ตรวจข้อสอบ > ชญานิน ทองโอ > การแข่งขันและทดสอบความถนัดทางการแพทย์ | ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 69 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


ข้อใดต่อไปนี้อธิบายแนวคิด การรับรู้จังหวะ (Beat Perception) ได้ดีที่สุดเนื่องจากเกี่ยวข้องกับความสามารถในการได้ยินของทารกแรกเกิด

การแยกจังหวะที่สม่ำเสมอจากลำดับเสียง

ทารกมักมีการตอบสนองต่อเสียงที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ

ทฤษฎี Auditory development พบว่าทารกสามารถแยกแยะจังหวะและเสียงที่มีรูปแบบสม่ำเสมอได้ตั้งแต่แรกเกิด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


จากการวิจัย ทารกแรกเกิดใช้วิธีทดลองตามข้อใดในการแยกแยะการรับรู้จังหวะจากการเรียนรู้ทางสถิติในทารกแรกเกิด

การติดตามการทำงานของสมองโดยใช้ EEG ในระหว่างการกระตุ้นการได้ยิน

EEG test สามารถแสดงผลการตอบสนองของสมอง โดยจะแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของคลื่นสมองจากการที่ทารกถูกกระตุ้น

ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสถิติ ระบุว่าทารกสามารถเรียนรู้รูปแบบต่าง ๆ จากข้อมูลที่ได้ยินอัตโนมัติ เช่น การแยกแยะเสียงจากการกระตุ้นในจังหวะที่แตกต่างกันการตอบสนองสามารถตรวจจับผ่าน EEG ได้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


การตอบสนองที่ไม่ตรงกัน (MMR) ในการศึกษา EEG บ่งชี้อะไรเกี่ยวกับการประมวลผลการได้ยินของทารกแรกเกิด

การจดจำเสียงของผู้ปกครอง

ทารกมีความสามารถในการเปรียบเทียบหรือประมวลผลข้อมูลเสียงจากเสียงที่คุ้นเคยหรือจดจำมาก่อน

Auditory Memory เสนอว่า MMR เกิดจากการที่สมองเปรียบเทียบข้อมูลเสียงที่ได้รับกับหน่วยความจำเสียงที่ได้ยินก่อนหน้านี้ สมองมีความสามารถในการเก็บข้อมูลเสียงและเมื่อมีเสียงที่ไม่ตรงกับการคาดหวังสมองจะแสดงการตอบสนองที่ผิดปกติ ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของเสียงหรือเสียงใหม่ ๆ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


คำว่า "การเรียนรู้ทางสถิติ (Statistical Learning)" หมายถึงอะไรในบริบทของการประมวลผลการได้ยินในทารกแรกเกิด?

เรียนรู้ที่จะทำนายเหตุการณ์ในอนาคตโดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติ

การประมวลผลการได้ยินในทารกแรกเกิดหมายถึง กระบวนการที่ทารกเรียนรู้และปรับตัวตามข้อมูลที่ได้รับจากสิ่งแวดล้อม โดยการวิเคราะห์รูปแบบหรือความสัมพันธ์ทางสถิติจากการรับรู้เสียงต่างๆ

Teixeira & Lopes (2007) งานวิจัยในเรื่องการเรียนรู้ทางสถิติในการประมวลผลภาษาโดยทารก พบว่าเด็กแรกเกิดสามารถใช้การเรียนรู้ทางสถิติเพื่อแยกแยะคำจากความถี่ของเสียงที่ได้ยิน ซึ่งการเรียนรู้นี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อทารกได้รับเสียงอย่างต่อเนื่องในสภาพแวดล้อม

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


สภาวะใดในการศึกษา EEG ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความแตกต่างระหว่างการตอบสนองแบบจังหวะและการตอบสนองที่ผิดปกติในทารกแรกเกิด

สภาพความเงียบ

สภาพความเงียบไม่มีสิ่งเร้าภายนอกกระตุ้น ทำให้การตอบสนองไม่มีความแตกต่างจากปกติ

Baseline Neural Activity ในสภาวะความเงียบ สมองจะไม่ถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้าภายนอก ทำให้การทำงานของสมองอยู่ในระดับพื้นฐาน (baseline) ซึ่งไม่เกิดความแตกต่างระหว่างการตอบสนองแบบจังหวะและแบบผิดปกติ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


กลไกทางประสาทใดที่คิดว่ารองรับการเคลื่อนไหวให้ตรงกันกับจังหวะ

การขึ้นรถไฟประสาท

เป็นกลไกที่ระบบประสาทของมนุษย์ปรับการทำงานให้สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมภายนอก

ระบบ auditory-motor coupling ช่วยให้เสียงที่ได้ยินส่งข้อมูลไปยังสมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหว เพื่อปรับการตอบสนองแบบไดนามิก

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


การรับรู้จังหวะในทารกแรกเกิดสัมพันธ์กับความสามารถทางดนตรีในภายหลังอย่างไร

เป็นพื้นฐานในการพัฒนาการประสานงานจังหวะและเวลา

ทารกแรกเกิดสามารถรับรู้จังหวะและความถี่ของเสียงได้ เพราะสมองมีการพัฒนาเบื้องต้นในระบบการได้ยินและการประมวลผลจังหวะ

Neural Entrainment Theory ความสามารถในการจับจังหวะเป็นพื้นฐานของการพัฒนาความสามารถทางดนตรีในภายหลัง เช่น การเล่นเครื่องดนตรีหรือร้องเพลง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


ภาวะที่ไม่ต่อเนื่องในการศึกษาทางการได้ยินมักเกี่ยวข้องกับอะไร?

ช่วงเวลาสุ่มระหว่างเสียง

เพราะเสียงไม่สม่ำเสมอและต่อเนื่องทำให้สมองไม่สามารถจับจังหวะได้

Neural Entrainment Theory การจับจังหวะของสมองจะทำได้ดีเมื่อสิ่งเร้ามีความสม่ำเสมอ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


จุดประสงค์หลักของการใช้ EEG ในการศึกษาการประมวลผลการได้ยินในทารกแรกเกิดคืออะไร

บันทึกการตอบสนองของสมองต่อเสียง

EEG คือการวัดการตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยแสดงผลออกมาเป็นคลื่นสมอง เพราะจะส่งสัญญาณไฟฟ้าเมื่อเกิดการตอบสนองต่อเสียง

Auditory Perception Theory แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองที่สัมพันธ์กับความถี่และจังหวะของเสียง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


คุณลักษณะการได้ยินใดที่ไม่ได้รับการศึกษาโดยตรงในการวิจัยการประมวลผลการได้ยินของทารกแรกเกิด

ความเข้าใจภาษา

สมองของวัยทารกแรกเกิดยังมีความซับซ้อนไม่พอที่จะตีคสามหมายของคำและโครงสร้างประโยค

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


คำใดที่ใช้อธิบายลักษณะที่ปรากฏของความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์ซึ่งใช้ในการตลาดการบำบัดด้วยเซลล์ที่ไม่ได้รับการพิสูจน์

สัญลักษณ์แห่งความชอบธรรมทางวิทยาศาสตร์

เป็นการสร้างภาพหลอกลวงผู้บริโภค

Theory of Scientific Rhetoric อธิบายว่าภาษาและสัญลักษณ์ที่ดูเป็นวิทยาศาสตร์สามารถใช้สร้างความน่าเชื่อถือแม้สิ่งนั้นไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


จากบทความ ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่กลไกการรายงานที่ได้รับการยอมรับสำหรับผลข้างเคียงจากการบำบัดด้วยเซลล์และยีน

หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค

หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคจะเน้นไปทางการโฆษณาเกินจริงหรือการหลอกขายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัย

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


การพิจารณาด้านจริยธรรมประการใดที่ถูกท้าทายโดยการตลาดโดยตรงสู่ผู้บริโภคสำหรับการบำบัดด้วยเซลล์และยีนที่ไม่ได้รับการพิสูจน์

กระบวนการแจ้งความยินยอม

การให้ข้อมูลไม่สมบูรณ์อาจทำให้เข้าใจผิดต่อกระบวนการแจ้งความยินยอมเพราะผู้บริโภคอาจไม่ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนสำหรับการตัดสินใจ

Bioethics Principles หลักจริยธรรม 4 ประการ ต้องเคารพในความเป็นบุคคลเป็นหลักที่สนับสนุนกระบวนการแจ้งความยินยอมอย่างครบถ้วน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


คุณลักษณะหลักใดที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ CGT ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการพิสูจน์ตามมาตรฐานกฎระเบียบ

การอนุญาตก่อนการตลาดโดยหน่วยงานกำกับดูแล

มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพตามมาตรฐานกฎหมาย

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


ข้อใดต่อไปนี้เป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ CGT ที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ซึ่งเน้นไว้ในบทความ

ขาดการรับรองจากคนดัง

คนที่มีชื่อเสียงอาจไม่มีความเชี่ยวชาญของผลิตภัณฑ์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ CGT ที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ตามที่กล่าวไว้ในบทความ

การอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่สำคัญ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


หน่วยงานกำกับดูแลเช่น FDA และ EMA จะรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ CGT ได้อย่างไร

โดยต้องมีการทดลองทางคลินิกก่อนการตลาดอย่างเข้มงวด

การอนุมัติผลิตภัณฑ์ CGT ต้องผ่านการทดลองทางคลินิกอย่างเข้มงวดเพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะอนุมัติให้ใช้ในมนุษย์ได้เพื่อแน่ใจว่าไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


เป้าหมายหลักของ ISCT ในด้านการบำบัดด้วยเซลล์และยีนตามที่กล่าวไว้ในบทความคืออะไร

เพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์และต่อต้านผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการพิสูจน์

ISCT มุ่งเน้นการสนับสนุนพัฒนาผลิตภัณฑ์บำบัดเซลล์และยีนที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


อะไรคือผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นสำหรับผู้ป่วยที่ใช้ผลิตภัณฑ์ CGT ที่ไม่ได้รับการพิสูจน์?

ความเสี่ยงต่อผลกระทบร้ายแรง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


ISCT มีบทบาทอย่างไรในบริบทของการบำบัดเซลล์และยีน

ต่อต้านการค้าขายก่อนกำหนดของการรักษาที่ไม่ได้รับการพิสูจน์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 75 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา