ตรวจข้อสอบ > ธนัชญา สุพัฒศรี > ชีวเคมีเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Biochemistry > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 72 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


ก. X สารมารถเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศได้ผลิตภัณฑ์เป็นสารมีกลิ่น

เอสเทอร์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กับน้ำ ซึ้งเป็นสารไม่มีกลิ่น

สารxละลายในเฮกเซนไม่ละลายในน้ำแสดงว่าเป็นสารไม่มีขั้ว และสมการที่ให้มาบ่งบอกว่าเป็นปฏิกิริยาสปอนิฟิเคชั่นของเอสเทอร์เนื่องจาำทำปฏิกิริยากับเบส มีความร้นเป็นตัวเร่ง และมีกลีเซอรอลเป็นผลิตภัณฑ์ ทำให้รู้ว่าสารxคือสารประเภทเอสเทอร์และสารyที่เกิดขึ้นคือเกลือของกรดไขมันซึ่งมีสมบัติเป็นสารอิมัลชันและสามารถละลายได้ในสารมีขั้วและไม่มีขั้ว

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


ที่ปลายของกรดกลูตามิกมีหมู่ฟังก์ชันคาร์บอกซิลิกซึ่งจะทำปฏิกิริยาควบแน่น(ดึงน้ำออก)กับหมู่ฟังก์ชันเอมีนของอาร์จินีนทำให้กลายเป็นไดเปปไทด์ที่มีหมู่ฟังก์ชันเอไมด์

ปฏิกิริยาควบแน่นของหมู่ฟังก์ชันคาร์บอกซิลิกและหมู่ฟังก์ชันเอมีน ได้น้ำและไดเปปไทด์ที่มีหมู่ฟังก์ชันเอไมด์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


ข้อ ข.

ไบยูเน็ตใช้ทดสอบพัธะเปปท์ในโปรตีนซึ่งกรดกลูตามิกเป็นกรดอะมิโนซึ่งไม่มีการเกิดพันธธเปปไทด์ขึ้นผลทดสอบจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง มันฝรั่งเป็นแป้งซึ่งประกอบด้วยน้ำตาลจึงใช้เบเนดิกตรวจสอบได้ และซูโคสไม่ใช่แป้งเมื่อตรวจสอบด้วยไอโอดีนทำให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง

-ไบยูเร็ตใช้ตรวจสอบพันธะเปปไทด์ในโปรตีน ซึ่งกรดกลูตามิกไม่มีพันธะเปปไท์เป็นแค่กรดอะมิโน -ในแป้งมันฝรั่งมีน้ำตาลนึงตรวจสอบได้ด้วยการทดสอบเบเนดิก -ซูโครสเป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ ซึ่งไม่ใช่แป้งผลการทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีนจึงไม่เดิดการเปลี่ยนแปลง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


1.มีพันธะเปปไทด์จำนวน 7 พันธะ พิจารณาจากหมู่ฟังก์ชันamide 2.ใช้น้ำ 7 โมเลกุล พิจารณาจากจำนวนพันธะเปปไทด์ 3.มีกรดอะมิโนจำนวน 8 โมเลกุล 4.มีกรดอะมิโน 5 ชนิด 5.กรดอะมิโนเป็นกรดทั้งหมด 6.เป็นpolypeptide เนื่องจากประกอบด้วยกรดอะมิโนหลายตัว

-พันธะเปปไทด์ เป็นพันธะที่มีหมู่ฟังก์ชันamide C สร้างพันธะกับN -หมู่ฟังก์ชันamideใช้น้ำhydrolysis ตามจำนวนหมู่ฟังก์ชัน -การพิจารณากรดอะมิโน พิจารณาจากหมู่ฟังก์ชันamide -หมู่ฟังก์ชันสารอินทร์ที่เป็นกรดคือ คาร์บอกซิลิก เบสคือ amine ที่เหลือเป็นกลาง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


ข้อ ค.

เพราะเป็นข้อที่ไม่มีcที่เป็นตัวเกาะทั้งกรดคาร์บอกซิลิกและเอมีน เนื่องจากเป็นโซ่เปิด

อัลฟาอะมิโนแอซิด คือตำแหน่ง c ที่มีหมู่เอมีนและกรดคาร์บอกซิลิกมาเกาะที่นำแหน่งเดียวกัน ช้อย ค เป็นโซ่เปิดจึงไม่มีตำแหน่งนี้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


จ. ไม่มีข้อใดถูกต้อง

เนื่องจากช้อยทุกข้อ ทั้งกรด เอนไซม์ ความร้อน และความเย็นเป็นผลให้เกิดการเสียสภาพของโปรตีน

การเสียสภาพของโปรตีน เกิดได้จาก ความร้อน กรด ความเย็น เอนไซม์ ทำให้โปรตีนเปลี่ยนรูปร่างไป

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


ก. 1 เท่านั้น

จากตารางผลการทดลอง ที่pH6-7 เอนไซม์ทำงานได้ดีสุดที่35องศาเซลเซียส และมีข้อมูลนอกเหนือจากตารางผลการทดลองทำให้ไม่สามารถสรุปผลได้

เอนไซม์เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถเสียสภาพได้เมื่ออยู่ในที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป และเป็นกรดเกินไป

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


จ. ซูโครส,ข้าวสวย

ซูโครสไม่เปลี่ยนสีไอโอดีน ข้าวสวยเปลี่ยนสีไอโอดีนเป็นสีน้ำเงินและไม่มีตะกอนเหมือนแป้ง

ซูโครสเป็นนอนรีดิวซิ่งชูการ์ ทำให้เมื่อไปทดสอบไอโอดีนและให้ความร้อนจึงเปลี่ยนเป็นสีแดงอิฐ ข้าวสวยเป็นคาร์ไฮเดรตซึ่งเปลี่ยนสีไอโอดีนเป็นสีน้ำเงิน และข้าวสวยไม่มีตะกอนเหมือนแป้ง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


ข้อ ง.

เพราะrna มีหลายประเภทซึ่งมีหน้าที่ในการสังเคราะห์โปรตีน

-RNA มีหน้าที่สังเคราะห์โปรตีน นิวคลีโอไทด์ของrna ต้องประกอบด้วยเบส ฟอสเฟต น้ำตาลไรโบส(ไม่ใช่น้ำตาลรูปแบบอื่น) -ร่างกายจะนำคาร์โบไฮเดรตมาเป็นแหล่งพลังงานแรก -ไม่ใช่ทุกชนิกของไนโตรซามีนจะเป็นสารก่อมะเร็ง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


ข้อ ข.

เพราะเป็นข้อที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน2ตัวและมีปลายสองฝั่งเป็นหมู่ฟังก์ชันเอมีนฝั่งหนึ่งและกรดคาร์บอกซิลิกอีกฝั่งหนึ่ง

ไดเปปไท์ต้องมีกรดอะมิโน2ตัวมาต่อกันโดยโครงสร้างต้องมีหมู่เอมีนอยู่ฝั่งหนึ่งและคาร์บกซิลิกอยู่อีกฝั่งนึ่ง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


ข้อ ก.

ชนิดที่2 โครงสร้างโมเลกุลของไฮโดรคาร์บอนไม่มีกิ่ง ทำให้น้ำย่อยได้ยาก จุลินทรีย์จึงไม่สามารถย่อยได้ดี

โมเลกุลของไฮโดรคาร์บอนที่โครงสร้างมีกิ่งแตกออกมาน้อยจะละลายน้ำได้ไม่ดี เนื่องจากการย่อยต้องใช้น้ำเป็นตัวย่อย(hydrolysis) เอนไซม์เป็นเพียงตัวเร่ง ดังนั้นจุลินทรีย์จึงย่อยผงซักฟอกชนิดที่2 ได้ไม่ดี

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


X และ Y ควรเป็นกลีเซอรอลและกรดไขมัน เนื่องจากเป็นปฏิกิริยาEsterification

ปฎิกิริยาesterification คือ กลีเซอรอล ทำปฏิกิริยากับ กรดไขมัน ได้ผลิตภัณฑ์เป็นไขและน้ำ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


เลซิตินเป็นสารอิมัลติไฟเออร์ ช่วยให้น้ำและไขมันละลายเข้าได้ด้วยกัน ไขมันที่อยู่ในหลอดเลือดจึงถูกละลายไปกับน้ำได้

สารอิมัลติไฟเออร์ ทำหน้าที่อิมัลชันช่วยให้สาร2ชนิดที่ไม่สามารถละลายเข้าได้ด้วยกันตามปกติ ละลายเข้าด้วยกันได้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


ข้อ ข. 4 แบบ

ปฏิกิริยาการเติมเนื่องจากC H O มีจำนวนเท่าเดิม เมื่อลองวาดได้ไอโซเมอร์ 4แบบ

การฟอกสีของสารชนิดนี้เป็นปฏิกิริยาการเติม ปฏิกิริยาสะปอนิฟิเคชันของไขมัน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


ข้อ ก. 1 ชนิด

มีการควบแน่นดึงน้ำออกและรวมตัวกันเป็นเอสเทอร์ มี1ไอโซเมอร์

ปฏิกิริยาesterificationของไขมัน ปฏิกิริยาควบแน่น

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


นักกำหนดอาหารได้มีการจัดอาหารกลางวันสำหรับผู้ป่วยรายหนึ่ง โดยอาหารประกอบไปด้วย ข้าว กะหล่ำปีผัดน้ำมัน และแกงจืดเต้าหู้หมูสับ อาหารมื้อนี้ ผู้ป่วยจะได้รับสารชีวโมเลกุลประเภทให้พลังงานกี่ชนิด อะไรบ้าง

จ. 4 ชนิด ได้แก่ ไขมัน คาร์โบไฮเดต โปรตีน และกรดนิวคลีอิก

เนื่องจากอาหารที่นำมามีสารชีวโมเลกุลครบ ข้าว มีคาร์โบไฮเดรต แกงจืดเต้าหู้หมูสับ มีโปรตีนและกรดนิวคลีอิก กะหล่ำผัดน้ำมัน มีไขมัน

สารชีวโมเลกุลมี4ชนิด ได้แก่ ไขมัน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และกรดนิวคลีอิก ซึ่งอาหารที่กล่าวมามีสารชีวโมเลกุลเหล่านี้ทั้งหมด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


ข้อใดไม่ถูกต้อง

ข. ไดแซคคาไรด์ที่ได้จากการย่อยสลายเซลลูโลสและอะไมเลสมีโครงสร้างเหมือนกัน

เมื่อย่อยCelluloseจะได้กลูโคส และamylase ไม่สามารถย่อยได้disaccharide เนื่องจากเป็นโปรตีน

Cellulose เป็นpolysaccharide มีglucoseเป็นmonomer ซึ่งglucoseไม่ใช่disaccharide Amylase ไม่ใช่สารประเภทคาร์โบไฮเดรต เป็นสารประเภทโปรตีน เป็นเอนไซม์จึงไม่สามารถย่อยแล้วได้disaccharide

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 60.55 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา