ตรวจข้อสอบ > ชามิล บาเส็ม > ชีววิทยาเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Biology in Medical Science > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 27 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


What is the primary goal of contact tracing in public health?

To stop the spread of diseases by identifying and informing contacts

เพื่อหยุดการเเพร่ระบาดของโรคโดยการระบุเเละเเจ้งผู้ที่อาจสัมผัส

Effectiveness of contact tracing in the control of infectious diseases แสดงให้เห็นว่า contact tracing สามารถลดอัตราการแพร่เชื้อได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงต้นของการระบาด The Lancet Public Health Modeling the impact of contact tracing on COVID-19 transmission ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่า contact tracing ช่วยลด R-value ของไวรัส | Nature Communications

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


During the COVID-19 pandemic, what was one main reason people were motivated to isolate themselves after testing positive?

To avoid infecting others, particularly vulnerable populations

การแพร่เชื้อ COVID-19 เกิดขึ้นได้ง่ายผ่านการหายใจ, ละอองฝอย, หรือการสัมผัสใกล้ชิด ,คนจำนวนมากมีจิตสำนึกทางสังคม และต้องการปกป้องผู้ที่อาจมีภาวะเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง ,การแยกกักตัวช่วยชะลอการระบาด ลดภาระระบบสาธารณสุข และแสดงถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม

งานวิจัยจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขของไทย พบว่า การใช้ระบบแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ช่วยลดจำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อภายในครอบครัวและชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่แออัดปละงานศึกษาจากอำเภอแกดำและหาดใหญ่ แสดงให้เห็นว่า ผู้ติดเชื้อสามารถแกกักตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพที่บ้าน โดยมีระบบดูแลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทำให้ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น และผู้ป่วยมีความพึงพอใจสูงต่อแนวทางนี้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


What method was commonly used for focus group discussions in the study on COVID-19 contact tracing?

Virtual, synchronous meetings

ในช่วงการระบาดของ COVID-19 มีข้อจำกัดด้านการรวมตัวแบบพบหน้ากันและการประชุมออนไลน์แบบ synchronous ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถโต้ตอบกันแบบเรียลไทม์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


What factor did NOT influence the success of case investigation and contact tracing according to the article?

The color of the quarantine facilities

“สีของสถานที่กักตัว” เป็นรายละเอียดที่ไม่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการควบคุมโรค

โดยปกติเเลัวเชื้อ covid 19 ไม่ได้ตอบสนองต่อสี

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


Which demographic factor was reported to affect the experiences and behaviors of individuals regarding CI/CT?

Type of employment

คนที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง เช่น งานบริการหรือสถานที่แออัด มีแนวโน้มว่าจะมีประสบการณ์ที่แตกต่างในการรายงานข้อมูลสุขภาพ หรือเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข

งานวิจัยจาก Johns Hopkins University รายงานจาก Johns Hopkins Center for Health Security ระบุว่า ลักษณะงาน เช่น งานบริการหรือแรงงานภาคสนาม มีผลต่อการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ ความร่วมมือในการสอบสวนโรค และความเข้าใจในกระบวนการ CI/CT โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


What did participants report feeling after learning they were exposed to COVID-19?

Worry about their health and that of their contacts

ความวิตกกังวลเป็นปฏิกิริยาทางจิตใจที่พบได้บ่อย เมื่อบุคคลทราบว่าตนเองสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ จะเกิดความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตนเองและคนใกล้ตัว ซึ่งเป็นกลไกการตอบสนองตามธรรมชาติของมนุษย์ต่อภัยคุกคามด้านสุขภาพ

องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่าในปีแรกของการระบาดของ COVID-19 มีการเพิ่มขึ้นถึง 25% ของผู้ที่มีภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้า โดยหนึ่งในปัจจัยหลักคือ ความกลัวการติดเชื้อและผลกระทบต่อคนใกล้ตัว เช่น ครอบครัวหรือเพื่อน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


What was a common source of information for participants when they learned about their COVID-19 status?

Family, friends, and healthcare providers

ผู้เข้าร่วมในการศึกษาหรือประเมินผลเกี่ยวกับ COVID-19 มักได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของตนเองผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือและใกล้ตัวมากที่สุด ได้แก่ ครอบครัว เพื่อน และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งสามารถให้คำแนะนำที่เป็นจริงและเชื่อถือได้เมื่อเทียบกับแหล่งข้อมูลอื่น เช่น ข่าวลือในโซเชียลมีเดียหรือโฆษณาทางโทรทัศน์

งานวิจัยจาก American Journal of Public Health และ BMC Health Services Research ได้แสดงให้เห็นว่า แหล่งข้อมูลส่วนตัวเช่น ครอบครัวและบุคลากรทางการแพทย์ มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจทางสุขภาพ และมักถูกใช้อ้างอิงเมื่อต้องประเมินสถานะการติดเชื้อหรือรับคำแนะนำการรักษา

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


Which of the following was NOT a method for collecting data in the study described?

Direct observations in homes

สำหรับการศึกษาทางสังคมหรือพฤติกรรมในระดับกว้าง มักเลือกใช้แบบสอบถาม

“The Way of Life of the Youths in Foster Home: A Phenomenological Study” - งานวิจัยนี้ศึกษาวิถีชีวิตของเยาวชนในบ้านพักเด็ก โดยใช้แนวทางปรากฏการณ์วิทยา (Phenomenology) ตามแนวคิดของ Husserl - ใช้วิธีการเก็บข้อมูลแบบ In-depth Interviews, Informal Interviews และ Direct Observations - จุดเด่นคือการเข้าไปสังเกตพฤติกรรมจริงในสถานที่พักอาศัย เพื่อเข้าใจความรู้สึกและมุมมองของเยาวชนอย่างลึกซึ้ง - วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีของ Colaizzi เพื่อสกัดแก่นความหมายจากประสบการณ์ของผู้เข้าร่วม

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


What ethical considerations were emphasized during the focus group discussions?

Using results for political campaigns

จริยธรรมด้านความเป็นส่วนตัว: ในการสนทนากลุ่มเป้าหมาย ผู้เข้าร่วมมักจะแสดงความเห็นส่วนตัวที่อาจสะท้อนความเชื่อ ประสบการณ์ หรืออารมณ์ หากไม่มีการรับรองความเป็นส่วนตัวอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้เข้าร่วม

หลักการเบื้องต้นของจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์สำหรับงานวิจัยทางสังคมศาสตร์ โดย วิชิต ทองประเสริฐ และ เกษฎา ผาทอง• อ้างอิงจากรายงาน Belmont Report ซึ่งเสนอหลักจริยธรรม 3 ประการ: Respect for Persons, Beneficence, และ Justice • นำไปสู่แนวทางปฏิบัติ เช่น การขอความยินยอมอย่างมีข้อมูล และการประเมินความเสี่ยงและผลประโยชน์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


How did the availability of self-tests in 2021 impact the public health response to COVID-19?

It increased the speed at which people could learn their infection status

ความเร็วในการรับรู้สถานะการติดเชื้อ: ชุดตรวจด้วยตนเอง (Self-test kits) ช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจหาเชื้อได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคิวที่โรงพยาบาลหรือคลินิก ลดเวลาในการรอผล และสามารถแยกตัวได้เร็วขึ้นหากพบว่าติดเชื้

Rapid Antigen Self-Testing for COVID-19: A Tool for Pandemic Control• ตีพิมพ์ใน The Lancet Public Health • รายงานว่า self-test kits ช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจหาเชื้อได้เร็วขึ้น และลดการแพร่ระบาดในชุมชน • เน้นว่าการเข้าถึงชุดตรวจอย่างแพร่หลายมีผลต่อการควบคุมการระบาดในระดับประเทศ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


What is urban ecology primarily concerned with?

The interactions between urban environments and ecosystems

Urban Ecology เป็นสาขาหนึ่งของนิเวศวิทยาที่ศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมในเมืองกับระบบนิเวศ เช่น การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่สีเขียว การกระจายตัวของสัตว์ในเมือง หรือผลกระทบของโครงสร้างพื้นฐานต่อธรรมชาติ

Urban Ecology: Patterns, Processes, and Applications โดย Jari Niemelä• หนังสือเล่มนี้อธิบายว่า Urban Ecology มุ่งเน้นการศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ โครงสร้างเมือง และธรรมชาติ • เน้นการวิเคราะห์ระบบนิเวศในเมือง เช่น การจัดการพื้นที่สีเขียวและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Which continent is noted as rapidly urbanizing within the study?

Africa

แอฟริกาเป็นทวีปที่มีอัตราการขยายตัวของเมืองสูงที่สุดในโลก โดยเฉพาะในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เมืองต่าง ๆ ในแอฟริกาเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในด้านประชากรและโครงสร้างพื้นฐา

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


What significant bias is present in the study of urban ecology in Africa?

Bias towards marine ecosystems

การเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากร เมืองใหญ่อย่างไนโรบี, โจฮันเนสเบิร์ก, ลากอส ฯลฯ มีโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายวิจัยที่พร้อมมากกว่าพื้นที่อื่น ทำให้นักวิจัยเน้นศึกษาพื้นที่เหล่านี้

Cilliers, S. S. et al. (2013) – Urban Ecology in Africa: Challenges and Opportunities | บ่งชี้ว่าเมืองใหญ่ได้รับความสนใจในด้านวิจัยมากกว่าพื้นที่อื่นๆ ส่งผลให้เกิดความเอนเอียงในการวิเคราะห์ระบบนิเวศเมือง |

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


What factor did the study NOT find influencing research efforts in African urban ecology?

Technological advancements

แม้เทคโนโลยีจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิจัย แต่งานศึกษาเกี่ยวกับ urban ecology ในทวีปแอฟริกามักเน้นปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการกระจายของการวิจัย เช่น ความเข้มข้นของการพัฒนาเมือง, สถานะการอนุรักษ์ระบบนิเวศ, และภูมิศาสตร์ของเมือง ไม่ใช่โดยตรงจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

Cilliers, S. S. et al. (2013) – Urban Ecology in Africa: Challenges and Opportunities | ระบุว่างานวิจัยในแอฟริกาเน้นเมืองที่มีการพัฒนาและเข้าถึงง่าย ไม่ได้กล่าวถึงเทคโนโลยีเป็นปัจจัยหลักในการเลือกพื้นที่ศึกษา |

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


Which method was used to gather data for the study?

Surveys and interviews

ลักษณะของงานวิจัยในระบบนิเวศเมืองแอฟริกา - งานวิจัยส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลขนาดใหญ่หรือใช้วิธีการทดลองได้ - การสัมภาษณ์ผู้คนในพื้นที่และการใช้แบบสอบถามเป็นวิธีหลักในการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพและปริมาณ โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ, การใช้พื้นที่สีเขียว และความเข้าใจของประชาชน

Cilliers, S. S. et al. (2013) – Urban Ecology in Africa: Challenges and Opportunities | ชี้ว่าเทคนิคสำรวจภาคสนามร่วมกับการสัมภาษณ์เป็นแนวทางหลักในการศึกษาเมืองในแอฟริกา

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


What does the study suggest is needed for urban ecology research in Africa?

A realignment of research priorities

งานวิจัยจำนวนมากในแอฟริกาเน้นเมืองใหญ่ ไม่ครอบคลุมเมืองเล็กหรือพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง

Cilliers, S. S. et al. (2013) – Urban Ecology in Africa: Challenges and Opportunities | ระบุว่าควรมีการปรับกรอบวิจัยให้ตอบโจทย์ความหลากหลายของเมืองในแอฟริกา

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


Which country was mentioned as having the majority of the studies?

South Africa

บทบาทเชิงวิจัยและโครงสร้างพื้นฐานในแอฟริกาใต้ แอฟริกาใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีมหาวิทยาลัยและศูนย์วิจัยด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเมืองที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค sub-Saharan Africa

Cilliers, S. S. et al. (2013) – Urban Ecology in Africa: Challenges and Opportunities | ชี้ว่าแอฟริกาใต้เป็นศูนย์กลางของการวิจัยด้านระบบนิเวศเมืองในภูมิภาค และมีการรวบรวมข้อมูลมากที่สุด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


How did the study categorize the geographic biases in research?

Unevenly distributed

ลักษณะการกระจายตัวของเมืองที่ได้รับการศึกษามากเป็นพิเศษ - งานวิจัยหลายชิ้นเน้นพื้นที่เมืองใหญ่ เช่น โจฮันเนสเบิร์ก, พริทอเรีย หรือไนโรบี และมักละเลยเมืองเล็กหรือพื้นที่ชนบทในแอฟริกา

Cilliers, S. S. et al. (2013) – Urban Ecology in Africa: Challenges and Opportunities | ยืนยันว่ามี bias ในการเลือกเมืองศึกษา โดยละเลยเมืองรองหรือพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


What is a key recommendation from the study for improving urban ecology research in Africa?

Encourage transnational collaborations

การวิจัยร่วมระหว่างประเทศช่วยเติมเต็มช่องว่างข้อมูล - หลายประเทศในแอฟริกามีข้อจำกัดด้านทรัพยากรและข้อมูลที่เป็นระบบ การรวมพลังระหว่างสถาบันต่างประเทศสามารถยกระดับคุณภาพงานวิจัยได้

Cilliers, S. S. et al. (2013) – Urban Ecology in Africa: Challenges and Opportunities | แนะนำให้ขยายเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสร้างฐานข้อมูลที่ครอบคลุม

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


According to the study, what impacts the number of publications in African urban ecology?

Number of universities in a country

โครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยมีบทบาทสำคัญ - ประเทศที่มีมหาวิทยาลัยจำนวนมากมักมีบุคลากรด้านวิจัยมากกว่า และมีโอกาสผลิตงานวิชาการอย่างสม่ำเสมอมากกว่า

Cilliers, S. S. et al. (2013) – Urban Ecology in Africa: Challenges and Opportunities | ชี้ว่าแอฟริกาใต้เป็นศูนย์กลางงานวิจัยเนื่องจากมีมหาวิทยาลัยหลากหลายแห่งที่มีบทบาทอย่างมากในการผลิตงานตีพิมพ์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 79.85 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา