ตรวจข้อสอบ > ยศพัฒน์ ชาวยอง > ความถนัดเคมีเชิงวิศวกรรมศาสตร์ | Engineering Chemistry Aptitude > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 0 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


What is the primary role of transition metal ion catalysts in the catalytic ozonation process for nanoplastic removal?

To facilitate the decomposition of O3 and generate active free radicals

ตัวเร่งปฏิกิริยาไอออนโลหะทรานซิชันมีบทบาทสำคัญในการเร่งปฏิกิริยาการสลายตัวของโอโซน (O3) เป็นอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพในการทำลายและกำจัดนาโนพลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น อนุมูล OH• (hydroxyl radicals) ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ในการทำลายสิ่งเจือปนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างอนุมูลอิสระเหล่านี้ช่วยเพิ่มอัตราการทำลายสารปนเปื้อน และทำให้กระบวนการกำจัดนาโนพลาสติกมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กระบวนการโอโซเนชัน: ใช้โอโซนในการทำลายสารปนเปื้อน โดยการสลายตัวของโอโซนและสร้างอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ในการทำลาย การเร่งปฏิกิริยา: ตัวเร่งปฏิกิริยาไอออนโลหะทรานซิชันช่วยเร่งปฏิกิริยาการสลายตัวของโอโซน ซึ่งช่วยให้กระบวนการกำจัดนาโนพลาสติกมีประสิทธิภาพมากขึ้น

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


According to the article, what was the observed effect of using Co2+ at 1 mM on the mineralization rate of polystyrene nanoplastics during ozonation?

Increased mineralization rate by 70%

การใช้ Co2+ ที่ความเข้มข้น 1 มม. ช่วยเร่งกระบวนการสร้างอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ในการทำลายและแร่ธาตุของนาโนพลาสติกโพลิสไตรีน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือการเพิ่มอัตราการแร่ธาตุของนาโนพลาสติก โดยเพิ่มขึ้นถึง 70% การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการที่ Co2+ ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ช่วยในการสลายตัวของโอโซนและสร้างอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การเร่งปฏิกิริยา: Co2+ ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาการสร้างอนุมูลอิสระที่มีความสามารถในการทำลายสารปนเปื้อน ซึ่งทำให้อัตราการแร่ธาตุเพิ่มขึ้น การทำลายสารปนเปื้อน: การใช้โอโซนในการทำลายนาโนพลาสติกจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อมีการเร่งปฏิกิริยาด้วยตัวเร่งปฏิกิริยา เช่น Co2+

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


In the context of nanoplastics removal, what does the scavenger experiment with methanol demonstrate about the catalytic ozonation process?

Methanol interferes with the generation of hydroxyl radicals

เมทานอลเป็นตัวเก็บอนุมูล OH• ซึ่งหมายความว่ามันมีความสามารถในการทำลายหรือจับอนุมูล OH• ที่เกิดขึ้นในกระบวนการโอโซเนชันแบบเร่งปฏิกิริยา อนุมูล OH• เป็นสารที่สำคัญในการทำลายสารปนเปื้อนในกระบวนการนี้ ดังนั้น การมีเมทานอลอยู่จะทำให้การสร้างอนุมูล OH• ลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการกำจัดนาโนพลาสติกลดลง

การเก็บตัว (Scavenging): การใช้สารเก็บตัวเช่นเมทานอลเพื่อทำลายอนุมูลที่มีบทบาทสำคัญในการทำลายสารปนเปื้อน อนุมูล OH•: เป็นอนุมูลที่มีฤทธิ์ในการทำลายสารปนเปื้อน ซึ่งการลดจำนวนของอนุมูล OH• จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของกระบวนการกำจัด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


If the initial concentration of nanoplastics is 20 mg/L and the catalytic ozonation achieves a 70% mineralization rate, what is the concentration of remaining nanoplastics?

6 mg/L

การคำนวณใช้เปอร์เซ็นต์ของการกำจัดเพื่อหาความเข้มข้นที่ลดลง และจากนั้นคำนวณความเข้มข้นที่เหลือจากเปอร์เซ็นต์ที่ยังเหลืออยู่

การคำนวณเปอร์เซ็นต์: ใช้เปอร์เซ็นต์ในการคำนวณการลดลงและการคงเหลือของสาร การหาค่าคงเหลือ: คำนวณจากการลดเปอร์เซ็นต์เพื่อหาความเข้มข้นที่เหลือในกระบวนการกำจัดสารปนเปื้อน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


Given an ozone flow rate of 0.5 NL/min and an ozonation time of 120 minutes, how much ozone (in grams) has been used if the ozone concentration is 10 mg/NL?

0.6 grams

การคำนวณใช้การคูณอัตราการไหลด้วยเวลาเพื่อหาปริมาณรวมของโอโซนที่ไหลผ่าน จากนั้นคูณด้วยความเข้มข้นเพื่อหาปริมาณโอโซนที่ใช้สุดท้าย การแปลงหน่วยจากมิลลิกรัมเป็นกรัมทำให้ได้คำตอบในหน่วยที่ต้องการ

การคำนวณปริมาณรวม: ใช้ในการหาปริมาณของสารที่ไหลผ่านในช่วงเวลาที่กำหนด การคูณด้วยความเข้มข้น: เพื่อคำนวณปริมาณที่ใช้ตามความเข้มข้นของโอโซน การแปลงหน่วย: ใช้ในการเปลี่ยนหน่วยจากมิลลิกรัมเป็นกรัมเพื่อให้ได้คำตอบในหน่วยที่ต้องการ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


If reducing the turbidity of water by catalytic ozonation with Co2+ from 100 NTU to 35 NTU represents a 65% reduction, what was the original turbidity?

100 NTU

การคำนวณใช้การแปลงเปอร์เซ็นต์ของความขุ่นที่ลดลงเป็นเปอร์เซ็นต์ของความขุ่นที่เหลือ จากนั้นคำนวณความขุ่นเดิมโดยการหารความขุ่นที่เหลือด้วยเปอร์เซ็นต์ที่เหลือ (ในรูปแบบทศนิยม)

เปอร์เซ็นต์การลดลง: ใช้เพื่อคำนวณการลดลงของความขุ่น การหาค่าต้นฉบับ: ใช้สูตรเพื่อหาค่าความขุ่นเดิมจากเปอร์เซ็นต์ของความขุ่นที่เหลือ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


What is a major benefit of catalytic ozonation over single ozonation in water treatment?

It provides higher mineralization rates

การโอโซเนชันแบบเร่งปฏิกิริยาใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา เช่น โลหะทรานซิชัน เพื่อช่วยเร่งกระบวนการสร้างอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการแร่ธาตุของสารปนเปื้อน เช่น นาโนพลาสติก ในการบำบัดน้ำ การใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้กระบวนการโอโซเนชันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถกำจัดสารปนเปื้อนได้ดีกว่าการโอโซเนชันเดี่ยวที่ไม่มีการเร่งปฏิกิริยา

การเร่งปฏิกิริยา: การใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการโอโซเนชันช่วยเร่งการสร้างอนุมูลอิสระที่ทำให้กระบวนการบำบัดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น อัตราการแร่ธาตุ: การเพิ่มขึ้นของอัตราการแร่ธาตุหมายถึงการทำลายสารปนเปื้อนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการโอโซเนชันด้วยการใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


Which of the following is NOT a transition metal ion used as a catalyst in the study?

Ca2+

ไอออนของโลหะทรานซิชันที่ใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการโอโซเนชันมักจะมีการทำงานของอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่สามารถเข้าร่วมในการสร้างและทำลายอนุมูลอิสระได้ ตัวอย่างเช่น: Fe 3 + Fe 3+ (Iron(III)) Co 2 + Co 2+ (Cobalt(II)) Ni 2 + Ni 2+ (Nickel(II)) Zn 2 + Zn 2+ (Zinc(II)) แต่ Ca 2 + Ca 2+ (Calcium(II)) ไม่ถือเป็นโลหะทรานซิชันและไม่ใช่ไอออนที่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมกระบวนการเร่งปฏิกิริยาที่จำเป็นสำหรับการทำงานในกระบวนการโอโซเนชัน

โลหะทรานซิชัน: โลหะทรานซิชันคือโลหะที่มีอิเล็กตรอนในวงโคจร d ของระดับพลังงานที่สามารถเปลี่ยนสถานะออกซิเดชันและทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการทางเคมี การทำงานของไอออน: ไอออนของโลหะทรานซิชันมักมีคุณสมบัติในการสร้างและทำลายอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการโอโซเนชัน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


What environmental issue does the removal of nanoplastics address?

Reduction of water pollution

นาโนพลาสติกเป็นอนุภาคขนาดเล็กที่มักพบในแหล่งน้ำเนื่องจากการสลายตัวของพลาสติกที่มีขนาดใหญ่กว่า การมีนาโนพลาสติกในน้ำสามารถทำให้เกิดมลพิษและมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของสัตว์น้ำ รวมถึงมนุษย์ที่บริโภคอาหารจากแหล่งน้ำที่มีมลพิษ การกำจัดนาโนพลาสติกจึงเป็นวิธีที่สำคัญในการลดมลพิษในน้ำและปกป้องสิ่งแวดล้อมน้ำ

มลพิษในน้ำ: มลพิษในน้ำสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและระบบนิเวศน้ำ การลดปริมาณนาโนพลาสติกช่วยป้องกันความเสียหายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำและช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำ ผลกระทบของนาโนพลาสติก: นาโนพลาสติกสามารถสะสมในระบบนิเวศน้ำและมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ซึ่งการกำจัดมันออกไปจะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


What analytical technique is NOT mentioned as used for monitoring the degradation of nanoplastics?

Gel Permeation Chromatography (GPC)

Gel Permeation Chromatography (GPC) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการแยกสารตามขนาดโมเลกุล โดยเฉพาะในการวิเคราะห์พอลิเมอร์ ขนาดของโมเลกุลที่ใหญ่หรือเล็กอาจไม่เป็นปัญหาสำหรับการวิเคราะห์นาโนพลาสติกซึ่งมีขนาดเล็กมาก เทคนิคที่ใช้ในการติดตามการสลายตัวของนาโนพลาสติกมักจะรวมถึง: การวัดความขุ่น (Turbidity measurements): ใช้เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในความขุ่นของน้ำที่เกิดจากการมีนาโนพลาสติก การวิเคราะห์คาร์บอนอินทรีย์รวม (Total Organic Carbon, TOC): ใช้เพื่อวัดปริมาณคาร์บอนที่มีอยู่ในน้ำ ซึ่งสามารถช่วยในการประเมินการสลายตัวของสารอินทรีย์รวมถึงนาโนพลาสติก สเปกโทรสโกปี UV-Vis (UV-Vis Spectrophotometry): ใช้ในการวัดการดูดซับของแสงในช่วงคลื่นที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถใช้เพื่อตรวจสอบการสลายตัวของสารต่างๆ มวลสเปกโทรเมตรี (Mass Spectrometry): ใช้เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีและการเปลี่ยนแปลงของนาโนพลาสติกในกระบวนการสลายตัว

เทคนิคการแยกและวิเคราะห์: เทคนิคต่างๆ เช่น GPC, TOC, UV-Vis, และ Mass Spectrometry ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของสารปนเปื้อนและช่วยในการประเมินประสิทธิภาพของกระบวนการบำบัด การวิเคราะห์ขนาดอนุภาค: สำหรับนาโนพลาสติก เทคนิคที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ขนาดอนุภาคและความเข้มข้นเป็นสิ่งสำคัญในการติดตามการสลายตัว

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


What effect does the melt fiber spinning system have on the crystallinity of PET fibers?

It increases the crystallinity significantly.

ระบบการปั่นเส้นใยจากการหลอมจะใช้การหลอมสาร PET (Polyethylene Terephthalate) และการปั่นเส้นใยที่อุณหภูมิสูงเพื่อสร้างเส้นใย เมื่อเส้นใยเย็นตัวลง การระบายความร้อนอย่างรวดเร็วสามารถทำให้โครงสร้างผลึกของ PET เกิดขึ้นได้ดีขึ้น กระบวนการนี้จะทำให้เส้นใย PET มีความเป็นผลึกสูงขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มคุณสมบัติทางกลและความทนทานของเส้นใย การปั่นเส้นใยจากการหลอมมีผลทำให้เกิดการจัดเรียงของโมเลกุลในรูปแบบผลึกมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความเป็นผลึกสูงขึ้นและเพิ่มความแข็งแรงของเส้นใย PET

การหลอมและการปั่นเส้นใย: กระบวนการหลอมและการปั่นเส้นใยที่อุณหภูมิสูงจะช่วยให้โครงสร้างโมเลกุลของ PET สามารถจัดเรียงตัวได้ดีขึ้นเมื่อเย็นตัวลง ซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นผลึก การระบายความร้อน: การระบายความร้อนอย่างรวดเร็วช่วยส่งเสริมการจัดเรียงตัวของโมเลกุลในรูปแบบผลึก ซึ่งเป็นผลที่ทำให้เส้นใย PET มีความเป็นผลึกสูงขึ้น

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


What role does the spooling speed play in the fiber spinning system described in the article?

Higher spooling speeds lead to lower crystallinity and smaller fiber diameters.

การปั่นเส้นใยที่ความเร็วสูงจะทำให้เส้นใยเย็นตัวและเก็บตัวเร็วขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีเวลาน้อยในการเกิดการจัดเรียงตัวของโมเลกุลในรูปแบบผลึกที่เหมาะสม ดังนั้น การปั่นเส้นใยที่ความเร็วสูงมักจะส่งผลให้ความเป็นผลึกลดลง เนื่องจากการจัดเรียงตัวของโมเลกุลในโครงสร้างผลึกไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ ความเร็วในการปั่นที่สูงขึ้นยังช่วยให้เส้นใยมีขนาดเล็กลง เพราะการดึงและยืดเส้นใยที่ความเร็วสูงทำให้เส้นใยมีขนาดเล็กลงและความแข็งแรงของเส้นใยมีความหนาแน่นสูง

การจัดเรียงโมเลกุล: ความเร็วในการปั่นที่สูงทำให้โครงสร้างผลึกของเส้นใยไม่ได้รับการจัดเรียงที่ดี เนื่องจากการเย็นตัวเร็วเกินไป ขนาดเส้นใย: ความเร็วในการปั่นสูงทำให้เส้นใยมีขนาดเล็กลงเพราะการดึงและยืดเส้นใยที่เร็วขึ้น การจัดเรียงผลึก: ความเป็นผลึกของเส้นใยสามารถถูกควบคุมโดยความเร็วในการปั่น ซึ่งส่งผลต่อคุณสมบัติของเส้นใย

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


According to the article, what was the impact of using the LCC-ICCG enzyme on PET depolymerization?

It significantly increased the monomer release from PET.

เอนไซม์ LCC-ICCG (Leaf-branch composite cutinase - Intracellular cutinase and Cinnamic acid - Glutamic acid conjugate) ได้รับการออกแบบมาเพื่อเร่งการสลายตัวของ PET โดยการตัดพันธะโพลีเอสเตอร์ใน PET ซึ่งทำให้การปล่อยโมโนเมอร์ (เช่น เทเรฟทาลิกแอซิดและอีธิลีนไกลคอล) เพิ่มขึ้น เอนไซม์นี้มีประสิทธิภาพสูงในการย่อยสลาย PET และสามารถช่วยเพิ่มการปล่อยโมโนเมอร์ได้มากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการรีไซเคิลเชิงกลหรือเอนไซม์อื่นๆ

การสลายตัวของ PET: เอนไซม์ที่ใช้ในการสลายตัวของ PET สามารถเร่งกระบวนการย่อยสลายและทำให้ปล่อยโมโนเมอร์ออกมาได้มากขึ้น การทำงานของเอนไซม์: เอนไซม์ที่ออกแบบมาเพื่อทำลายพันธะทางเคมีของ PET ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปล่อยโมโนเมอร์ โดยเฉพาะเอนไซม์ LCC-ICCG ที่มีความสามารถในการทำลายพันธะโพลีเอสเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเทียบกับวิธีอื่น: เอนไซม์นี้มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิธีการรีไซเคิลเชิงกลและเอนไซม์อื่นๆ ในการเพิ่มการปล่อยโมโนเมอร์จาก PET

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


If the initial mass of PET before enzymatic treatment in a bioreactor was 500 grams and 96.9% mass was lost due to depolymerization, what is the final mass of PET?

15.5 grams

การสูญเสียมวลจาก PET ที่เกิดจากการสลายตัวเป็น 96.9% ซึ่งหมายความว่าเหลือเพียง 3.1% ของมวลเริ่มต้นเท่านั้น คำนวณมวลสุดท้ายโดยใช้สูตร: มวลสุดท้าย = มวลเริ่มต้น × ( 1 − เปอร์เซ็นต์การสูญเสีย 100 ) มวลสุดท้าย=มวลเริ่มต้น×(1− 100 เปอร์เซ็นต์การสูญเสีย ​ ) มวลสุดท้าย = 500   กรัม × ( 1 − 96.9 100 ) มวลสุดท้าย=500กรัม×(1− 100 96.9 ​ ) มวลสุดท้าย = 500   กรัม × 0.031 มวลสุดท้าย=500กรัม×0.031 มวลสุดท้าย = 15.5   กรัม มวลสุดท้าย=15.5กรัม

การสลายตัวของ PET: เอนไซม์ทำให้เกิดการสลายตัวของ PET ซึ่งทำให้มวลของ PET ลดลงตามเปอร์เซ็นต์การสูญเสียที่ระบุ การคำนวณเปอร์เซ็นต์: การใช้เปอร์เซ็นต์ในการคำนวณมวลที่เหลือช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและสะท้อนถึงการสูญเสียมวลที่เกิดขึ้น

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


Considering the average crystallinity of PET fibers after treatment is 9.7%, what would be the crystallinity if the process conditions were unaltered but the drop distance doubled?

19.4%

การเพิ่มระยะทางการตกจะทำให้เส้นใยได้รับการเย็นตัวในอัตราที่ช้าลง ซึ่งอาจทำให้โครงสร้างผลึกของ PET มีเวลามากขึ้นในการจัดเรียงตัวและสร้างโครงสร้างผลึกที่มีความเป็นผลึกสูงขึ้น ในกรณีนี้ การเพิ่มระยะทางการตกเป็นสองเท่าจะเพิ่มความเป็นผลึกขึ้นเป็นสองเท่าในระดับทฤษฎีจาก 9.7% เป็น 19.4% การคำนวณนี้อิงจากการที่ความเป็นผลึกของ PET มักจะเพิ่มขึ้นเมื่อการเย็นตัวของเส้นใยช้าลง ซึ่งช่วยให้โครงสร้างผลึกได้พัฒนาอย่างสมบูรณ์มากขึ้น

การจัดเรียงผลึก: เมื่อเส้นใยเย็นตัวช้าลง การจัดเรียงตัวของโมเลกุลในโครงสร้างผลึกมักจะดีขึ้น ซึ่งทำให้ความเป็นผลึกสูงขึ้น อัตราการเย็นตัว: การเพิ่มระยะทางการตกจะเพิ่มเวลาในการเย็นตัวของเส้นใย ทำให้มีโอกาสในการสร้างผลึกเพิ่มขึ้น การปรับสภาวะการผลิต: การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการผลิต เช่น ระยะทางการตก อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นผลึกของเส้นใย PET ตามหลักการทางวัสดุศาสตร์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


If the surface area to volume ratio of PET increased 15-fold due to processing, and the initial ratio was 0.1 mm²/mm³, what is the new ratio?

1.5 mm²/mm³

การเพิ่มขึ้น 15 เท่าของอัตราส่วนของพื้นที่ผิวต่อปริมาตรหมายความว่าอัตราส่วนใหม่จะคำนวณได้โดยการคูณอัตราส่วนเริ่มต้นด้วย 15 คำนวณอัตราส่วนใหม่ด้วยสูตร: อัตราส่วนใหม่ = อัตราส่วนเริ่มต้น × 15 อัตราส่วนใหม่=อัตราส่วนเริ่มต้น×15 อัตราส่วนใหม่ = 0.1   mm 2 / mm 3 × 15 อัตราส่วนใหม่=0.1mm 2 /mm 3 ×15 อัตราส่วนใหม่ = 1.5   mm 2 / mm 3 อัตราส่วนใหม่=1.5mm 2 /mm 3

อัตราส่วนของพื้นที่ผิวต่อปริมาตร: อัตราส่วนนี้สำคัญในด้านการประมวลผลวัสดุ เนื่องจากพื้นที่ผิวที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้วัสดุมีการตอบสนองที่ดีขึ้นต่อกระบวนการทางเคมีหรือการผลิต การคูณอัตราส่วน: การเพิ่มขึ้น 15 เท่าของอัตราส่วนของพื้นที่ผิวต่อปริมาตรเป็นการคูณอัตราส่วนเริ่มต้นด้วย 15 ซึ่งให้ค่าอัตราส่วนใหม่ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ผิวต่อปริมาตร

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


What is a major advantage of the melt fiber spinning system over traditional recycling methods?

Produces higher crystallinity PET

ระบบการหมุนเส้นใยด้วยการหลอมเหลวช่วยให้ PET ที่รีไซเคิลมีความเป็นผลึกสูงขึ้น เนื่องจากกระบวนการนี้ใช้การควบคุมอุณหภูมิและอัตราการเย็นตัวที่สามารถปรับแต่งได้ดี ซึ่งส่งผลให้เส้นใย PET ที่ผลิตมีความเป็นผลึกสูงกว่า ซึ่งทำให้วัสดุมีคุณสมบัติที่ดีขึ้น เช่น ความทนทานและความแข็งแรง

ความเป็นผลึกของ PET: การควบคุมกระบวนการหมุนเส้นใยและการเย็นตัวอย่างเหมาะสมทำให้โครงสร้างผลึกใน PET มีการพัฒนาอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ การเปรียบเทียบกับวิธีการรีไซเคิลแบบดั้งเดิม: วิธีการรีไซเคิลแบบดั้งเดิมอาจไม่สามารถให้ความเป็นผลึกที่สูงเท่ากับการหมุนเส้นใยด้วยการหลอมเหลว ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณสมบัติของ PET ที่ผลิต

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


What does the term 'amorphous content' refer to in the context of PET recycling?

The unstructured, non-crystalline state of PET

Amorphous content ใน PET หมายถึงสัดส่วนของ PET ที่มีโครงสร้างที่ไม่เป็นผลึก ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่จัดเรียงตัวในลักษณะผลึก (crystalline) อย่างเป็นระเบียบ การมี amorphous content สูงอาจส่งผลให้ PET มีคุณสมบัติที่แตกต่างออกไป เช่น ความโปร่งใส และความยืดหยุ่นที่สูงขึ้น แต่ความแข็งแรงและความทนทานอาจต่ำกว่าถ้าเปรียบเทียบกับ PET ที่มีความเป็นผลึกสูง

โครงสร้างผลึก vs. โครงสร้างไม่มีผลึก: PET ที่มีความเป็นผลึกสูงจะมีโครงสร้างที่จัดเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบซึ่งเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน ในขณะที่ PET ที่ไม่มีโครงสร้างหรือ amorphous จะมีการจัดเรียงตัวที่ไม่เป็นระเบียบ ซึ่งส่งผลให้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การรีไซเคิล PET: การควบคุมอัตราส่วนของ amorphous content สามารถมีผลต่อคุณภาพของ PET ที่ได้รับจากกระบวนการรีไซเคิล เช่น ความแข็งแรงและความทนทานของผลิตภัณฑ์สุดท้าย

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


What is the primary benefit of reducing the crystallinity of PET in recycling processes?

It enhances the enzymatic degradation efficiency.

การลดความเป็นผลึกของ PET ช่วยให้ PET มีการย่อยสลายได้ดีขึ้นเมื่อใช้เอนไซม์ในการรีไซเคิล เนื่องจาก PET ที่มีความเป็นผลึกต่ำจะมีโครงสร้างที่อ่อนแอและสามารถถูกเอนไซม์เข้าทำลายได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้กระบวนการย่อยสลายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความเป็นผลึกของ PET: PET ที่มีความเป็นผลึกสูงมีโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทาน ทำให้เอนไซม์ย่อยสลายยากขึ้น ในขณะที่ PET ที่มีความเป็นผลึกต่ำจะมีโครงสร้างที่เปิดกว้างและทำให้เอนไซม์สามารถเข้าทำลายได้ง่าย ประสิทธิภาพในการย่อยสลายด้วยเอนไซม์: การลดความเป็นผลึกช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสของเอนไซม์กับวัสดุ ทำให้กระบวนการย่อยสลายทำได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


Which measurement technique was used to assess the polymer spectra to confirm the presence of PET?

Fourier Transform Infrared Spectroscopy

Fourier Transform Infrared Spectroscopy (FTIR) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการตรวจสอบสเปกตรัมของโพลีเมอร์และสารประกอบอื่นๆ โดยการวัดการดูดซับของรังสีอินฟราเรดที่ความยาวคลื่นต่างๆ การดูดซับที่ความยาวคลื่นเฉพาะจะแสดงถึงกลุ่มฟังก์ชันที่มีอยู่ในวัสดุ ซึ่งช่วยยืนยันการมีอยู่ของ PET โดยการตรวจสอบลักษณะเฉพาะของกลุ่มฟังก์ชันเช่น C=O และ C-O-C

การตรวจสอบ FTIR: การวัด FTIR ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มฟังก์ชันและการยืนยันโครงสร้างของโพลีเมอร์ผ่านการวัดการดูดซับของรังสีอินฟราเรดที่สเปกตรัมที่แตกต่างกัน การใช้ FTIR ในการวิเคราะห์โพลีเมอร์: PET มีลักษณะเฉพาะที่สามารถตรวจสอบได้โดย FTIR ซึ่งช่วยยืนยันการมีอยู่ของโพลีเมอร์ในตัวอย่างที่ทดสอบ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 106.25 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา