1 |
|
ข. เข็มที่ 1 Sinovac เข็มที่ 2 Pfizer ระยะห่างระหว่างเข็ม 3-4 สัปดาห์ |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
|
ไม่สามารถพบในแหล่งธรรมชาติ |
|
เนื่องจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเชื้อไวรัสที่มีเปลือกหุ้มเป็นไขมันด้านนอก จึงถูกทำลายได้ง่ายและไม่คงทนในสิ่งแวดล้อม และเชื้อสามารถถูกทำลายได้ง่ายโดยสารบางอย่างที่พบได้ในแหล่งธรรมชาติ ดังนั้นเชื้อโควิดไม่สามารถพบได้ในแหล่งธรรมชาติ
|
อ้างอิงจากองค์การด้านน้ำนานาชาติ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
|
ค. Clinical history + Scientific Treatment + Laboratory investigation |
|
Clinical history คือกระบวนการการเก็บบันทึกข้อมูลและอาการของผู้ป่วย ที่เป็นพื้นฐานของของมูลที่นำมาใช้ในการรักษาโรค และในการรักษาและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำนั้น แพทย์ต้องใช้ข้อมูล Scientific treatment และ Laboratory investigation ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของการตรวจเลือด การตรวขอุจาระ ปัสสาวะ ที่มาจากการตรวจในห้องแลบ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถชาวยยืนยันการวินิจฉัยโรคทางคลินิกของแพทย์ได้ หลังจากได้ข้อมูลมา แพทย์ก็สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อรักษาและป้องกัน ต่อไป
|
อ้างอิงจากการรักษาของแพทย์ในการรักษาโรคมะเร็งย้อนกลับหรือการกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
|
ง. เป็น RNA virus และ สามารถติดเชื้อข้ามสปีชีส์ (cross-species transmission) ได้ |
|
ไวรัสโควิดเป็นไวรัสที่มาสารพันธุกรรมเป็นRNA หรือ RNA Virus จึงมีโอกาสกลายพันธุ์สูงและสามารถติดเชื้อข้ามสปีชีส์ได้
|
เนื่องจากเชื้อโควิด19 มี RNA ซึ่งเกิดจากรหัสพันธุกรรม ดังนั้นรหัสทางพันธุกรรมเหล่านี้ ส่งผลให้ไวรัสสามารถเข้าไปในร่างกาย ทั้งยังสามารถเพาะพันธุ์ไวรัสให้เจริญเติบโตได้ในร่างกายด้วย โดยวิธีการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้คือตัวไวรัสจะทำการคัดลอกตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ในกรณีที่ไวรัสเกิดการคัดลอกตัวเองผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็จะนำไปสู่การกลายพันธุ์ได้
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
|
ไม่สามาถเทียบได้ว่ามีประสิทธิภาพแต่งต่างกันอย่างไร แต่สามารถบอกได้ว่าสายพันธุ์อัลฟา มีประสิทธิผลที่สูงกว่าสายพันธุ์เดลต้า |
|
เนื่องจากการหาค่าประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละชนิดแต่ละบริษัทธ์การผลิต จะมีตัวแปรต่างๆที่ไม่เหมือนกัน อาทิเช่นกลุ่มตัวอย่างในการทดลอง ทำให้ไม่สามารถเปรียงเทียบได้แน่ชัดว่า วัคซีนได้มีประสิทธิภาพมากกว่ากัน แค่หากเทียบประสิทธิผลคือการนไวัคซีนมาให้แก่ผู้ติดเชื้อในความเป็นจริงไม่ใช่ห้องทดลอง จะทำให้เราเห็นผลได้ชัดเจนกว่า เช่น จำนวนการติดเชื้อของผู้ป่วยที่รับวัคซีนแต่ละชนิด ว่ามีร้อยละเท่าไหร่ในจำนวนผู้รับวัคซีนเท่าใด ที่มีการเปรียบเทียบจำนวนอย่างเท่ากัน และหากกราฟนี้บอกถึงค่าประสิทธิผลก็จะสามารถสรุปได้ว่าสายพันธุ์อัลฟามีประสิทธิภาพในการต้านทานมากกว่าเดลต้า
|
Deborah fuller ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันและไวรัสวิทยา กล่าวว่า ค่าของตัวเลขประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะเวลาในการทดลองทางคลินิกของวัคซีนแต่ละชนิด สถานที่ที่ทำการทดลอง เป็นต้น ซึ่งประสิทธิภาพเหล่านี้คือการทดลอง ไม่ใช่การใช้จริง ดังนั้นค่าประสิทธิภาพจึงไม่ใช่ตัวตัดสินว่าวัคซีนตัวใดดีกว่ากัน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
|
ค. การรับประทานฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยบรรเทาอาการไข้จากโควิดได้เช่นเดียวกับยาพาราเซตามอล |
|
ฟ้าทะลายจรถือเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ฟ้าทะลายโจรสามารถรักษาอาการไข้หวัดและลดไข้ อีกทั้งยังกระตุ้นภูมิคุ้มกันอีกด้วย ดังนั้นฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยบบรรเทาอาการไข้จากเชื้อโควิดเช่นเดียวกับพาราเซตามอลได้
|
ฟ้าทะลายจรมีสาร andrographolide ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส แต่ฟ้าทะลายจรเป็นเพียงยาที่สามารถบรรเทาอาการได้เท่านั้นแต่ไม่สามารถป้องกันไวรัสที่จะเข้าสู่เซลล์ได้
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
|
ค. เพื่อช่วยเพิ่มการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อ Antigen |
|
Adjuvant หรือสารเสริมฤทธิ์ จะถูกฉีดพร้อมกับantigent เนื่องจากจะช่วยไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ให้สร้าง Antibodies ขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับ Antigent ที่ถูกฉีดเข้าไป ดังนั้น Adjuvant จึงมีส่วนช่วยในการเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อAntigent
|
การพัฒนาadjuvant ของไข้หวัดใหญ่ ที่มีการใช้นีโอโซมมาเป็นadjuvant หรือตัวกระตุ้น เนื่องจากนีโอโซมช่วยเพิ่มการกระตุ้นภูมิได้สูงคล้ายกับการกระตุ้นภูมิธรรมชาติ และช่วยให้วัคซีนอยู่ในกระแสเลือดได้นาน https://www2.gpo.or.th/Portals/6/Newsletter/RDINewsYr25No1-4.pdf
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
|
ค. กัญชงมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L.subsp. indica และ กัญชา มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L.subsp. sativa |
|
กัญชงมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L.subsp. sativa ส่วนกัญชามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Canabis sativa L.subsp. indica
|
การกำหนดชื่อของนักวิทยาศาสตร์ https://sciplanet.org/content/8707
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|