1 |
What is the primary goal of contact tracing in public health?
|
To stop the spread of diseases by identifying and informing contacts |
|
เนื่องจากโรคที่สามารถติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัสนั้นเป็นสิ่งที่อันตรายในสังคมจึงต้องมีการเฝ้าระวังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างครอบคลุม
|
อ้างอิงจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ COVID 19 ที่สามารถติดต่อกันได้ง่ายแม้ผู้ป่วยจะมีการป้องกันเบื้องต้นอย่างใส่แมส
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
During the COVID-19 pandemic, what was one main reason people were motivated to isolate themselves after testing positive?
|
To avoid infecting others, particularly vulnerable populations |
|
โดยทั้วไปมีมารตการในการกักตัวของผู้ที่ติดเชื้อ COVID 9 เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไปยังผู้อื่น
|
อ้างอิงจากมาตรการ lock down ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
What method was commonly used for focus group discussions in the study on COVID-19 contact tracing?
|
Virtual, synchronous meetings |
|
เนื่องจาก covid 19 เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายดังนั้นหากต้องมีการศึกษาผู้ป่วยก็ควรที่จะใช้รูปแบบการประชุมออนไลน์เพื่อความปลอดภัยของผู้สัมภาษณ์และลดการแพร่ระบาดของเชื้อ
|
ตัวอย่างงานวิจัยจากการวิจัยกลุ่มชนชาติในสหรัฐ https://link.springer.com/article/10.1007/s40615-021-01167-5?utm_source=chatgpt.com
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
What factor did NOT influence the success of case investigation and contact tracing according to the article?
|
Political ideology of the participants |
|
สาเหตุหลักๆในการติดตามผู้ป่วย covid 19 นั้นคือเพื่อให้ทราบข้อมูลของโรคมากขึ้นเพื่อนำมาใช้ในการป้องกันและเพื่อรักษาผู้ป่วยซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับอุดมการณ์ทางการเมือง
|
อ้างอิงจากการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ป่วยแต่ละเคสของ Elsevier https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC9981264/
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
Which demographic factor was reported to affect the experiences and behaviors of individuals regarding CI/CT?
|
Political ideology |
|
คนที่มีแนวคิด อนุรักษนิยม มีแนวโน้ม ไม่ไว้วางใจระบบ contact tracing หรือมองว่าการติดตามผู้สัมผัสเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
ขณะที่คนที่มีแนวคิด เสรีนิยม มักสนับสนุนมาตรการด้านสาธารณสุขและร่วมมือกับ CI/CT มากกว่า
|
Quinn SC, et al. (2021). Addressing Political Ideology in Public Health Communication Strategies During the COVID-19 Pandemic.
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
What did participants report feeling after learning they were exposed to COVID-19?
|
Worry about their health and that of their contacts |
|
ปกติเมื่อผู้ป่วยได้รับรายงานว่าตนติดเชื้อก็มักจะเกิดอาหารวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพและชีวิตตนเอง
|
อ้างอิงจากการศึกษาปฏิกิริยาทางกายภาพของผู้ป่วยจาก https://journals.sagepub.com/doi/10.1177/0020764020932202?utm
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
What was a common source of information for participants when they learned about their COVID-19 status?
|
Family, friends, and healthcare providers |
|
ผู้ป่วยมักจะปรึกษาหรือหาข้อมูลจากคนใกล้ตัวที่ไว้ใจได้
|
จากงานศึกษาคุณภาพ https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC9595089/?utm
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
Which of the following was NOT a method for collecting data in the study described?
|
Direct observations in homes |
|
ขัดการมาตรการกักตัวของผู้ป่วยซึ่งหากไปเก็บข้อมูลโดยพบผู้ป่วยโดยตรงอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
|
อ้างอิงจากการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ป่วยแต่ละเคส https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/36896252/
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
What ethical considerations were emphasized during the focus group discussions?
|
Ensuring all participants were of the same age |
|
ประเด็นทางจริยธรรมในงานวิจัยที่ใช้การสนทนากลุ่มโฟกัสที่สำคัญคือ การรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าร่วม การรับความยินยอมอย่างสมัครใจ การปกป้องสิทธิและความปลอดภัยของผู้เข้าร่วม
|
อ้างอิงจาก https://www.hhs.gov/ohrp/regulations-and-policy/belmont-report/index.html
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
How did the availability of self-tests in 2021 impact the public health response to COVID-19?
|
It increased the speed at which people could learn their infection status |
|
การที่ผู้ป่วยสามารถตรวจว่าตนเองติดเชื้อหรือไม่ได้ด้วยตนเองจะทำให้ผู้ป่วยสามาถรับการรักษาได้เร็วและช่วยลดภาระบุคลากรทางการแพทย์
|
ข้อมูลจาก CDC — MMWR (31 ต.ค. 2021–11 มิ.ย. 2022)
รายงานว่าแม้จะมีการใช้ self-tests จำนวนมาก (ประมาณ 393 ล้านชุด) แต่มีเพียง 10.7 ล้านผลลัพธ์ที่ถูกรายงาน ซึ่งแสดงว่ามีการใช้เพื่อ ตัดสินใจด้วยตนเองอย่างรวดเร็ว มากกว่าการรายงานสู่ระบบอย่างเป็นทางการ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
What is urban ecology primarily concerned with?
|
The interactions between urban environments and ecosystems |
|
Urban ecology คือศาสตร์แขนงหนึ่งของนิเวศวิทยาที่ศึกษา “The relationships between living organisms and their environment in urban settings.” ซึ่งหมายถึง การศึกษาว่าสิ่งมีชีวิตในเมืองมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติอย่างไร
|
อ้างอิงจาก https://www.urbanecologycenter.org/
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
Which continent is noted as rapidly urbanizing within the study?
|
Africa |
|
Africa เป็นทวีปที่กำลังเข้าสู่ภาวะ urbanizing หรือ การเติบโตของเมือง อย่างรวดเร็วที่สุดเพราะ การเพิ่มของประชากรอย่างรวดเร็ว การย้ายถิ่นจากชนบทสู่เมือง โอกาสในการทำงานและการศึกษาทำให้คนแห่เข้าสู่เมืองใหญ่ การขาดโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอทำให้การขยายเมืองมักเกิดแบบไร้ระเบียบ
|
อ้างอิงจาก UN-Habitat (2020). The State of African Cities Report
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
What significant bias is present in the study of urban ecology in Africa?
|
Limited to capital cities |
|
งานวิจัยด้าน นิเวศวิทยาเมือง (Urban Ecology) ในทวีปแอฟริกามักมีข้อจำกัดด้านข้อมูล ทุนวิจัย และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทำให้นักวิจัยมักเลือกศึกษาใน เมืองหลวง (Capital cities) หรือเมืองใหญ่ที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น ไนโรบี (เคนยา), ลากอส (ไนจีเรีย), โจฮันเนสเบิร์ก (แอฟริกาใต้)
|
1. 🌍 Urban Political Ecology (UPE)
ทฤษฎีนี้เน้นการวิเคราะห์ อำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่มีผลต่อสภาพแวดล้อมในเมือง
UPE ชี้ให้เห็นว่า เมืองหลวงมักได้รับการ “ลงทุน” และ “การจัดการทรัพยากร” มากกว่าเมืองอื่น จึงถูกศึกษาและวางแผนเชิงนิเวศมากกว่า
2. Central Place Theory (Christaller, 1933)
ทฤษฎีนี้อธิบายว่า เมืองหลวงหรือเมืองใหญ่เป็น “ศูนย์กลางบริการ” ที่ดึงดูดประชากร ทุน และการวิจัย
ส่งผลให้เมืองเล็กไม่มีข้อมูลหรือความสนใจจากนักวิจัยเพียงพอ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
What factor did the study NOT find influencing research efforts in African urban ecology?
|
Technological advancements |
|
ปัจจัยที่มีอิทธิพล 1. GDP ของประเทศ 2.Urbanization intensity 3.Ecoregion conservation status 4.Geographic distribution of studies
|
1. Science Infrastructure Theory
ชี้ว่าประเทศที่มีทรัพยากรทางการเงินและโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เข้มแข็ง เช่น GDP สูง → มีงานวิจัยมากกว่า
2. Environmental Justice Perspective
วิเคราะห์ว่า พื้นที่ที่เปราะบางหรือมีคุณค่าทางนิเวศ (แต่ขาดการปกป้อง) มักถูกละเลยในงานวิจัย
จึงเกิดความไม่สมดุลใน “geographic distribution” ของความรู้
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
Which method was used to gather data for the study?
|
Literature review and bibliographic searches |
|
ศึกษาที่วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวและช่องว่างของงานวิจัยด้าน Urban Ecology ในทวีปแอฟริกา (เช่น งานของ McHale et al., Cilliers et al., และอื่น ๆ) มีการใช้วิธีการหลักคือ: การทบทวนวรรณกรรม การสืบค้นฐานข้อมูลทางบรรณานุกรม
|
Systematic Review Methodology
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
What does the study suggest is needed for urban ecology research in Africa?
|
A realignment of research priorities |
|
Urban Ecology ในแอฟริกา (โดยเฉพาะ McHale et al., 2015 และ Cilliers et al., 2013) ชี้ให้เห็นว่า:
ความพยายามด้านงานวิจัยในปัจจุบัน ยังไม่สอดคล้องกับความท้าทายทางสิ่งแวดล้อมและสังคมที่แท้จริง ที่เมืองในแอฟริกากำลังเผชิญอยู่
|
McHale, M. R., et al. (2015). The landscape of urban ecology research in Africa: current knowledge and future needs. Landscape Ecology.
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
Which country was mentioned as having the majority of the studies?
|
South Africa |
|
ในการศึกษางานวิจัยด้าน urban ecology ในแอฟริกา พบว่า แอฟริกาใต้ (South Africa) เป็นประเทศที่มีจำนวนงานวิจัยมากที่สุดและเป็นศูนย์กลางของการศึกษาในทวีปนี้ เนื่องจาก:
แอฟริกาใต้มี สถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่เข้มแข็ง เช่น University of Cape Town, University of Pretoria เป็นต้น
มีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานและทุนวิจัยมากกว่า
เมืองใหญ่ในแอฟริกาใต้ เช่น เคปทาวน์ โจฮันเนสเบิร์ก เป็นพื้นที่ศึกษาหลักของ urban ecology
|
McHale et al. (2015) และ Cilliers et al. (2013) ระบุว่าการศึกษาส่วนใหญ่ใน urban ecology ของแอฟริกากระจุกตัวอยู่ในแอฟริกาใต้
การกระจายงานวิจัยในทวีปนี้ยังไม่สมดุล เมืองหรือประเทศอื่นๆ เช่น เคนยา ไนจีเรีย มีงานวิจัยน้อยกว่า
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
How did the study categorize the geographic biases in research?
|
Unevenly distributed |
|
การศึกษาทางภูมิศาสตร์มีการ กระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่หรือเมืองใหญ่เท่านั้น
มีเมืองหรือประเทศบางแห่งที่มีงานวิจัยจำนวนมาก ในขณะที่หลายพื้นที่อื่นๆ แทบไม่มีงานวิจัยเลย
ดังนั้น การกระจายของงานวิจัยจึงไม่ได้สม่ำเสมอหรือ “well balanced” แต่กระจุกตัวและขาดความสมดุล
|
การศึกษานี้สะท้อนปัญหา “geographic bias” ในงานวิจัยซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในหลายสาขาวิชา โดยเฉพาะในสาขาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและสังคม
Bias แบบนี้ทำให้ความรู้ที่ได้ไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดและอาจทำให้การแก้ปัญหาหรือการวางแผนนโยบายผิดพลาดได้
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
What is a key recommendation from the study for improving urban ecology research in Africa?
|
Encourage transnational collaborations |
|
วิจัยด้าน urban ecology ในแอฟริกา ชี้ว่า เพื่อพัฒนาและขยายขอบเขตของงานวิจัยให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จำเป็นต้องมีการ:
ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และทรัพยากร
ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนเทคนิค วิธีวิจัย และข้อมูลระหว่างนักวิจัยในแอฟริกาและทั่วโลก
ขจัดข้อจำกัดด้านทุนวิจัยและโครงสร้างพื้นฐานในหลายประเทศในแอฟริกา
เพิ่มศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างเป็นระบบ
|
แหล่งอ้างอิง
McHale, M. R., et al. (2015). The landscape of urban ecology research in Africa: current knowledge and future needs. Landscape Ecology.
Cilliers, S. S., et al. (2013). Urban ecology in developing countries: a perspective from South Africa. Landscape and Urban Planning.
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
According to the study, what impacts the number of publications in African urban ecology?
|
The GDP of the countries |
|
ประเทศที่มี GDP สูงกว่า มักจะมีทรัพยากรในการวิจัยมากกว่า เช่น งบประมาณสำหรับทุนวิจัย โครงสร้างพื้นฐาน และสถาบันการศึกษา
ส่งผลให้ประเทศเหล่านี้มีจำนวนงานวิจัยและตีพิมพ์ในสาขา urban ecology มากกว่าประเทศที่มี GDP ต่ำกว่า
|
แนวคิดที่เกี่ยวข้อง
Science infrastructure and economic capacity theory: ประเทศที่มีฐานเศรษฐกิจแข็งแรงสามารถลงทุนในงานวิจัยได้มากขึ้น
Research output and development linkage: การพัฒนาทางเศรษฐกิจสัมพันธ์กับการผลิตองค์ความรู้และงานวิจัย
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|