| 1 |
What is the primary goal of contact tracing in public health?
|
To stop the spread of diseases by identifying and informing contacts |
|
การเฝ้าระวังสุขภาพมีบทบาทสำคัญต่อระบบสาธารณสุข เพราะเป็นกระบวนการที่ช่วยติดตามการระบาดของโรค (monitor disease incidence and prevalence) ตัวชี้วัดอย่าง “incidence” ใช้วัดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในช่วงเวลาหนึ่งส่วน “prevalence” ใช้วัดจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในประชากร ณ เวลาหนึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้หน่วยงานวางแผนการจัดสรรทรัพยากร เช่น เตียงผู้ป่วย วัคซีน และบุคลากรทางการแพทย์หยุดการแพร่กระจายของโรค (stop the spread)
การตรวจสอบหาผู้สัมผัส (contact tracing) เป็นขั้นตอนสำคัญในการควบคุมโรคติดต่อ
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 2 |
During the COVID-19 pandemic, what was one main reason people were motivated to isolate themselves after testing positive?
|
To avoid infecting others, particularly vulnerable populations |
|
ในช่วงการระบาดของโควิด-19 หนึ่งในแรงจูงใจหลักที่ทำให้ผู้คนแยกตัว (isolate) หลังตรวจพบว่าติดเชื้อ คือ
ความต้องการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปยังผู้อื่น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง
|
หลักการควบคุมโรคติดต่อ (Infectious Disease Control)
การกักตัว (Isolation) คือวิธีการแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้อื่น เพื่อลดค่า R₀ (basic reproduction number) หรือจำนวนคนที่ 1 คนสามารถแพร่เชื้อไปยังคนอื่นได้
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 3 |
What method was commonly used for focus group discussions in the study on COVID-19 contact tracing?
|
Virtual, synchronous meetings |
|
ในช่วงการระบาดของโควิด-19 การจัด Focus Group หรือการอภิปรายกลุ่มเพื่อศึกษาพฤติกรรม ความคิดเห็น และทัศนคติของประชาชนเกี่ยวกับการ contact tracing (การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด) มักดำเนินการในรูปแบบ “Virtual, synchronous meetings” หรือการประชุมออนไลน์แบบเห็นหน้ากันแบบเรียลไทม์
|
ทฤษฎีการเข้าถึง (Accessibility Theory) รูปแบบออนไลน์ช่วยให้ผู้เข้าร่วมจากหลากหลายภูมิภาคสามารถมีส่วนร่วมได้ แม้อยู่ห่างไกลหรือมีข้อจำกัดในการเดินทาง
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 4 |
What factor did NOT influence the success of case investigation and contact tracing according to the article?
|
The color of the quarantine facilities |
|
จากบทความที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนโรคและการติดตามผู้สัมผัส (case investigation and contact tracing) ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของกระบวนการนี้ประกอบด้วย
การเข้าถึงการตรวจหาเชื้อ (Availability of testing) ช่วยให้สามารถระบุผู้ติดเชื้อได้รวดเร็วความร่วมมือของประชาชน (Public cooperation and participation) ประชาชนยินยอมให้ข้อมูลและปฏิบัติตามมาตรการ
การเข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (Access to reliable information) ลดข่าวลวง และเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการติดตามผู้สัมผัส
|
โมเดลการยอมรับพฤติกรรมด้านสุขภาพ (Health Belief Model):
อธิบายว่าพฤติกรรมของบุคคลขึ้นอยู่กับการรับรู้ความรุนแรงของโรค การเข้าถึงข้อมูล และความเชื่อมั่นในมาตรการ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 5 |
Which demographic factor was reported to affect the experiences and behaviors of individuals regarding CI/CT?
|
Type of employment |
|
ประเภทของงานที่บุคคลทำ (Type of employment)
เป็นปัจจัยประชากรศาสตร์ (demographic factor) ที่ มีผลโดยตรง ต่อประสบการณ์และพฤติกรรมของผู้คนเกี่ยวกับการสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัส (CI/CT)
|
ทฤษฎีความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ (Social Determinants of Health) รายได้ สภาพแวดล้อมการทำงาน และความมั่นคงทางอาชีพ เป็น “determinants” ที่มีผลต่อ การเข้าถึงบริการสุขภาพ และ การมีส่วนร่วมในมาตรการสาธารณสุข
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 6 |
What did participants report feeling after learning they were exposed to COVID-19?
|
Worry about their health and that of their contacts |
|
เมื่อผู้เข้าร่วมวิจัยทราบว่าตนเองสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ส่วนใหญ่ รายงานว่ารู้สึก “วิตกกังวล” (worry) ทั้งต่อสุขภาพของตนเองและของบุคคลใกล้ชิด
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 7 |
What was a common source of information for participants when they learned about their COVID-19 status?
|
Family, friends, and healthcare providers |
|
ผู้เข้าร่วมการศึกษาหลายรายรายงานว่า เมื่อทราบว่าตนติดเชื้อ COVID-19 หรือมีความเสี่ยงสูง พวกเขามัก ได้รับข้อมูลหรือคำแนะนำจากแหล่งที่เชื่อถือได้ใกล้ตัว
|
Social Support Theory (ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคม) อธิบายว่า คนที่เผชิญเหตุการณ์ตึงเครียดทางสุขภาพ มักพึ่งพาข้อมูลและการสนับสนุนจากคนใกล้ชิด
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 8 |
Which of the following was NOT a method for collecting data in the study described?
|
Direct observations in homes |
|
งานศึกษาที่เกี่ยวข้องกับ การสอบสวนโรค (Case Investigation, CI) และการติดตามผู้สัมผัส (Contact Tracing, CT) ในช่วงการระบาดของ COVID-19 มีวิธีการเก็บข้อมูล ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ การสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว (One-on-one interviews) การสนทนากลุ่มแบบออนไลน์ (Virtual focus groups) แบบสอบถาม (Survey questionnaires)
|
หลักการวิจัยภายใต้ภาวะโรคระบาด (Pandemic Research Protocols) นักวิจัยต้องลดการเผชิญหน้าหรือเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 9 |
What ethical considerations were emphasized during the focus group discussions?
|
Ensuring privacy and voluntary participation |
|
ในกระบวนการวิจัยโดยเฉพาะการเก็บข้อมูลผ่าน การสนทนากลุ่ม (focus group discussions) ประเด็นด้าน จริยธรรม (ethics) ที่เน้นย้ำที่สุดคือ: การรักษาความเป็นส่วนตัวและการเข้าร่วมโดยสมัครใจ
|
หลักจริยธรรมของ WHO และ IRB (Institutional Review Board) เน้นว่าการสนทนาในกลุ่มวิจัยต้องไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าร่วม
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 10 |
How did the availability of self-tests in 2021 impact the public health response to COVID-19?
|
It increased the speed at which people could learn their infection status |
|
การมี ชุดตรวจโควิดแบบตรวจเองที่บ้าน (self-tests) วางจำหน่ายอย่างกว้างขวางในปี 2021 ทำให้ประชาชนสามารถตรวจหาเชื้อได้อย่างรวดเร็วและสะดวก โดยไม่ต้องรอผลตรวจในสถานพยาบาลหรือตรวจโดยเจ้าหน้าที่ และยังช่วยลดเวลาที่ใช้ในการค้นพบว่าตนเองติดเชื้อ ทำให้สามารถ แยกตัว (isolate) ได้เร็วขึ้น
|
การตรวจพบผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว (early detection) เป็นกุญแจสำคัญในการลดอัตราการแพร่ระบาด (reduce transmission)
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 11 |
What is urban ecology primarily concerned with?
|
The interactions between urban environments and ecosystems |
|
Urban ecology เป็นสาขาวิชาที่ศึกษาความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ระหว่าง สิ่งแวดล้อมในเมือง (urban environments) กับ ระบบนิเวศ (ecosystems) รอบๆ หรือภายในเมืองนั้น ๆ ซึ่งรวมถึงการศึกษาผลกระทบของการขยายตัวของเมืองต่อธรรมชาติ
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 12 |
Which continent is noted as rapidly urbanizing within the study?
|
Africa |
|
ในหลายการศึกษาด้าน urbanization (การเติบโตของเมือง) ทวีปแอฟริกา (Africa) เป็นหนึ่งในทวีปที่มีอัตราการขยายตัวของประชากรในเมืองอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก การเติบโตของเมืองในแอฟริกามีอัตราเพิ่มขึ้นสูงเนื่องจากการโยกย้ายจากชนบทสู่เมือง
|
การเพิ่มขึ้นของประชากรเมืองเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศกำลังพัฒนา
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 13 |
What significant bias is present in the study of urban ecology in Africa?
|
Limited to capital cities |
|
การศึกษาด้าน urban ecology ในแอฟริกา ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเน้นไปที่เมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเมือง
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 14 |
What factor did the study NOT find influencing research efforts in African urban ecology?
|
Technological advancements |
|
ในการศึกษางานวิจัยด้าน urban ecology ในแอฟริกา ปัจจัยที่พบว่ามีผลต่อความเข้มข้นและการกระจายของงานวิจัย ได้แก่
GDP ของประเทศ (GDP of countries)
ความเข้มข้นของการเติบโตของเมือง (Urbanization intensity)
สถานะการอนุรักษ์ของระบบนิเวศ (Ecoregion conservation status)
การกระจายทางภูมิศาสตร์ของการศึกษา (Geographic distribution of studies)
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 15 |
Which method was used to gather data for the study?
|
|
|
งานศึกษาที่เกี่ยวกับ urban ecology ในแอฟริกา ที่เป็นงานวิจัยเชิงวิเคราะห์ระดับกว้าง มักใช้วิธีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัยและเอกสารที่มีอยู่ (literature review and bibliographic searches) เป็นหลัก
|
Systematic Literature Review Methodology เป็นกระบวนการค้นหา รวบรวม และวิเคราะห์งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 16 |
What does the study suggest is needed for urban ecology research in Africa?
|
A realignment of research priorities |
|
งานวิจัยในสาขา urban ecology ในแอฟริกา พบว่าในปัจจุบันมีการเน้นงานวิจัยในบางเมืองหรือหัวข้ออย่างไม่สมดุล ส่งผลให้เกิดช่องว่างความรู้ในพื้นที่และประเด็นที่สำคัญอื่น ๆ การศึกษาจึงเสนอให้มีการปรับแนวทางและลำดับความสำคัญของการวิจัย
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 17 |
Which country was mentioned as having the majority of the studies?
|
South Africa |
|
ในการศึกษางานวิจัยด้าน urban ecology ในแอฟริกา พบว่า ประเทศแอฟริกาใต้ (South Africa) มีสัดส่วนงานวิจัยมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในทวีป เหตุผลประกอบด้วยมีสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยที่เข้มแข็งและทรัพยากรมากกว่า
|
Research Capacity and Infrastructure Theory ความสามารถและทรัพยากรของประเทศมีผลต่อปริมาณและคุณภาพของงานวิจัยที่ผลิตได้
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 18 |
How did the study categorize the geographic biases in research?
|
Unevenly distributed |
|
การศึกษาวิจัยด้าน urban ecology ในแอฟริกา พบว่า งานวิจัยมีการกระจายตัวทางภูมิศาสตร์ที่ไม่สมดุล (unevenly distributed) คือมีการเน้นศึกษาบางพื้นที่มาก เช่น เมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ในบางประเทศ
พื้นที่อื่น ๆ โดยเฉพาะเมืองขนาดกลาง เมืองรอง หรือภูมิภาคห่างไกลได้รับการศึกษาน้อยมาก
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 19 |
What is a key recommendation from the study for improving urban ecology research in Africa?
|
Encourage transnational collaborations |
|
เพื่อพัฒนางานวิจัยด้าน urban ecology ในแอฟริกา อย่างมีประสิทธิภาพ การร่วมมือกันระหว่างประเทศ (transnational collaborations) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยแลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิค และทรัพยากรทางวิชาการระหว่างนักวิจัยจากหลายประเทศและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานวิจัยที่ซับซ้อน และเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย
|
การวิจัยแบบร่วมมือข้ามชาติช่วยเพิ่มนวัตกรรมและประสิทธิภาพของงานวิจัยมีประโยชน์โดยเฉพาะในงานวิจัยที่ต้องการข้อมูลเชิงพื้นที่และเชิงสหวิทยาการ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
| 20 |
According to the study, what impacts the number of publications in African urban ecology?
|
The GDP of the countries |
|
ผลการศึกษาพบว่า GDP (มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) ของแต่ละประเทศเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อจำนวนงานวิจัยและการตีพิมพ์บทความในสาขา urban ecology ในแอฟริกา
|
ทฤษฎีและข้อมูลหลายชิ้นชี้ว่าศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับจำนวนและคุณภาพของงานวิจัย
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|