1 |
|
ง. เมื่อนำน้ำมันหยดลงในสาร Y สาร Y จะหันไออนลบไปล้อมรอบเกิดเป็นสารอิมัลชัน |
|
เพราะเมื่อหยดน้ำมันลงในสารy สารyจะหันด้านไม่มีขั้วเข้าหาน้ำมันไม่ใช่หันลบเข้าหาน้ำมัน
|
Xคือไขมันหรือน้ำมัน yคือเกลือของกรดไขมันปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้คือสะปอนนิฟิเคชั่น
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
|
ข้อ ข. |
|
กรดกลูตามิกไม่มีพันธะเพปไทด์จึงไม่ทำปฏิกิริยากับสารละลายCuSoแป้ แป้งมันฝรั่งไม่ทำปฏิกิริยากับสารละลายเมเนดิกส์น้ำตาลชูรสไม่ทำปฏิกิริยากับสารละลายไอโอดีน
|
น้ำตาลกลูโคสทำปฏิกิริยากับสารละลายเบเนดิกส์เกิดตะกอนสีแดงอิฐของCu2O
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
|
ข้อ ค. |
|
จากการที่ที่กำหนดจากวารที่กำหนดให้เมื่อนำไฮโดรลิซิสด้วยกดสารที่ไม่ให้ผลิตภัณฑ์เป็นกรดอัลฟาเรโน
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
|
ข. ธนนท์แช่เนื้อไว้ในตู้เย็นเพื่อเตรียมทำอาหาร |
|
โปรตีโปรตีนในเนื้อไม่เกิดการแปลงสภาพเพราะความเย็นไม่ทำให้โปรตีนแปลงสภาพ
|
โปรตีนสามารถถูกทำให้เสื่อมสภาพโดยการใช้อุณหภูมิสูงหรือการทำปฏิกิริยากับกรด
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
|
ง. 1, 2 และ 4 |
|
ข้อ3ผิดเพราะที่อุณหภูมิ 20 องศาเอนไซม์ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพเอนไซม์จะเกิดการแปรสภาพที่อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศา
|
อุอุณหภูมิต่ำเอนไซม์จะไม่มีการแปลงสภาพอุณหภูมิสูงเอนไซม์จะเกิดการแปลงสภาพ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
|
ง. กลูโคส,แป้ง |
|
เพราะน้ำตาลเพราะน้ำตาลกลูโคสทำปฏิกิริยากับสารละลายเมดิกเกิดตะกอนสีแดงอิฐและแป้งทำปฏิกิริยากับสารละลายไอโอดีนเกิดสารสีน้ำเงินyเมื่อถูกไฮโดรไลส์จะได้กลูโคสกลูโคสทำปฏิกิริยากับสารละลายเมดิกได้ตะกอนสีแดงอิฐ
|
น้ำตาลทำปฏิกิริยากับสารละลายเมเนดิกส์แป้งทำปฏิกิริยากับสารละลายไอโอดีน กลูโคสทำปฏิกิริยากับสารละลายเมเนดิกส์
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
|
|
|
จากข้อมูลการจากข้อมูลการเรียงตัวของสายเพปไทด์จะเริ่มต้นด้วยปลายด้านหมู่อะมิโนและไปสิ้นสุดที่ปลายด้านคาร์บอซิลิกดังนั้นกรดอะมิโนตัวแรกคือArgสายที่2ตามด้วยสายที่6สาย
ที่1สายที่3สายที่4และสายที่5เป็นสายสุดท้ายดังนั้นกรดอะมิโนตัวสุดท้ายคือเออาร์ทีและมีกรดอะ
มิโนทั้งหมด8ตัวจะเรียงตัวของกรดอะมิโนดังนี้
Arg-pro-pro-gly-phe-ser-pro-Phe-Arg
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
|
ข้อ ค. |
|
ในโดซามีนในโดซามีนไม่ได้ใส่ในอาหารโดยตรงแต่เกิดจากสารประเภทไดรฟ์ที่ใส่ในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เพื่อให้มีสีแดงทำปฏิกิริยากับสารเคมีในอาหาร
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
|
ข้อ ข. |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
|
ข้อ ค. |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
|
ข้อ ข. 4 แบบ |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
|
ข้อ ง. 4 ชนิด |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
นักกำหนดอาหารได้มีการจัดอาหารกลางวันสำหรับผู้ป่วยรายหนึ่ง โดยอาหารประกอบไปด้วย ข้าว กะหล่ำปีผัดน้ำมัน และแกงจืดเต้าหู้หมูสับ อาหารมื้อนี้ ผู้ป่วยจะได้รับสารชีวโมเลกุลประเภทให้พลังงานกี่ชนิด อะไรบ้าง
|
ค. 3 ชนิด ได้แก่ ไขมัน คาร์โบไฮเดต และโปรตีน |
|
ข้าวมีคาร์โบไฮเดรตเ ต้าหู้หมูสับมีโปรตีน ส่วนใครมันได้จากน้ำมัน
|
ชีวโมเลกุลที่ให้พลังงานคือโปรตีนไขมันและคาร์โบไฮเดรต
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
ข้อใดไม่ถูกต้อง
|
ง. การนำโปรตีนมาทำปฏิกิริยากับคอปเปอร์ (II) ซัลเฟตในเบสจะทำให้โปรตีนเกิดการแปลงสภาพ |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|