1 |
What is the primary goal of using multimodal transportation in logistics as per the discussed research?
|
To minimize transportation costs and risks while delivering on time. |
|
การขนส่งแบบหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation) คือการผสมผสานการขนส่งสินค้าโดยใช้หลายวิธีการ เช่น ทางรถ ทางเรือ ทางราง และทางอากาศ ภายใต้การจัดการของผู้ให้บริการรายเดียว โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อ ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และ ลดความเสี่ยง ในกระบวนการขนส่งทั้งหมด
การลดต้นทุน: การเลือกใช้รูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมกับระยะทาง ประเภทสินค้า และปริมาณสินค้า สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้อย่างมาก เช่น การขนส่งสินค้าจำนวนมากระยะทางไกลอาจเหมาะกับการใช้เรือหรือรถไฟ ซึ่งมีต้นทุนต่อหน่วยที่ต่ำกว่าการขนส่งทางรถ
เพิ่มประสิทธิภาพ: การเชื่อมต่อการขนส่งหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน ช่วยให้สินค้าเคลื่อนที่ได้อย่างต่อเนื่อง ลดเวลาในการขนส่ง และเพิ่มความคล่องตัวในการจัดส่ง
ลดความเสี่ยง: การกระจายความเสี่ยงไปยังหลายรูปแบบการขนส่ง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาวิธีการขนส่งเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศ การจราจรติดขัด หรือปัญหาอื่นๆ
|
Supply Chain Management: เน้นการบริหารจัดการกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
Logistics: เกี่ยวข้องกับการวางแผน การปฏิบัติ และการควบคุมการเคลื่อนย้ายสินค้า เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยและตรงเวลา
Intermodal Transportation: เป็นแนวคิดที่ใกล้เคียงกับ Multimodal Transportation แต่เน้นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่งระหว่างการเดินทาง เช่น จากรถบรรทุกไปยังรถไฟ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
Which method is primarily used for decision-making in multimodal transportation route selection?
|
A combination of AHP and ZOGP. |
|
การเลือกเส้นทางขนส่งหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation) เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาหลายอย่าง เช่น ระยะทาง ค่าใช้จ่าย เวลาในการขนส่ง ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ และข้อจำกัดต่างๆ ของสินค้าและเส้นทาง ดังนั้น การใช้เพียงวิธีการเดียวในการตัดสินใจอาจไม่เพียงพอ
Analytic Hierarchy Process (AHP): วิธีการนี้ช่วยในการจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ โดยอาศัยการเปรียบเทียบแบบคู่ๆ ทำให้สามารถสร้างเกณฑ์การตัดสินใจที่ชัดเจน
Zero-One Goal Programming (ZOGP): วิธีการนี้ช่วยในการหาทางแก้ปัญหาที่ตรงตามเป้าหมายหลายๆ เป้าหมาย โดยการกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้บรรลุ และหาค่าที่เหมาะสมที่สุดที่ทำให้เป้าหมายเหล่านั้นใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด
การใช้ AHP และ ZOGP ร่วมกัน:
AHP ช่วยในการสร้างโครงสร้างของปัญหาและกำหนดน้ำหนักความสำคัญของแต่ละปัจจัย
ZOGP ช่วยในการหาทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่ได้จากการใช้ AHP
การผสมผสานทั้งสองวิธีนี้จึงเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในการตัดสินใจเลือกเส้นทางขนส่งหลายรูปแบบ เนื่องจาก:
ครอบคลุมปัจจัยต่างๆ: สามารถพิจารณาปัจจัยทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพได้
มีความยืดหยุ่น: สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้
ให้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม: สามารถหาทางเลือกที่ดีที่สุดที่สอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
|
ทฤษฎีการตัดสินใจ: เป็นพื้นฐานในการพัฒนาวิธีการ AHP และ ZOGP โดยมุ่งเน้นที่การเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดจากหลายๆ ทางเลือก
ทฤษฎีการวิจัยเชิงปฏิบัติการ: เป็นพื้นฐานในการพัฒนาวิธีการ ZOGP โดยมุ่งเน้นที่การใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหา
ทฤษฎีระบบ: เป็นพื้นฐานในการมองเห็นปัญหาการขนส่งในภาพรวม และพิจารณาปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
According to the case study, what is the primary commodity considered for transportation?
|
Perishable food items. |
|
Perishable food items (อาหารสด): ต้องการการขนส่งที่รวดเร็ว อุณหภูมิควบคุมได้ และบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อรักษาความสดใหม่และคุณภาพ
Electronics (อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์): ต้องการการป้องกันการกระแทก การสั่นสะเทือน และความชื้นสูง รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิ
Pharmaceutical products (ผลิตภัณฑ์ยา): ต้องการการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของยา
Coal (ถ่านหิน): เหมาะสำหรับการขนส่งในปริมาณมาก โดยทั่วไปจะใช้การขนส่งทางเรือหรือทางรถไฟ
Furniture (เฟอร์นิเจอร์): ต้องการการบรรจุหีบห่อที่แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหาย และอาจต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่สำหรับการขนส่ง
|
Supply Chain Management: เป็นกระบวนการบริหารจัดการการไหลของสินค้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุน เวลา คุณภาพ และความปลอดภัย
Logistics: เป็นส่วนหนึ่งของ Supply Chain Management ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน การดำเนินงาน และการควบคุมการเคลื่อนย้ายสินค้า
Transportation Management: เป็นการบริหารจัดการการขนส่งสินค้า โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของสินค้า ระยะทาง เวลาที่ต้องการ และต้นทุน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
What is the role of the Analytic Hierarchy Process (AHP) in the multimodal transportation decision support model?
|
To establish weights for different criteria based on expert judgment. |
|
AHP (Analytic Hierarchy Process) เป็นวิธีการในการตัดสินใจแบบหลายเกณฑ์ (Multi-Criteria Decision Making: MCDM) ที่ใช้ในการจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยต่างๆ โดยอาศัยการเปรียบเทียบแบบคู่ (pairwise comparison) เพื่อสร้างมาตราส่วนที่สอดคล้องกันและสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์ได้
ในบริบทของการตัดสินใจเลือกเส้นทางขนส่งแบบหลายรูปแบบ ปัจจัยที่ต้องพิจารณาจะมีหลากหลาย เช่น ต้นทุน ระยะเวลา ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย ฯลฯ AHP ช่วยให้เราสามารถกำหนดน้ำหนักความสำคัญของแต่ละปัจจัยเหล่านี้ได้อย่างเป็นระบบ โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ
น้ำหนักความสำคัญที่ได้จาก AHP จะถูกนำไปใช้ในการคำนวณค่าคะแนนของแต่ละทางเลือก โดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์ต่างๆ ที่กำหนดไว้ ทำให้สามารถเลือกเส้นทางขนส่งที่เหมาะสมที่สุดได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
|
ทฤษฎีการตัดสินใจแบบหลายเกณฑ์ (Multi-Criteria Decision Making: MCDM) เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์การจัดการที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดจากทางเลือกที่มีหลายทาง โดยพิจารณาจากเกณฑ์หลายเกณฑ์
การเปรียบเทียบแบบคู่ (Pairwise comparison) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการเปรียบเทียบความสำคัญสัมพัทธ์ของปัจจัยต่างๆ โดยเปรียบเทียบปัจจัยคู่หนึ่งๆ ในแต่ละครั้ง
มาตราส่วนการวัด (Measurement scale) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดปริมาณหรือคุณลักษณะของสิ่งต่างๆ โดยใน AHP จะใช้มาตราส่วนการวัดแบบอัตราส่วน (ratio scale)
น้ำหนักความสำคัญ (Weight) คือค่าที่แสดงถึงความสำคัญสัมพัทธ์ของแต่ละปัจจัย โดยได้มาจากการเปรียบเทียบแบบคู่
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
Which risk is NOT considered in the list of risks assessed for multimodal transportation route selection?
|
Health risk. |
|
ลักษณะของการขนส่งมัลติโมดอล: การขนส่งแบบมัลติโมดอลมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง โดยใช้หลายรูปแบบการขนส่ง เช่น ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องจึงมักจะเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับสินค้าระหว่างการขนส่ง เช่น ความเสียหาย ความสูญหาย ความล่าช้า หรือความเสี่ยงด้านกฎหมาย
ขอบเขตของความเสี่ยง: ความเสี่ยงต่อสุขภาพมักเกี่ยวข้องกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการขนส่ง เช่น พนักงานขับรถ พนักงานขนถ่ายสินค้า ซึ่งเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยส่วนบุคคลมากกว่าที่จะเป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเลือกเส้นทางหรือรูปแบบการขนส่ง
|
Supply Chain Risk Management: ทฤษฎีนี้มุ่งเน้นไปที่การระบุ วิเคราะห์ และจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งรวมถึงการขนส่ง ความเสี่ยงที่พิจารณามักจะเป็นความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของห่วงโซ่อุปทาน เช่น ความล่าช้าในการขนส่ง ความเสียหายของสินค้า และความผันผวนของต้นทุน
Logistics Management: แนวคิดนี้เกี่ยวข้องกับการวางแผนและควบคุมการไหลของสินค้าจากแหล่งผลิตไปยังผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้า การเลือกเส้นทางการขนส่งเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนโลจิสติกส์ และความเสี่ยงที่พิจารณาจึงมักจะเป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งโดยตรง
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
What does ZOGP stand for, and what is its role in the model?
|
None of the above. |
|
คำย่อในทางวิชาการหรือธุรกิจมักถูกสร้างขึ้นเพื่อให้การสื่อสารสั้นกระชับและเข้าใจง่าย อย่างไรก็ตาม การตีความคำย่อที่ไม่เป็นที่รู้จักทั่วไปอาจเป็นเรื่องยาก หากต้องการทราบความหมายที่ถูกต้องของ ZOGP ควรตรวจสอบแหล่งข้อมูลต่อไปนี้:
เอกสารภายในองค์กร: หาก ZOGP เป็นคำย่อที่ใช้ภายในองค์กร ควรตรวจสอบเอกสารภายใน เช่น คู่มือพนักงาน หรือรายงานโครงการ
ฐานข้อมูลศัพท์เฉพาะ: ฐานข้อมูลศัพท์เฉพาะทางด้านคอมพิวเตอร์ วิศวกรรม หรือธุรกิจอาจมีคำอธิบายของ ZOGP
ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง: การสอบถามผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ ZOGP อาจช่วยให้ได้คำตอบที่ถูกต้อง
|
ในกรณีนี้ ไม่ได้มีการใช้ทฤษฎีหรือแนวคิดเฉพาะใด ๆในการตอบคำถาม เนื่องจากการตอบคำถามนี้ขึ้นอยู่กับการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
Which of the following is NOT a mode of transport discussed in the multimodal transportation case study?
|
All are discussed. |
|
การศึกษาคดีการขนส่งแบบมัลติโมดอลมุ่งเน้นที่จะศึกษาและวิเคราะห์ระบบการขนส่งที่ซับซ้อน โดยการรวมรูปแบบการขนส่งที่แตกต่างกันเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแง่ของต้นทุน เวลา และประสิทธิภาพ การพิจารณาถึงรูปแบบการขนส่งทั้ง 4 รูปแบบ จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และประเมินระบบการขนส่งแบบมัลติโมดอล
|
ทฤษฎีโลจิสติกส์ (Logistics): เป็นทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน การดำเนินการ และการควบคุมการไหลของสินค้า บริการ และข้อมูล ตั้งแต่แหล่งผลิตไปยังผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้า การศึกษาคดีการขนส่งแบบมัลติโมดอลจึงอาศัยหลักการของทฤษฎีโลจิสติกส์ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบการขนส่ง
ทฤษฎีเครือข่าย (Network Theory): ใช้ในการวิเคราะห์และจำลองระบบการขนส่งที่ซับซ้อน โดยพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างจุดต่างๆ ในระบบ เช่น โรงงาน ท่าเรือ สนามบิน และเส้นทางการขนส่ง การศึกษาคดีการขนส่งแบบมัลติโมดอลจึงใช้ทฤษฎีเครือข่ายในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของระบบการขนส่งและหาเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด
ทฤษฎีการตัดสินใจ (Decision Theory): ใช้ในการเลือกตัดสินใจเกี่ยวกับรูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมสำหรับแต่ละส่วนของกระบวนการขนส่ง โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุน เวลา ความเสี่ยง และคุณภาพของบริการ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
In the context of the AHP used in the study, what does a consistency ratio (CR) less than 0.1 indicate?
|
The judgments are sufficiently consistent. |
|
CR คืออะไร: CR เป็นค่าที่ใช้ในการวัดความสอดคล้องของการตัดสินใจใน AHP โดยเปรียบเทียบค่าดัชนีความสอดคล้อง (Consistency Index: CI) ที่คำนวณได้จากเมทริกซ์การเปรียบเทียบกับค่าดัชนีความสอดคล้องแบบสุ่ม (Random Index: RI)
ค่า CR น้อยกว่า 0.1 หมายถึง: เมื่อค่า CR น้อยกว่า 0.1 แสดงว่าความแตกต่างระหว่างการตัดสินใจของเรากับการตัดสินใจแบบสุ่มนั้นน้อยมาก นั่นคือ การตัดสินใจของเรามีความสอดคล้องกันในระดับที่ยอมรับได้
เหตุผลที่ไม่ใช่ตัวเลือกอื่น:
The decision-making process is inconsistent: ข้อนี้ตรงข้ามกับความหมายของ CR ที่น้อยกว่า 0.1
The pairwise comparisons are likely random: หากการเปรียบเทียบเป็นคู่เป็นแบบสุ่ม ค่า CR จะมีค่าสูง
The AHP model needs to be recalculated: ไม่จำเป็นต้องคำนวณใหม่ หากค่า CR อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
The AHP model is not applicable: AHP ยังคงสามารถนำมาใช้ได้หากค่า CR อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
|
ทฤษฎีการตัดสินใจ: AHP เป็นหนึ่งในวิธีการในการตัดสินใจที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยอาศัยหลักการเปรียบเทียบเป็นคู่และการคำนวณน้ำหนักของปัจจัยต่างๆ
ทฤษฎีความน่าจะเป็น: ค่า RI ที่นำมาเปรียบเทียบกับ CI นั้นได้มาจากการจำลองการตัดสินใจแบบสุ่ม ซึ่งเป็นการนำหลักการความน่าจะเป็นมาใช้
หลักการของความสอดคล้อง: การที่ค่า CR น้อยกว่า 0.1 นั้นสอดคล้องกับหลักการที่ว่าการตัดสินใจควรมีความสอดคล้องกันภายในตัวเอง
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
What is the primary purpose of sensitivity analysis in the context of the ZOGP model used in the study?
|
To check the robustness of the model's outcomes against changes in input parameters. |
|
ความหมายของการวิเคราะห์ความไว: การวิเคราะห์ความไว (sensitivity analysis) คือกระบวนการที่ใช้ศึกษาว่า ผลลัพธ์ของแบบจำลองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่าของตัวแปรอิสระหรือปัจจัยเข้า (input parameters) ที่ใช้ในการสร้างแบบจำลอง
บทบาทของการวิเคราะห์ความไวในแบบจำลอง ZOGP:
ความแข็งแกร่งของแบบจำลอง: การวิเคราะห์ความไวช่วยให้เราทราบว่า แบบจำลองที่เราสร้างขึ้นนั้นมีความแข็งแกร่ง (robustness) เพียงใด นั่นคือ ผลลัพธ์ของแบบจำลองจะยังคงเชื่อถือได้ แม้ว่าค่าของตัวแปรเข้าจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
ความไม่แน่นอน: ในโลกจริง ค่าของตัวแปรเข้ามักมีความไม่แน่นอน (uncertainty) การวิเคราะห์ความไวช่วยให้เราประเมินผลกระทบของความไม่แน่นอนนี้ต่อผลลัพธ์ของแบบจำลอง
การระบุตัวแปรสำคัญ: การวิเคราะห์ความไวช่วยให้เราระบุได้ว่า ตัวแปรเข้าตัวใดบ้างที่มีผลกระทบต่อผลลัพธ์ของแบบจำลองมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงความแม่นยำของข้อมูลสำหรับตัวแปรเหล่านั้นได้
|
ทฤษฎีความน่าจะเป็นและสถิติ: การวิเคราะห์ความไวอาศัยหลักการทางสถิติในการประเมินความไม่แน่นอนและการสร้างช่วงความเชื่อมั่น
ทฤษฎีการสร้างแบบจำลอง: การวิเคราะห์ความไวเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างแบบจำลองที่ใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของแบบจำลอง
เทคนิคการวิเคราะห์ความไว: มีเทคนิคการวิเคราะห์ความไวหลายวิธี เช่น การวิเคราะห์ความไวแบบหนึ่งปัจจัย (one-at-a-time sensitivity analysis), การวิเคราะห์ความไวแบบหลายปัจจัย (global sensitivity analysis), และการวิเคราะห์ความไวแบบสุ่ม (Monte Carlo simulation)
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
Which of the following best describes the role of multimodal transportation in global trade according to the study?
|
It is essential for making local industry and international trade more efficient and competitive. |
|
การขนส่งแบบมัลติโมดอล (Multimodal Transportation) หมายถึงการขนส่งสินค้าโดยใช้หลายรูปแบบการขนส่ง เช่น ทางเรือ ทางรถไฟ ทางรถบรรทุก และทางอากาศ ร่วมกันในเส้นทางเดียว เพื่อให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการค้าโลกดังนี้
เพิ่มประสิทธิภาพ: การใช้หลายรูปแบบการขนส่งช่วยลดระยะเวลาในการขนส่ง ลดต้นทุนในการขนส่ง และลดความเสียหายของสินค้าระหว่างการขนส่ง ทำให้การค้าเกิดขึ้นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เพิ่มความยืดหยุ่น: การขนส่งแบบมัลติโมดอลสามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางและรูปแบบการขนส่งได้ตามความเหมาะสมของสินค้าและสถานการณ์ ทำให้การขนส่งมีความยืดหยุ่นสูง
ลดต้นทุน: การใช้รูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงของการขนส่ง ทำให้สามารถลดต้นทุนโดยรวมได้
เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน:การขนส่งที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ ทำให้สินค้าสามารถแข่งขันในตลาดโลก
|
ทฤษฎีโลจิสติกส์: เน้นการจัดการการไหลของสินค้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการขนส่งแบบมัลติโมดอลเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการดำเนินการตามหลักการของโลจิสติกส์
ทฤษฎีห่วงโซ่อุปทาน: มุ่งเน้นการเชื่อมโยงกิจกรรมต่างๆ ในห่วงโซ่อุปทานเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ การขนส่งแบบมัลติโมดอลช่วยให้ห่วงโซ่อุปทานมีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้รวดเร็วขึ้น
แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน: การขนส่งแบบมัลติโมดอลสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศได้ หากมีการวางแผนและบริหารจัดการเส้นทางการขนส่งอย่างเหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
What is the main natural cause of landslides along the Jammu-Srinagar National Highway?
|
Forest fires |
|
ภูมิประเทศ: ภูมิภาค Jammu-Srinagar มีลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดดินสไลด์ได้ง่าย เมื่อมีปริมาณน้ำฝนมากเกินไป
ดินและหิน: ประเภทของดินและหินในบริเวณนี้มักมีลักษณะร่วนซุยและอุ้มน้ำได้น้อย ทำให้เมื่อถูกน้ำฝนชะล้าง จะสูญเสียความเสถียรและเกิดการเคลื่อนตัวได้ง่าย
ปริมาณน้ำฝน: ปริมาณน้ำฝนที่สูงและต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้น้ำซึมลงไปในดินและหิน ทำให้เกิดแรงดันน้ำในรอยแตกและช่องว่าง ส่งผลให้ดินและหินอ่อนตัวและเคลื่อนตัวลงมา
พืชพรรณ: การตัดไม้ทำลายป่าและการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ทำให้ดินสูญเสียความสามารถในการอุ้มน้ำและเกิดการกัดเซาะ ทำให้ดินสไลด์เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น
|
ทฤษฎีความลาดชัน: ความลาดชันที่สูงชันจะทำให้แรงโน้มถ่วงมีผลต่อดินและหินมากขึ้น ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวได้ง่าย
ทฤษฎีความแข็งแรงของวัสดุ: ประเภทของดินและหินมีผลต่อความแข็งแรงและความเสถียรของดิน เมื่อดินและหินมีความแข็งแรงน้อย จะเกิดการเคลื่อนตัวได้ง่าย
ทฤษฎีไฮดรอลิก: น้ำมีบทบาทสำคัญในการทำให้ดินและหินอ่อนตัวและเคลื่อนตัว เมื่อน้ำซึมลงไปในดินและหิน จะเพิ่มแรงดันน้ำในรอยแตกและช่องว่าง ทำให้เกิดการเคลื่อนตัว
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
According to the article, what technology is used to assess landslide-prone areas along the highway?
|
Remote sensing and ARIMA modeling |
|
Remote sensing: เทคโนโลยีนี้ใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งบนดาวเทียมหรือเครื่องบินในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพื้นผิวโลก เช่น ภาพถ่ายทางอากาศ, ข้อมูลเรดาร์, และข้อมูลอินฟราเรด ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อระบุลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ เช่น ความลาดชันของพื้นที่, ชนิดของดิน, และการเปลี่ยนแปลงของพืชพรรณ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดดินสไลด์
ARIMA modeling: ARIMA ย่อมาจาก AutoRegressive Integrated Moving Average เป็นแบบจำลองทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์อนุกรมเวลา (time series) เช่น ข้อมูลปริมาณน้ำฝน, การเคลื่อนตัวของดิน, และการเกิดดินสไลด์ในอดีต แบบจำลองนี้สามารถนำมาใช้ในการพยากรณ์ความเสี่ยงในการเกิดดินสไลด์ในอนาคตได้
|
ธรณีวิทยา: การศึกษาเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของโลก เช่น หิน ดิน และโครงสร้างทางธรณีวิทยา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดดินสไลด์
วิศวกรรมธรณีเทคนิค: การประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมในการแก้ปัญหาทางธรณีวิทยา เช่น การออกแบบโครงสร้างเพื่อป้องกันดินสไลด์
สถิติ: การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อค้นหาความสัมพันธ์และสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
What is the relationship between land surface temperature (LST) and underground water level mentioned in the study?
|
LST decreases as underground water level increases |
|
การถ่ายเทความร้อน: น้ำใต้ดินมีคุณสมบัติในการดูดซับความร้อนได้ดีกว่าดิน เมื่อระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้น น้ำจะอยู่ใกล้ผิวดินมากขึ้น ทำให้ความร้อนจากผิวดินถูกดูดซับลงไปในน้ำ ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวดินลดลง
การระเหย: น้ำใต้ดินเมื่อสัมผัสกับอากาศจะระเหยออกไป การระเหยนี้จะดูดความร้อนจากบริเวณโดยรอบ ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวดินลดลง
การนำความร้อน: น้ำมีค่าการนำความร้อนสูงกว่าดิน ทำให้ความร้อนสามารถเคลื่อนที่ผ่านน้ำได้ดีกว่าดิน เมื่อระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้น ความร้อนจากชั้นดินลึกจะถูกนำขึ้นมาสู่ผิวดิน ทำให้ความร้อนกระจายตัวออกไปและอุณหภูมิพื้นผิวดินลดลง
|
ทฤษฎีการถ่ายเทความร้อน: อธิบายถึงกระบวนการที่พลังงานความร้อนเคลื่อนที่จากวัตถุหนึ่งไปยังอีกวัตถุหนึ่ง โดยอาศัยความแตกต่างของอุณหภูมิ
ความจุความร้อนจำเพาะ: เป็นสมบัติของวัตถุที่บ่งบอกถึงปริมาณความร้อนที่จำเป็นในการเพิ่มอุณหภูมิของวัตถุหนึ่งหน่วย
การระเหย: เป็นกระบวนการที่ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส โดยการดูดความร้อนจากสิ่งแวดล้อม
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
How is the threshold value for landslide triggering determined as per the study?
|
Using field surveys and geotechnical parameters |
|
การสำรวจภาคสนามและพารามิเตอร์ทางวิศวกรรมธรณีเทคนิค เป็นวิธีการที่แม่นยำและเป็นที่ยอมรับในการกำหนดค่าเกณฑ์การเกิดแผ่นดินถล่ม วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมข้อมูลในพื้นที่จริง เช่น การสำรวจสภาพภูมิประเทศ การวัดความชัน การเก็บตัวอย่างดินเพื่อวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพและทางเคมี รวมถึงการประเมินสภาพของพืชพรรณและรอยแยกในดิน
ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจภาคสนามจะถูกนำมาวิเคราะห์ร่วมกับพารามิเตอร์ทางวิศวกรรมธรณีเทคนิค เช่น ความแข็งแรงของดิน ความพรุน ความชื้น และมุมเสียดทานภายใน เพื่อสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่สามารถทำนายความเสี่ยงในการเกิดแผ่นดินถล่มได้อย่างแม่นยำ
|
กลศาสตร์ดิน: เป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์ความมั่นคงของดินและความเสี่ยงในการเกิดแผ่นดินถล่ม
สถิติ: ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสำรวจภาคสนามและสร้างแบบจำลองความเสี่ยง
ภูมิสารสนเทศ (GIS): ใช้ในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ เช่น ความชัน ความสูง และการใช้ประโยชน์ที่ดิน
วิศวกรรมป้องกันภัยธรรมชาติ: เกี่ยวข้องกับการออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างป้องกันแผ่นดินถล่ม
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
If the mean monthly rainfall in April is 150 mm and it increases by 20% in May, what is the mean monthly rainfall in May?
|
180 mm |
|
การเพิ่มขึ้น 20%: หมายความว่าปริมาณฝนในเดือนพฤษภาคมจะมากกว่าเดือนเมษายนอยู่ 20% ของปริมาณฝนในเดือนเมษายน
การคำนวณ:
หาค่าที่เพิ่มขึ้น: 150 มม. x 20% = 30 มม.
บวกค่าที่เพิ่มขึ้นเข้าไปกับปริมาณฝนเดือนเมษายน: 150 มม. + 30 มม. = 180 มม.
ดังนั้น ปริมาณฝนเฉลี่ยรายเดือนในเดือนพฤษภาคมจึงเท่ากับ 180 มิลลิเมตร
|
ปอร์เซ็นต์: เป็นอัตราส่วนที่แสดงส่วนหนึ่งเทียบกับส่วนทั้งหมด โดยมีส่วนทั้งหมดเป็น 100
การหาเปอร์เซ็นต์ของจำนวนหนึ่ง: คือการนำจำนวนนั้นคูณด้วยอัตราส่วนเปอร์เซ็นต์ที่ต้องการหา
การหาค่าที่เพิ่มขึ้น: คือการนำค่าเดิมบวกกับค่าที่เพิ่มเข้าไป
สรุป: โจทย์ข้อนี้เป็นการนำความรู้เรื่องเปอร์เซ็นต์มาประยุกต์ใช้ในการคำนวณหาปริมาณฝน ซึ่งเป็นการนำความรู้ทางคณิตศาสตร์มาใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
Given that the slope angle in a studied section is 45 degrees and the friction angle (phi) is 11 degrees, what is the ratio of friction angle to slope angle?
|
0.24 |
|
การคำนวณโดยตรงจากข้อมูลที่ให้มาจะได้ค่า 0.24
อัตราส่วนนี้บ่งบอกถึงสัดส่วนของแรงเสียดทานที่มีผลต่อความเสถียรของวัตถุบนพื้นผิวที่ลาดเอียง
|
มุมความลาดชัน: คือมุมที่พื้นผิวเอียงทำกับแนวนอน มักใช้ในการวิเคราะห์ความเสถียรของดินและหิน
มุมเสียดทาน (φ): คือมุมที่แรงเสียดทานสูงสุดทำกับแนวตั้งฉากของพื้นผิวสัมผัส เป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแรงของแรงเสียดทานระหว่างวัตถุสองชิ้น
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
If the specific gravity of soil is 2.74 and the natural density is 1.69 kg/cm³, what is the approximate weight of 1 cubic meter of soil?
|
1690 kg |
|
ความหนาแน่นธรรมชาติ: ค่านี้บอกถึงมวลของวัตถุต่อหน่วยปริมาตรโดยตรง ดังนั้นเมื่อทราบความหนาแน่นและปริมาตรแล้ว เราสามารถหาค่ามวล (หรือน้ำหนัก) ได้ทันที
ความถ่วงจำเพาะ: ค่านี้เปรียบเทียบความหนาแน่นของวัตถุกับความหนาแน่นของน้ำ ซึ่งในกรณีนี้ไม่ได้ใช้ในการคำนวณโดยตรง แต่สามารถนำไปใช้ในการคำนวณหาความหนาแน่นจริงของดินเมื่อทราบความหนาแน่นของน้ำ
|
ความหนาแน่น (Density): คือ มวลต่อหน่วยปริมาตร มีหน่วยเป็นกิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (kg/m³) หรือกรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร (g/cm³)
ความถ่วงจำเพาะ (Specific gravity): คือ อัตราส่วนระหว่างความหนาแน่นของวัตถุกับความหนาแน่นของน้ำที่ 4 องศาเซลเซียส
หลักการอนุรักษ์มวล: มวลไม่สามารถสร้างขึ้นหรือทำลายได้ แต่สามารถเปลี่ยนรูปจากรูปหนึ่งไปเป็นอีกรูปหนึ่งได้
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
Assuming that the direct shear of soil is 0.05 kg/cm², how much shear force is exerted on a 10 cm x 10 cm area?
|
5 kg |
|
0.05 kg, 0.5 kg, 0.005 kg: ค่าเหล่านี้ไม่ได้คำนึงถึงพื้นที่ที่แรงเฉือนกระทำ
50 kg: ค่านี้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับค่าที่คำนวณได้
|
แรงเฉือน (Shear Force): คือแรงที่กระทำขนานกับพื้นผิวของวัตถุ ทำให้เกิดการเลื่อนตัวสัมพัทธ์ระหว่างชั้นของวัตดิน
แรงเฉือนต่อหน่วยพื้นที่ (Shear Strength): คือค่าที่บ่งบอกความต้านทานต่อการเลื่อนตัวของดินต่อหน่วยพื้นที่
หลักการพื้นฐานของกลศาสตร์ของดิน: แรงเฉือนทั้งหมดที่ดินสามารถรับได้จะแปรผันตรงกับพื้นที่หน้าตัดของดินที่แรงเฉือนกระทำ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
If the rate of land surface temperature change is 0.1°C per year starting at 24.94°C in 2020, what will be the LST in 2024?
|
25.34°C |
|
หากอุณหภูมิพื้นผิวโลกเพิ่มขึ้นในอัตราคงที่ตามที่กำหนดไว้ อุณหภูมิในปี 2024 จะสูงขึ้นจากปี 2020 เป็นจำนวน 0.4 องศาเซลเซียส ดังนั้น อุณหภูมิในปี 2024 จึงเท่ากับ 25.34 องศาเซลเซียส
|
หลักการของอัตราการเปลี่ยนแปลง: เป็นแนวคิดพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในการหาปริมาณการเปลี่ยนแปลงของค่าหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไป
การคำนวณเชิงเส้น: ในกรณีนี้ เราสมมติว่าอัตราการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเป็นเส้นตรง ซึ่งหมายความว่าอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นในปริมาณที่เท่ากันทุกปี
แบบจำลองสภาพภูมิอากาศ: แม้ว่าการคำนวณนี้เป็นการประมาณแบบง่าย แต่ก็สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลกที่นักวิทยาศาสตร์สภาพภูมิอากาศคาดการณ์ไว้
ข้อควรสังเกต
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
What method does the study use to forecast future landslides?
|
ARIMA and SPSS Forecasting Model |
|
ARIMA (AutoRegressive Integrated Moving Average): เป็นโมเดลทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์อนุกรมเวลา (time series data) ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพยากรณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เช่น การเกิดดินสไลด์ เนื่องจากโมเดลนี้สามารถจับความสัมพันธ์ระหว่างค่าในอดีตกับค่าในปัจจุบันได้อย่างแม่นยำ และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการคาดการณ์ค่าในอนาคต
SPSS (Statistical Package for the Social Sciences): เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติอย่างกว้างขวาง รวมถึงการสร้างและประเมินผลโมเดล ARIMA ด้วย โปรแกรมนี้มีเครื่องมือและฟังก์ชันที่หลากหลาย ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างละเอียดและครอบคลุม
|
ทฤษฎีอนุกรมเวลา (Time Series Theory): เป็นพื้นฐานของโมเดล ARIMA ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาในช่วงเวลาต่างๆ และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างค่าข้อมูลในแต่ละช่วงเวลา
สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics): ใช้ในการสรุปและอธิบายลักษณะของข้อมูล เช่น ค่าเฉลี่ย สถิติเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญในการสร้างโมเดล
สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics): ใช้ในการทดสอบสมมติฐานและสรุปผลเกี่ยวกับประชากรจากตัวอย่างข้อมูล เช่น การทดสอบความเป็นปกติของข้อมูล การตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
Machine Learning: แม้ว่าโมเดล ARIMA จะไม่ใช่โมเดล Machine Learning แบบเต็มรูปแบบ แต่แนวคิดของการเรียนรู้จากข้อมูลในอดีตเพื่อทำนายอนาคตก็เป็นพื้นฐานของ Machine Learning เช่นกัน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|