ตรวจข้อสอบ > อัครเดช ดอนปานไพร > Medical & Health Sciences (Secondary Level) | สาขาการแพทย์และสุขภาพ ระดับมัธยมศึกษา > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 12 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


What is the main advantage of using nanomaterials in electrochemical sensors for medical diagnostics?

3. They enhance sensitivity and surface area for detection

เพราะวัสดุนาโนมีพื้นที่ผิวสูง ทำให้จับ biomarker ได้มากขึ้นเยอะจึงทำให้เซ็นเซอร์มี sensitivity สูงขึ้นกว่าวัสดุปกติ

หลักการ surface-to-volume ratio ของวัสดุนาโน = พื้นที่ผิวมาก จะทำให้ ปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีเกิดมาก ซึ่งช่วยให้ สัญญาณตรวจจับแรงและแม่นยำขึ้น (อ้างอิง: Jalalvand & Karami, 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


Which of the following nanomaterials is frequently mentioned as enhancing sensor conductivity?

2. Gold nanoparticles

Gold nanoparticles, AuNPs มีคุณสมบัติ นำไฟฟ้าสูง และสามารถเพิ่มการถ่ายโอนอิเล็กตรอนบนพื้นผิวอิเล็กโทรด จึงทำให้สัญญาณไฟฟ้าแรงและเซ็นเซอร์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ตามหลัก electrical conductivity ของโลหะระดับนาโน โครงสร้างขนาดเล็กของ AuNPs ช่วยเพิ่มการนำอิเล็กตรอนและปรับปรุงการตอบสนองไฟฟ้าเคมีของเซ็นเซอร์ (อ้างอิง: Jalalvand & Karami, 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


Why are carbon-based nanomaterials such as carbon nanotubes (CNTs) useful in electrochemical sensors?

3. They improve electron transfer and mechanical strength

Carbon nanotubes (CNTs) มีโครงสร้างท่อขนาดนาโนที่นำไฟฟ้าได้ดีและแข็งแรง จะช่วยเพิ่มการถ่ายโอนอิเล็กตรอนและเสถียรภาพของเซ็นเซอร์ทำให้การตรวจจับมีความไวและทนทานมากขึ้น

ตามหลัก electron transfer theory โครงสร้างของ CNTs มี conductivity สูง และพื้นที่ผิวกว้าง จะช่วยเพิ่มอัตราการส่งผ่านอิเล็กตรอนและเสริมความแข็งแรงของอิเล็กโทรด (อ้างอิง: Jalalvand & Karami, 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


What is one challenge in integrating nanotechnology with electrochemical sensors for medical use?

3. Issues in reproducibility and standardization

แม้ว่าวัสดุนาโนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเซ็นเซอร์แต่กระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพของนาโนวัสดุทำได้ยาก ซึ่งทำให้ผลการตรวจบางครั้งไม่คงที่และยังไม่มีมาตรฐานชัดเจนสำหรับการใช้งานทางการแพทย์

ตามหลัก quality control และ standardization วัสดุนาโนมีคุณสมบัติที่เปลี่ยนแปลงได้ตามวิธีสังเคราะห์ → การสร้างเซ็นเซอร์ที่ได้ผลซ้ำกันและผ่านมาตรฐานจึงเป็นความท้าทายสำคัญ (อ้างอิง: Jalalvand & Karami, 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


Which technique is commonly used to enhance the signal in nanotechnology-based electrochemical sensors?

2. Enzyme labeling

การใช้เอนไซม์เป็นตัวทำปฏิกิริยาในระบบเซ็นเซอร์ไฟฟ้าเคมีช่วยกระตุ้นให้เกิดสัญญาณไฟฟ้าที่แรงขึ้น เนื่องจากเอนไซม์สามารถเร่งปฏิกิริยาการเกิดหรือสลายตัวของสารตั้งต้นที่สร้างสัญญาณทำให้การตรวจจับมีความไวสูงแม้ในความเข้มข้นต่ำ

ตามหลัก catalytic signal amplification theory เอนไซม์ที่ถูกตรึงบนพื้นผิวที่มีวัสดุนาโนสามารถทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาชีวภาพ สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติไฟฟ้าเคมีสูงจำนวนมาก ทำให้มีการเพิ่มการถ่ายโอนอิเล็กตรอนและขยายสัญญาณตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ (อ้างอิง: Jalalvand & Karami, 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


Why is biocompatibility crucial in designing electrochemical sensors for medical diagnostics?

2. To prevent rejection or toxicity in biological systems

การออกแบบเซ็นเซอร์ทางการแพทย์ต้องมั่นใจว่าวัสดุที่ใช้จะไม่ก่อให้เกิดพิษหรือการตอบสนองของร่างกายที่เป็นอันตราย เช่นการอักเสบหรือสิ่งแปลกปลอม เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยทั้งในระบบร่างกายและระหว่างการตรวจทางคลินิก

ตามหลัก biocompatibility theory วัสดุที่ใช้ในอุปกรณ์ทางการแพทย์ต้องมี biocompatible หมายถึงไม่ก่อให้เกิดพิษ ไม่กระตุ้นการอักเสบ ไม่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เซ็นเซอร์สามารถทำงานได้ในสภาวะจริงโดยไม่ทำลายเซลล์หรือเนื้อเยื่อ (อ้างอิง: Jalalvand & Karami, 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


How do label-free electrochemical sensors differ from labeled ones?

3. They do not rely on additional reagents or markers

เซ็นเซอร์ label-free สามารถตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าเคมีที่เกิดจากการจับของ biomolecule โดยตรงบนพื้นผิวเซ็นเซอร์ จึงไม่ต้องใช้สารเคมีเพิ่มเติม เพื่อสร้างสัญญาณ วิธีนี้ทำให้การตรวจเร็วขึ้นลดขั้นตอนเตรียมตัวอย่างและลดความซับซ้อนของระบบตรวจจับเมื่อเทียบกับแบบ labeled

ตามหลัก direct electrochemical transduction theory เซ็นเซอร์แบบ label-free อาศัยการเปลี่ยนแปลงของคุณสมบัติไฟฟ้าเช่น กระแส, หรือศักย์ไฟฟ้า ที่เกิดขึ้นโดยตรงเมื่อสารเป้าหมายจับกับตัวรับบนอิเล็กโทรด โดยไม่ต้องพึ่งพาเอนไซม์ หรือสารอื่นๆในการขยายสัญญาณ การออกแบบนี้ช่วยให้เซ็นเซอร์ตอบสนองได้เร็วและสามารถใช้งานกับตัวอย่างจริงได้ง่ายขึ้น (อ้างอิง: Jalalvand & Karami, 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


What is one promising application of nanotech-based electrochemical sensors?

2. Early detection of disease biomarkers

เซ็นเซอร์ไฟฟ้าเคมีที่พัฒนาโดยใช้นาโนเทคโนโลยีมีความไวสูงสามารถตรวจพบ biomarkers ของโรคได้ตั้งแต่ระดับความเข้มข้นต่ำมากซึ่งเหมาะกับการวินิจฉัยโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเช่น มะเร็ง เบาหวาน หรือโรคติดเชื้อ

ตามหลัก biomarker detection theory การเพิ่มพื้นที่ผิวและการนำไฟฟ้าของวัสดุนาโนช่วยเพิ่มการจับ biomolecule บนเซ็นเซอร์และเพิ่มการถ่ายโอนอิเล็กตรอน จึงทำให้สัญญาณตรวจจับมีความชัดเจนแม้ biomarker มีปริมาณน้อยมาก ส่งผลให้สามารถตรวจโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นด้วยความแม่นยำสูง (อ้างอิง: Jalalvand & Karami, 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


Which of the following factors most directly affects the sensor's detection limit?

2. Nanomaterial surface-to-volume ratio

เพราะวัสดุนาโนที่มีอัตราส่วนพื้นที่ผิวต่อปริมาตร (surface-to-volume ratio) สูง สามารถจับ biomolecule ได้มากกว่า จะทำให้สัญญาณตรวจจับเด่นชัดขึ้นแม้สารเป้าหมายมีปริมาณน้อย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการลดค่าขีดจำกัดการตรวจจับ (detection limit)

ตามหลัก surface-to-volume enhancement theory เมื่อวัสดุนาโนมีพื้นที่ผิวมากขึ้นต่อหน่วยปริมาตรจะเพิ่มจุดทำปฏิกิริยาและเพิ่มการถ่ายโอนอิเล็กตรอน ซึ่งทำให้เซ็นเซอร์มีความไวสูงและตรวจจับสารในระดับความเข้มข้นต่ำได้อย่างแม่นยำ (อ้างอิง: Jalalvand & Karami, 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


What is one of the primary goals of using digital sensing technologies in cancer care?

3. Enable earlier and more personalized diagnosis

เทคโนโลยี digital sensing ในการดูแลมะเร็งถูกพัฒนาเพื่อตรวจจับ biomarker ของมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและสามารถปรับข้อมูลการตรวจเพื่อให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละรายทำให้ personalized treatment เป็นไปได้จริงและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ตามหลัก precision oncology เทคโนโลยีนี้ช่วยเก็บและประมวลผลข้อมูลผู้ป่วยแบบ real-time เพื่อสนับสนุนการตรวจเร็วและการรักษาเฉพาะบุคคล (อ้างอิง Yucel et al., 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


Which type of sensor is often used to monitor physical activity in cancer patients?

3. Accelerometers

ในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง อุปกรณ์สวมใส่ที่มี accelerometers ถูกนำมาใช้บ่อยเพื่อเก็บข้อมูลการเคลื่อนไห เช่นการเดินหรือการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ข้อมูลพวกนี้ช่วยแพทย์ประเมินความฟื้นตัวของผู้ป่วยและปรับแผนการรักษาให้เหมาะสม

ตามหลัก kinematic monitoring theory accelerometer จะตรวจจับความเร่งของการเคลื่อนไหวใน 3 แกนและแปลงเป็นข้อมูลเชิงปริมาณ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ระดับกิจกรรมของผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่รบกวนการใช้ชีวิต (อ้างอิง Yucel et al., 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Why are patient-reported outcomes important in digital cancer care systems?

3. They provide subjective data complementing sensor metrics

Patient-reported outcomes คือข้อมูลที่ผู้ป่วยรายงานด้วยตนเองเช่นความรู้สึกและคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงที่เซ็นเซอร์วัดไม่ได้โดยตรง พอนำมารวมกับข้อมูลจากเซ็นเซอร์ จะช่วยให้แพทย์เข้าใจสภาพผู้ป่วยได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น

ตามหลัก integrated digital health theory PROs ช่วยเติมเต็มข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์สวมใส่และระบบดิจิทัล โดยให้มุมมองของผู้ป่วยเองเกี่ยวกับอาการและผลกระทบของการรักษา ทำให้การวินิจฉัยและการปรับแผนการรักษามีความแม่นยำและเฉพาะบุคคลมากขึ้น (อ้างอิง Yucel et al., 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


What is one major advantage of real-time digital sensing in cancer treatment?

3. Rapid detection of deterioration in patient condition

การมี real-time digital sensing ช่วยให้แพทย์และทีมดูแลสามารถติดตามสัญญาณต่างๆของผู้ป่วยมะเร็งได้ตลอดเวลา ถ้าหากพบความผิดปกติเช่นภาวะแทรกซ้อนหรือการทรุดลง จะสามารถช่วยให้ป้องกันเหตุร้ายแรงและปรับการรักษาทันที

ตามหลัก continuous monitoring theory การเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ทำให้สามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงมได้ทันที ซึ่งส่งเสริม proactive care และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิกฤต (อ้างอิง Yucel et al., 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


Which of the following is a key barrier to implementing digital sensing in routine oncology practice?

3. Limited digital literacy among patients and providers

การนำเทคโนโลยี digital sensing มาใช้ใเจอปัญหาสำคัญคือผู้ป่วยและบุคลากรบางส่วนขาดความเข้าใจหรือทักษะในการใช้เทคโนโลยี ซึ่งทำให้การใช้งานระบบใหม่ๆเป็นไปได้ช้าขึ้นและต้องมีการสอนเพิ่ม

ตามหลัก health technology adoption theory ความรู้และทักษะด้านการใช้เทคโนโลยีมีผลโดยตรงต่อการยอมรับและการใช้เทคโนโลยีสุขภาพใหม่ หากผู้ใช้ไม่คุ้นเคยกับระบบการ เก็บและใช้ข้อมูลจะไม่มีประสิทธิภาพ (อ้างอิง Yucel et al., 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


Which stakeholders are considered central to the adoption of digital cancer care platforms?

2. Patients and healthcare providers

การนำแพลตฟอร์ม digital cancer care มาใช้ได้จริงต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้ใช้ข้อมูลและบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นผู้ประเมินและปรับการรักษาทั้งสองกลุ่มเป็นแกนหลักที่ขับเคลื่อนการยอมรับและการใช้งานระบบ

ตามหลัก healthcare ecosystem theory ผู้ป่วยและบุคลากรแพทย์เป็นผู้ใช้และผู้ตัดสินใจหลักในกระบวนการรักษาการมีส่วนร่วมของทั้งสองฝ่ายจึงเป็นตัวกำหนดความสำเร็จของการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในระบบการดูแล (อ้างอิง Yucel et al., 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


Digital sensing systems collect which combination of data types for cancer care optimization?

2. Sensor metrics and patient-reported outcomes

ระบบ digital sensing จะรวบรวมทั้งข้อมูลเชิงปริมาณจากเซ็นเซอร์เช่นการเคลื่อนไหว และข้อมูลสภาพร่างกายรวมกับ PROs เพื่อให้ครอบคลุมสำหรับการปรับแผนการรักษา

ตามหลัก integrated health data theory การรวมข้อมูลจากอุปกรณ์ตรวจวัดเข้ากับข้อมูลที่ผู้ป่วยรายงานเอง ทำให้แพทย์สามารถวิเคราะห์สุขภาพผู้ป่วยได้ทั้งมุมมองวัตถุวิสัยและอัตวิสัย จำช่วยเพิ่มความแม่นยำของการวินิจฉัยและปรับการรักษาได้ตรงจุด (อ้างอิง Yucel et al., 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


How do digital sensors contribute to improving the quality of life in cancer patients?

3. By enabling symptom tracking and early intervention

เซ็นเซอร์ดิจิทัลช่วยติดตามอาการของผู้ป่วยมะเร็งแบบต่อเนื่องทำให้แพทย์สามารถตรวจพบสัญญาณเตือนของภาวะแทรกซ้อนหรือการทรุดตัวได้เร็วขึ้น ซึ่งทำให้มีการดูแลรักษาได้ทันท่วงที ลดความรุนแรงของอาการ และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ตามหลัก proactive care theory การเฝ้าตามอาการต่อเนื่องด้วยเซ็นเซอร์ดิจิทัลทำให้สามารถแทรกแซงได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของปัญหา ซึ่งจะช่วยลดภาระโรคและปรับการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยรายบุคคล (อ้างอิง Yucel et al., 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


What does the article suggest about the future direction of digital sensing in cancer care?

3. It holds promise for widespread personalized care

digital sensing มีศักยภาพสูงในการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยมะเร็งไปสู่ระบบที่ปรับเฉพาะบุคคลและใช้ได้กว้างขึ้นทั้งในโรงพยาบาลและการดูแลที่บ้าน ซึ่งจะช่วยให้การรักษามีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต

ตามหลัก personalized medicine theory เทคโนโลยี digital sensing จะรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์ AI และ PROs เพื่อวิเคราะห์และออกแบบการรักษาที่เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญของการแพทย์อนาคตที่เน้นความเฉพาะบุคคล (อ้างอิง Yucel et al., 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


Based on the diagram, which of the following would most likely result in a false signal output in an electrochemical sensor for medical diagnostics?

1. Using a transducer made of non-conductive materials

เพราะ transducer ต้องนำไฟฟ้าได้เพื่อส่งต่อสัญญาณจากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบน bioreceptor ไปยังอิเล็กโทรด ถ้าใช้วัสดุที่ไม่นำไฟฟ้าอิเล็กตรอนจะไม่สามารถเคลื่อนที่ จำทำให้สัญญาณที่อ่านได้ผิดพลาดหรือไม่มีสัญญาณเลย

ตาม electron transfer theory การส่งอิเล็กตรอนต้องอาศัยตัวกลาง ถ้าไม่มีการนำไฟฟ้าสัญญาณจะไม่ถูกสร้าง (อ้างอิง Jalalvand & Karami, 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


Based on the image, which of the following scenarios best demonstrates the advantage of using emerging digital platforms in cancer diagnostics?

3. A portable chip-based sensor detects protein biomarkers from a blood sample within minutes

เพราะอุปกรณ์รุ่นใหม่ทำงานได้เร็วแค่ใช้เลือดนิดเดียวก็ตรวจหามะเร็งได้ภายในไม่กี่นาทีไม่ต้องรอนานหรือทำขั้นตอนซับซ้อนเหมือนวิธีเก่าๆ

ตามหลัก point-of-care diagnostics การตรวจที่ทำได้เร็วและใกล้ตัวผู้ป่วยจะช่วยให้แพทย์รู้ผลเร็วขึ้นซึ่งทำให้สามารถตัดสินใจรักษาได้ไวและแม่นยำกว่าวิธีที่ต้องรอผลจากห้องแล็บนานๆ (อ้างอิง Yucel et al., 2024)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 140 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา