ตรวจข้อสอบ > ศิริลักษณ์ โพธิ์วันดี > ชีวเคมีเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Biochemistry > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 87 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


จ. คาร์โบไฮเดรต

เป็นสารอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตประเภทโพลีแซคคาไรด์ที่ละลายน้ำได้

เป็นพอลิเมอร์ของน้ำตาลฟรุคโตสที่เชื่อมต่อกันเป็นเส้นตรงที่ตำแหน่งบีตา 2, 1 (β - 2, 1 linked polyfructan) มีปลายด้านหนึ่งคือกลูโคสที่เชื่อมต่อกับฟรุกโตสในลักษณะการเชื่อมของซูโครส โดยพบเป็นคาร์โบไฮเดรต โครงสร้างหลักไม่มีพันธะที่เป็นองค์ประกอบของวงแหวน มีน้ำตาลประกอบเข้าด้วยกันมากกว่า 10 โมเลกุล

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


จ. 1 และ 3

ทำหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นสารตัวกระทำในคาร์โบไฮเดรทชนิดโฮมีโอสตาซิส มีผลต่อการเผาผลาญไขมันเปลี่ยนการทำงานของตับให้ทำหน้าที่เก็บหรือปลดปล่อยกลูโคส และทำให้เกิดการทำงานของลิพิด (ไขมัน) ในเลือดและในเนื้อเยื่ออื่น

โครงสร้างของอินซูลิน ผันแปรเล็กน้อยตามชนิดของสัตว์ อินซูลินที่มีแหล่งมาจากสัตว์จะแตกต่างกันในเชิงขีดความสามารถในการควบคุมพลังการทำงาน (เช่น การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรท) ในมนุษย์ อินซูลินจากสุกรมีความคล้ายคลึงกับอินซูลินของมนุษย์มากที่สุด

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


ค. เอนไซม์ทํางานได้ภายในช่วง pH ที่จํากัด

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


ง. เพปไทด์ท่ีประกอบด้วยกรดอะมิโนท้ัง 3 ชนิดข้างต้นโดยไม่มีกรดอะมิโนที่ซ้ํากันมีทั้งหมด3ชนิด

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


ก.กรดอะมิโน 4 ชนิดจับกันด้วยพันธะเพปไทด์ 3 พันธะ ได้สารประกอบที่เรียนว่าไตรเพปไทด์

พันธะเพปไทด์ (peptide bond) หรือพันธะเอไมด์ (amide bond) เป็นพันธะเคมีที่สร้างระหว่างหมู่คาร์บอกซิลของโมเลกุลหนึ่งกับหมู่อะมิโนของอีกโมเลกุลหนึ่ง และมีการปล่อยน้ำออกไปหนึ่งโมเลกุล จัดเป็นการสังเคราะห์แบบสูญเสียน้ำ (dehydration synthesis) และมักจะเกิดระหว่างกรดอะมิโน โมเลกุลที่เกิดใหม่เรียกว่าเอไมด์ C (=O) NH- หรือเพปไทด์

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


a=ไขมันและน้ำมัน b=ด่าง c=กลีเซอรอล

ไลปิดซึ่งแบ่งเป็นไขมันและน้ำมันนั้นอาศัยสถานะเป็นเกณฑ์ ไขมันจะเป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง ในขณะที่น้ำมันจะเป็นของเหลว ทั้งไขมันและน้ำมันมีโครงสร้างอย่างเดียวกัน คือ เป็นเอสเทอร์ที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างกลีเซอรอล กับกรดไขมัน กลีเซอรอล (glycerol ) เป็นสารประเภทแอลกอฮอล์ กรดไขมัน (fatty acid) เป็นสารประเภทกรดอินทรีย์ เอสเทอร์ที่เป็นไขมัน และน้ำมัน เรียกกันทั่ว ๆ ไปว่ากลีเซอไรด์ (glyceride) หรือ กลีเซอริล เอสเทอร์ (glyceryl ester)

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


ข้อ จ.

น้ำมันที่อัพให้มีโอกาสขาดเลือดมากที่สุดคือน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวเป็นองค์ประกอบมากที่สุดด้วยน้ำมันประเภทนี้ควรใช้ประกอบอาหารโดยใช้ไฟอ่อนๆการทดสอบน้ำมันจากโจทย์เป็นการทดสอบความไม่อิ่มตัวของกรดไขมันประกอบด้วยไอโอดีนที่อยู่ตรงไปจะเข้าทำปฏิกิริยาการเติมที่พันธะคู่ของกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวทำให้เกิดการฟอกจางสีของไอโอดีน

การทดสอบน้ำมันจากโจทย์เป็นการทดสอบความไม่อิ่มตัวของกรดไขมัน โดยไอโอดีนที่หยดลงไปจะเข้าไปทำปฏิกิริยาการเติมพันธะคู่ของกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวทำให้เกิดการฟอกจางสีของไอโอดีน

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


ข้อ จ.

เนื่องจากแช่ขวดน้ำมันทั้ง2ไว้ในตู้เย็นซึ่งมีอุณหภูมิเดียวกัน ปรากฏว่า น้ำมันขวดA แข็งตัว แต่น้ำมันขวด B มีจุดหลอมเหลวต่ำ

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


ก. น้ำมันหมูประกอบด้วยกรดไขมันอิ่มตัวน้อยกว่าไขวัว

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


ก. ไข่ขาว , น้ำตาลทราย , เอทิลแอซิเตต

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


ก. ข้อ 1 ถูกเพียงข้อเดียว

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


ข. มีข้อถูก 2 ข้อ

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


ข. มีข้อถูก 2 ข้อ

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


ก. โปรตีน แป้ง น้ำตาลทราย

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


ข. ไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัว แอลกอฮอล์ กรดคาร์บอกซิลิก แป้ง

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


จ. W, X, Y และ Z

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


จ. กรดอะมิโน

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


4. ระบบแสง I (PSI) และ ระบบแสง II (PSII) ถูกกระตุ้นการทำงานมากขึ้น ทำให้มีการหลุดของอิเล็กตรอน ในระบบแสงเพิ่มมากขึ้น

10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

21


3. มีสารพันธุกรรมเช่นเดียวกับเชื้อก่อโรค Influenza , AIDS

10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

22


ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับอะไมโลสและอะไมเลส

จ. อะไมโลส และอะไมเลสไม่ทำปฏิกิริยากับสารละลายนินไฮดริน

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

23


2. Lac operon เกี่ยวข้องกับกระบวนการ breakdown ของ lactose

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

24


2. Operon

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

25


4. Repressor

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 26.6 เต็ม 161

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา