุงลมเล็ก ๆ มากมายคล้ายพวงองุ่น และรวมกับถุงลมที่อยู่ติดกันจนกลายเป็นถุงลมขนาดใหญ่ ทำให้มีพื้นผิวในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนในปอดลดลงหรือมีอากาศค้างในปอดมากกว่าปกติ ซึ่งหากเกิดความผิดปกติมากขึ้นก็จะทำให้ผู้ป่วยถุงลมโป่งพองมีอาการผิดปกติ คือมีอาการหายใจตื้น POBPAD 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


ใช้พันธุประวัติต่อไปนี้ตอบคำถามข้อที่ 6-9 การส่งต่อลักษณะการมีลักยิ้มในครอบครัวหนึ่งเป็นไปดังแผนผังพันธุประวัติด้านล่าง โดยสัญลักษณ์ต่าง ๆ มีความหมายดังต่อไปนี้ ลักษณะการมีลักยิ้มมีรูปแบบการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมอย่างไร

3. ส่งผ่านอัลลีลเด่นบนโครโมโซมร่างกาย

การส่งต่อลักษณะการมีลักยิ้มในครอบครัวหนึ่งเป็นไปดังแผนผังพันธุประวัติด้านล่าง โดยสัญลักษณ์ต่าง ๆ มีความหมายดังต่อไปนี้ ลักษณะการมีลักยิ้มมีรูปแบบการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ผ่านอัลลีลเด่นบนโครโมโซมร่างกาย หนังสือชีวะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


ใช้พันธุประวัติต่อไปนี้ตอบคำถามข้อที่ 6-9 การส่งต่อลักษณะการมีลักยิ้มในครอบครัวหนึ่งเป็นไปดังแผนผังพันธุประวัติด้านล่าง โดยสัญลักษณ์ต่าง ๆ มีความหมายดังต่อไปนี้ หากกำหนดให้ A แทนอัลลีลแสดงลักษณะมีลักยิ้ม และ a แทนอัลลีลแสดงลักษณะไม่มีลักยิ้ม บุคคลใดในพันธุประวัติที่มีความเป็นไปได้ที่จะมีจีโนไทป์แบบ aa

4. 5, 8, 9

5 เกิดจากแม่ไม่มีลักยิ้ม 8,9 เกิดจากพ่อไม่มีลักยิ้ม หนังสือชีวะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


บุคคลใดในพันธุประวัติที่น่าจะมีจีโนไทป์แบบ Heterozygous ของลักษณะการมีลักยิ้ม (เขียนตอบ)

6,7,10 6 เกิดจากแม่มีลักยิ้ม 7,10 เกิดจากแม่มีลักยิ้ม หน้งสือชีวะะะะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


ความน่าจะเป็นของครอบครัวนี้ที่บุคคลที่ 5 และ 6 จะมีลูกคนถัดไปเป็นลูกชายที่มีลักยิ้มมีค่าเท่าไร

1. 0.25

ความน่าจะเป็นของครอบครัวนี้ที่บุคคลที่ 5 และ 6 จะมีลูกคนถัดไปเป็นลูกชายที่มีลักยิ้มมีค่า 0.25 หรือ 1ใน4 รูปที่กำหนดให้,หนังสือชีวะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ในการตอบคำถามข้อ 10 - 12 กำหนดให้ สีขนของกระต่ายถูกควบคุมด้วยหลายอัลลีลบนโครโมโซมร่างกาย โดยมีรูปแบบการแสดงออกดังต่อไปนี้ หากนำกระต่ายสีเทาเข้มที่มีอัลลีลควบคุมสีขนแบบชินชิลลาผสมกับกระต่ายสีขาว กระต่ายรุ่นลูกรุ่นที่ 1 จะมีโอกาสมีสีใดได้บ้าง

2. สีเทาเข้ม 100%

ในกระต่ายลักษณะสี่คนควบคุมโดยยีนตำแหน่งประกอบด้วย 3 แอนลีน หนังสือ BIOFOCUS 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ในการตอบคำถามข้อ 10 - 12 กำหนดให้ สีขนของกระต่ายถูกควบคุมด้วยหลายอัลลีลบนโครโมโซมร่างกาย โดยมีรูปแบบการแสดงออกดังต่อไปนี้ หากนำกระต่ายสีเทาเข้มผสมกับกระต่ายสีชินชิลลา พบว่ากระต่ายรุ่นลูกมีขนสีเทาเข้มและสีชินชิลลาเหมือนรุ่นพ่อแม่ นอกจากนี้ ยังพบกระต่ายรุ่นลูกที่มีขนสีขาวอีกด้วย จากข้อมูลที่กำหนดให้ จีโนไทป์ของกระต่ายรุ่นพ่อแม่ควรเป็นอย่างไร

2. Ccchd และ cchdc

สีเทาเข้ม CC,Ccchd,Cc สีชินชิลลา cchdcchd,cchdc สีขาว cc ข้อมูลในตาราง 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ในการตอบคำถามข้อ 10 - 12 กำหนดให้ สีขนของกระต่ายถูกควบคุมด้วยหลายอัลลีลบนโครโมโซมร่างกาย โดยมีรูปแบบการแสดงออกดังต่อไปนี้ จากข้อมูลในข้อ 11 กระต่ายรุ่นพ่อแม่จะสีขนชนิดใด

4. สีเทาเข้มและสีขาว

สีเทาเข้มและสีขาวเป็นยีนเด่น ข้อมูลในตาราง 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


ในการศึกษาภาวะตาบอดสีเขียวแดงในครอบครัวหนึ่ง พบว่าตาและแม่ มีภาวะตาบอดสี ย่าและยาย เป็นพาหะของภาวะตาบอดสี ส่วนคนอื่น ๆ ในครอบครัวมีสายตาปกติ หากพ่อและแม่มีลูกทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย พี่ชายคนโต น้องสาวคนกลาง และน้องสาวคนเล็ก จงเขียนพันธุประวัติแสดงการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัวนี้ พร้อมให้เหตุผลประกอบการเลือกใช้สัญลักษณ์ (เขียนตอบ) กำหนดให้ใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ดังนี้

ย่า(พาหะ) -> พ่อ(ปกติ) ตา(ตาบอดสี) + ยาย(พาหะ) -> แม่(ตาบอดสี) -> ชโต(ปกติ),ญกลาง(ตาบอดสี), ญเล็ก(ตาบอดสี) ในการศึกษาภาวะตาบอดสีเขียวแดงในครอบครัวหนึ่ง พบว่าตาและแม่ มีภาวะตาบอดสี ย่าและยาย เป็นพาหะของภาวะตาบอดสี ส่วนคนอื่น ๆ ในครอบครัวมีสายตาปกติ หากพ่อและแม่มีลูกทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย พี่ชายคนโต น้องสาวคนกลาง และน้องสาวคนเล็ก จงเขียนพันธุประวัติแสดงการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัวนี้ พร้อมให้เหตุผลประกอบการเลือกใช้สัญลักษณ์ (เขียนตอบ) กำหนดให้ใช้สัญลักษณ์ต่างq ภาพที่กำหนด 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


จงคำนวณโอกาสที่พ่อและแม่จะมีคนที่ 4 เป็นลูกชายตาบอดสี (ตอบในรูปแบบทศนิยม) (เขียนตอบ) ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการตอบคำถามข้อ 15-16 ในการทดสอบโปรตีนจากตัวอย่างอาหารจำนวน 4 ตัวอย่าง มีรายละเอียดและผลการทดสอบดังนี้

0.5 ย่า(พาหะ) -> พ่อ(ปกติ) ตา(ตาบอดสี) + ยาย(พาหะ) -> แม่(ตาบอดสี) -> ชโต(ปกติ),ญกลาง(ตาบอดสี), ญเล็ก(ตาบอดสี) ภาพที่กำหนด 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


การแปลผลการทดสอบในตัวอย่างใดมีความผิดพลาด

5. ตัวอย่างที่ 3 และ 4

เป็นไปไม่ได้ที่สาร3 เติมNaOH แล้วจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง หนังสือชีวะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


ตัวอย่างที่ 2 มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นอาหารชนิดใด

2. ยาธาตุน้ำขาว นมสด

อาหารที่ก่อนการทดสอบเป็นสารคอลลอยด์สีขาวขุ่น หลังเติมโซดาไฟตกตะกอนขาวขุ่น และ หลังเติมจุนสีเป็นสีม่วง คือ ยาธาตุน้ำขาว และ นมสด กูเกิล 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


ในการทดสอบตัวอย่างสารไม่ทราบชนิดครั้งหนึ่ง มีรายละเอียดการทดสอบและผลการทดสอบดังนี้ สารตัวอย่างในแต่ละหลอด ประกอบไปด้วยสารชีวโมเลกุลประเภทใดบ้าง จงอธิบายและให้เหตุผลประกอบ

น้ำตาล ไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล เมื่อหยดสารละลายเบเนดิกต์ลงบนตัวอย่างการทดสอบ จะเปลี่ยนเป็นสีแดงอิฐและตกตะกอน หนังสือชีวะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


จากข้อมูลในข้อ 17 ตัวอย่างในแต่ละหลอดมีความเป็นไปได้ตามตัวเลือกในข้อใดมากที่สุด

5

ตามข้อที่ 17 น้ำตาล ไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ข้อมูลที่ให้/หนังสือชีวะ 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการตอบคำถามข้อ 19-20 ในการทดสอบการเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร มีการจัดเตรียมและผสมสารต่าง ๆ ดังนี้ โดยหลอดทดลองทุกหลอดถูกควบคุมให้มีอุณหภูมิและ pH ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์แต่ละชนิด ปฏิกิริยาสามารถเกิดขึ้นได้ในหลอดใดบ้าง และผลิตภัณฑ์ที่ได้คืออะไร (อาจมีมากกว่า 1 คำตอบ) (เขียนตอบ)

หลอดที่ 1,2,3,4 ผลิตภัณฑ์ที่ได้คือ O2 ในการทดสอบการเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร มีการจัดเตรียมและผสมสารต่าง ๆ ดังนี้ โดยหลอดทดลองทุกหลอดถูกควบคุมให้มีอุณหภูมิและ pH ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์แต่ละชนิด ปฏิกิริยาสามารถเกิดขึ้นได้ในหลอด 1234 หนังสือและข้อมูลที่ให้มา 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการตอบคำถามข้อ 19-20 ในการทดสอบการเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร มีการจัดเตรียมและผสมสารต่าง ๆ ดังนี้ โดยหลอดทดลองทุกหลอดถูกควบคุมให้มีอุณหภูมิและ pH ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์แต่ละชนิด หากเพิ่มชุดการทดลองในหลอดทดลองที่ 6 ซึ่งประกอบด้วยสารผสมระหว่างเปปซินและโปรตีน โดยควบคุมปฏิกิริยาภายใต้อุณหภูมิ 37°C pH 7 ปฏิกิริยาจะสามารถเกิดขึ้นได้หรือไม่ อย่างไร จงแสดงเหตุผลประกอบการอธิบายคำตอบ

ไม่ได้ อุณหภูมิร้อนเกินไป สารผสมระหว่างเปปซินและโปรตีน ปฏิกิริยาจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หนังสือBIOFOCUS 10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 80 เต็ม 200

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา