1 |
จงใช้แผนภูมิแท่งประกอบการตอบคำถามข้อที่ 1-2
แผนภูมิแท่งแสดงปริมาณสารอาหารในกระแสเลือดก่อนและหลังผ่านเข้าสู่อวัยวะ A และ อวัยวะ B ตามลำดับ
1. อวัยวะ A และ B มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอวัยวะใดตามลำดับ
|
1. ไต ปอด |
|
ทำการตัดตัวเลือกตามความเข้าใจและความถูกต้อง |
อวัยวะBต้องเป็นปอดแน่ๆเพราะ กราฟออกซิเจนก่อนและหลัง ของอวัยวะBมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจึงมีความเป็นไปได้ที่อวัยวะB จะเป็นปอด |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
สาร x น่าจะเป็นสารชีวโมเลกุลประเภทใด
|
1. โปรตีน |
|
ทำการตัดตัวเลือก+ตามความเข้าใจของตนเอง |
เพราะสารโปรตีนจะส่งผลต่อสารยูเรีย |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ประกอบการตอบคำถามข้อที่ 3-4
โมเดลจำลองการหายใจเข้าและหายใจออกของมนุษย์ ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้อุปกรณ์ดังนี้
1. ขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตร พร้อมฝาเจาะรู ตัดครึ่ง นำมาใช้เฉพาะส่วนบน
2. หลอด 2 อัน
3. ลูกโป่ง 2 ลูก
4. แผ่นยาง 1 แผ่น
นำอุปกรณ์ทั้งหมดประกอบกัน โดยต่อหลอดกับลูกโป่งแล้วใส่ลงในขวดน้ำตัดครึ่ง จากนั้นปิดฝาด้านบนและใช้แผ่นยางขึงด้านล่างบริเวณรอยตัดครึ่งให้ตึง
จากภาพ อุปกรณ์แต่ละชนิดจำลองอวัยวะใดในร่างกาย
|
|
|
ตอบข้อ 1 เพราะถูกต้องตามหลักความเป็นจริง (แต่ข้อ2,3,4,5 ก็ไม่ได้แตกต่างจากข้อ 1) |
เคยมีการทดลองนี้ที่โรงเรียนอยู่และจากภาพแล้วส่วนใหญ่จะมีการเกี่ยวข้องกับหลักความดันอากาศ |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ประกอบการตอบคำถามข้อที่ 3-4
โมเดลจำลองการหายใจเข้าและหายใจออกของมนุษย์ ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้อุปกรณ์ดังนี้
1. ขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตร พร้อมฝาเจาะรู ตัดครึ่ง นำมาใช้เฉพาะส่วนบน
2. หลอด 2 อัน
3. ลูกโป่ง 2 ลูก
4. แผ่นยาง 1 แผ่น
นำอุปกรณ์ทั้งหมดประกอบกัน โดยต่อหลอดกับลูกโป่งแล้วใส่ลงในขวดน้ำตัดครึ่ง จากนั้นปิดฝาด้านบนและใช้แผ่นยางขึงด้านล่างบริเวณรอยตัดครึ่งให้ตึง
จากภาพ เมื่อใช้โมเดลเพื่อสาธิตการหายใจเข้า อุปกรณ์ต่าง ๆ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
|
|
|
ตอบข้อ 1 เพราะถูกต้องตามหลักความเป็นจริง (แต่ข้อ2,3,4,5 ก็ไม่ได้แตกต่างจากข้อ 1) |
เคยมีการทดลองนี้ที่โรงเรียนอยู่และจากภาพแล้วส่วนใหญ่จะมีการเกี่ยวข้องกับหลักความดันอากาศ |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
โรคถุงลมโป่งพองเกิดจากสาเหตุใดเป็นหลัก ส่งผลอย่างไรต่อระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ หากต้องการทำโมเดลเพื่อจำลองระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง จะต้องมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์อย่างไร
|
สาเหตุ:สูดสารพิษเข้าไปเป็นจำนวนมาก
ปรับอุปกรณ์:ใช้ลูกโปร่งที่มีขนาดใหญ่และหนากว่าเดิม |
|
เป็นความเข้าใจที่มีมาตั้งแต่สมัยเรียน |
เพราะโรคถุงลมโป่งพองเกิดจากการสูดสารผิดหรืออนุภาพของฝุ่นที่มีขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก และ โรคถุงลมโป่งพองคือภาวะของถุงลมภายในปอดมีการขยายตัวมากขึ้นกว่าปกติทำให้ต้องใช้ลูกโปร่งที่มีขนาดใหญ่และหนาขึ้น |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
ใช้พันธุประวัติต่อไปนี้ตอบคำถามข้อที่ 6-9
การส่งต่อลักษณะการมีลักยิ้มในครอบครัวหนึ่งเป็นไปดังแผนผังพันธุประวัติด้านล่าง โดยสัญลักษณ์ต่าง ๆ มีความหมายดังต่อไปนี้
ลักษณะการมีลักยิ้มมีรูปแบบการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมอย่างไร
|
3. ส่งผ่านอัลลีลเด่นบนโครโมโซมร่างกาย |
|
การตัดตัวเลือก+ถูกต้องตามหลักความเป็นจริง |
ตามความสัมพันธ์ของอัลลีลกับโครโมโซม |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
ใช้พันธุประวัติต่อไปนี้ตอบคำถามข้อที่ 6-9
การส่งต่อลักษณะการมีลักยิ้มในครอบครัวหนึ่งเป็นไปดังแผนผังพันธุประวัติด้านล่าง โดยสัญลักษณ์ต่าง ๆ มีความหมายดังต่อไปนี้
หากกำหนดให้ A แทนอัลลีลแสดงลักษณะมีลักยิ้ม และ a แทนอัลลีลแสดงลักษณะไม่มีลักยิ้ม บุคคลใดในพันธุประวัติที่มีความเป็นไปได้ที่จะมีจีโนไทป์แบบ aa
|
4. 5, 8, 9 |
|
เกิดจากการตัดตัวเลือก |
เพราะ 1,4,6,7,10 เป็นบุคคลที่มีอัลลีลแสดงลักษณะมีลักยิ้ม หรือA ทำให้ไม่มีทางที่จะมีจีโนไทป์แบบ aa |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
บุคคลใดในพันธุประวัติที่น่าจะมีจีโนไทป์แบบ Heterozygous ของลักษณะการมีลักยิ้ม (เขียนตอบ)
|
5และ6 |
|
เป็นตามความเป็นจริง |
เพราะ 5,6 ได้รับการผสมจาก 1และ2 กับ 3และ4 |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
ความน่าจะเป็นของครอบครัวนี้ที่บุคคลที่ 5 และ 6 จะมีลูกคนถัดไปเป็นลูกชายที่มีลักยิ้มมีค่าเท่าไร
|
2. 0.5 |
|
เป็นไปตามความเป็นจริง |
เป็นตามกฎของเมนเดล |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ในการตอบคำถามข้อ 10 - 12
กำหนดให้ สีขนของกระต่ายถูกควบคุมด้วยหลายอัลลีลบนโครโมโซมร่างกาย โดยมีรูปแบบการแสดงออกดังต่อไปนี้
หากนำกระต่ายสีเทาเข้มที่มีอัลลีลควบคุมสีขนแบบชินชิลลาผสมกับกระต่ายสีขาว กระต่ายรุ่นลูกรุ่นที่ 1 จะมีโอกาสมีสีใดได้บ้าง
|
4. สีชินชิลลา 50% สีขาว 50% |
|
เป็นไปตามสูตรการคำนวณ |
เป็นไปตามสูตรการคำนวณตามกฎของเมนเดล |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ในการตอบคำถามข้อ 10 - 12
กำหนดให้ สีขนของกระต่ายถูกควบคุมด้วยหลายอัลลีลบนโครโมโซมร่างกาย โดยมีรูปแบบการแสดงออกดังต่อไปนี้
หากนำกระต่ายสีเทาเข้มผสมกับกระต่ายสีชินชิลลา พบว่ากระต่ายรุ่นลูกมีขนสีเทาเข้มและสีชินชิลลาเหมือนรุ่นพ่อแม่ นอกจากนี้ ยังพบกระต่ายรุ่นลูกที่มีขนสีขาวอีกด้วย จากข้อมูลที่กำหนดให้ จีโนไทป์ของกระต่ายรุ่นพ่อแม่ควรเป็นอย่างไร
|
2. Ccchd และ cchdc |
|
เกิดจากการตัดตัวเลือก |
จีโนไทป์ของกระต่ายรุ่นพ่อแม่ควรจะเป็นแบบCcchd และ Cchdc |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ ในการตอบคำถามข้อ 10 - 12
กำหนดให้ สีขนของกระต่ายถูกควบคุมด้วยหลายอัลลีลบนโครโมโซมร่างกาย โดยมีรูปแบบการแสดงออกดังต่อไปนี้
จากข้อมูลในข้อ 11 กระต่ายรุ่นพ่อแม่จะสีขนชนิดใด
|
2. สีชินชิลลาทั้งคู่ |
|
เป็นตามกฎและความเป็นจริง |
ตามกฎของเมนเดลที่กล่าวถึงอัลลีลบนโครโมโซมร่างกาย |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
ในการศึกษาภาวะตาบอดสีเขียวแดงในครอบครัวหนึ่ง พบว่าตาและแม่ มีภาวะตาบอดสี ย่าและยาย เป็นพาหะของภาวะตาบอดสี ส่วนคนอื่น ๆ ในครอบครัวมีสายตาปกติ หากพ่อและแม่มีลูกทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย พี่ชายคนโต น้องสาวคนกลาง และน้องสาวคนเล็ก จงเขียนพันธุประวัติแสดงการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัวนี้ พร้อมให้เหตุผลประกอบการเลือกใช้สัญลักษณ์ (เขียนตอบ)
กำหนดให้ใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ดังนี้
|
ตาปกติ : ตาบอดสี
50 : 50 |
|
เพราะหากพาหะ+พาหะ =ติดเชื้อ 100% |
ตามกฎทางพันธุกรรม |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
จงคำนวณโอกาสที่พ่อและแม่จะมีคนที่ 4 เป็นลูกชายตาบอดสี (ตอบในรูปแบบทศนิยม) (เขียนตอบ)
ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการตอบคำถามข้อ 15-16
ในการทดสอบโปรตีนจากตัวอย่างอาหารจำนวน 4 ตัวอย่าง มีรายละเอียดและผลการทดสอบดังนี้
|
ไม่ทราบ |
|
ไม่ทราบ |
ไม่ทราบ |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
การแปลผลการทดสอบในตัวอย่างใดมีความผิดพลาด
|
4. ตัวอย่างที่ 2 และ 4 |
|
เกิดจากการตัดคำตอบ |
หากเติมสารCuSO4 แล้วสารเปลี่ยนเป็นสีฟ้าแสดงว่าสารนั่นมีโปนตีน |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
ตัวอย่างที่ 2 มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นอาหารชนิดใด
|
4. นมสด น้ำเต้าหู้ |
|
เพราะมีความเป็นไปได้มากสุด |
ถูกต้องตามหลักความเป็นจริงบางอัน |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
ในการทดสอบตัวอย่างสารไม่ทราบชนิดครั้งหนึ่ง มีรายละเอียดการทดสอบและผลการทดสอบดังนี้
สารตัวอย่างในแต่ละหลอด ประกอบไปด้วยสารชีวโมเลกุลประเภทใดบ้าง จงอธิบายและให้เหตุผลประกอบ
|
ไม่ทราบ |
|
ไม่ทราบ |
ไม่ทราบ |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
จากข้อมูลในข้อ 17 ตัวอย่างในแต่ละหลอดมีความเป็นไปได้ตามตัวเลือกในข้อใดมากที่สุด
|
2 |
|
เพราะเกิดจากการตัดคำตอบ บริเวณหลอดที่ 2,4 |
หากนำไบยูเรตมาหยดลงสารและสารเป็นสีม่วงแสดงว่าสารนั่นเป็นดปนตีน และ สารใดก็ตามที่หยดลงบนกระดาษและกระดาษเปลี่ยนแปลงเป็นโปร่งแสงแปลว่าสารนั่นเป็นไขมัน |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการตอบคำถามข้อ 19-20
ในการทดสอบการเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร มีการจัดเตรียมและผสมสารต่าง ๆ ดังนี้
โดยหลอดทดลองทุกหลอดถูกควบคุมให้มีอุณหภูมิและ pH ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์แต่ละชนิด
ปฏิกิริยาสามารถเกิดขึ้นได้ในหลอดใดบ้าง และผลิตภัณฑ์ที่ได้คืออะไร (อาจมีมากกว่า 1 คำตอบ) (เขียนตอบ)
|
ไม่ทราบ |
|
ไม่ทราบ |
ไม่ทราบ |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการตอบคำถามข้อ 19-20
ในการทดสอบการเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร มีการจัดเตรียมและผสมสารต่าง ๆ ดังนี้
โดยหลอดทดลองทุกหลอดถูกควบคุมให้มีอุณหภูมิและ pH ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเร่งปฏิกิริยาของเอนไซม์แต่ละชนิด
หากเพิ่มชุดการทดลองในหลอดทดลองที่ 6 ซึ่งประกอบด้วยสารผสมระหว่างเปปซินและโปรตีน โดยควบคุมปฏิกิริยาภายใต้อุณหภูมิ 37°C pH 7 ปฏิกิริยาจะสามารถเกิดขึ้นได้หรือไม่ อย่างไร จงแสดงเหตุผลประกอบการอธิบายคำตอบ
|
ไม่ทราบ |
|
ไม่ทราบ |
ไม่ทราบ |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|