ตรวจข้อสอบ > ปูชิดา รางแดง > เคมีเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Chemistry > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 45 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


5. มีข้อผิดมากกว่า 1 ข้อ

Cephalexinเป็นยาที่ต้านเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย ส่วนWarfarinเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด 2ข้อนี้ไม่เกี่ยวกับโรคปัสสาวะ

Cephalexinและ Warfarin ไม่เกี่ยวข้องกับปัสสาวะ ต้องตอบผิดมากกว่า1

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


5. ถูกมากกว่า 1 ข้อ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


5. ผิดมากกว่า 1 ข้อ

Warfarinและpropranolol ไม่ใช่โมเลกุลแบบExrension

Warfarinและpropranolol ไม่ใช่โมเลกุลแบบExrension เพราะเป็นโมเลกุล ที่ไม่สามารถขยายตัวได้ มีโครงสร้างที่คงที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเงื่อนไขของโมเลกุล Exrension

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


2. มีประสิทธิภาพ

สองอันมีวงเบนซินทำให้เกิดประสิทธิภาพยาที่แตกต่างกัน

เมื่อร่างกายของคนเราได้รับสารเคมีเข้าไป ร่างกายจะขับออกโดยการเปลี่ยนสารประกอบนั้นให้กลายเป็นสารประกอบที่ละลายน้ำได้ เพื่อที่จะได้ระบายออกผ่านทางปัสสาวะเนื่องจากโมเลกุลอะโรมาติกเป็นโมเลกุลไม่มีขั้ว ดังนั้นเมื่อร่างกายรับเข้าไปก็จะไปสะสมในไขมัน ในการขับโมเลกุล อะโรมาติกออกจากร่างกาย ร่างกายจะต้องทำการออกซิไดซ์โมเลกุลเหล่านี้ให้เกิดหมู่ฟังก์ชันที่มีขั้ว เพื่อที่จะได้ละลายน้ำได้ และเข้าสู่ระบบโลหิตก่อนจะไปถูกขับออกทางปัสสาวะผ่านทางไตสารประกอบอะโรมาติกที่มีหมู่อัลคิลเกาะอยู่นั้น ร่างกายจะทำการออกซิไดซ์หมู่อัลคิลให้กลายเป็นหมู่ที่มีขั้ว (เช่นเปลี่ยนหมู่ -CH3 ให้กลายเป็น -COOH) แทนที่จะทำการออกซิไดซ์วงแหวนโดยตรง ทั้งนี้เพราะการออกซิไดซ์หมู่อัลคิลนั้นทำได้ง่ายกว่าการออกซิไดซ์วงแหวนแต่เนื่องจากเบนซีนไม่มีหมู่อัลคิลเกาะอยู่ ดังนั้นการขับเบนซีนออกจากร่างกายจึงต้องพึ่งปฏิกิริยาการออกซิไดซ์วงแหวนโดยตรง ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการออกซิไดซ์วงแหวนเบนซีนนี้ถูกจัดว่าเป็นสารก่อมะเร็งในอดีตนั้นเบนซีนส่วนที่เกินความต้องการของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีสามารถผลักเข้าสู่การผลิตน้ำมันแก๊สโซลีนได้ แต่ในปัจจุบันเนื่องจากมีการจำกัดปริมาณเบนซีนในน้ำมันแก๊สโซลีนให้ต่ำลงไปอีก และในบางกระบวนการนั้นก็ได้มีการใช้สารตั้งต้นตัวอื่นมาใช้แทนเบนซีน (เช่นการผลิตมาเลอิกแอนไฮดรายที่เปลี่ยนจากเบนซีนไปเป็นไฮโดรคาร์บอน C4) ทำให้การใช้งานเบนซีนนั้นถูกจำกัดมากยิ่งขึ้น และนี่คือโจทย์ที่เราได้รับมาว่าจะจัดการอย่างไรกับเบนซีนส่วนเกินนี้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


จาก Engineered brain-targeted drug delivery systems ที่ใช้คืออะไร

4. ถูกมากกว่า 1 ข้อ

DOX In Liposomesและ DEX In Liposomesเป็นคำตอบที่ถูกต้อง

DOX In Liposomesและ DEX In Liposomesเป็น กระบวนการที่ใช้เพื่อพัฒนาระบบยา ถูกนำเข้าสู่เนื้อเยื่อหรือเซลล์เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


ข้อใดเกี่ยวข้องกับ Environmental toxicology

5. ถูกมากกว่า 1 ข้อ

ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ Environmental toxicology โดยที่ Dichlorodiphenyltrichloroethane (DDT) เป็นสารประกอบที่ใช้ในสารป้องกันกำจัดแมลง (Pesticide) และ PCBs (Polychlorinated Biphenyls) และ PFAS (Per- and Polyfluoroalkyl Substances) เป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรม (Industrial Chemicals) ซึ่งทั้งสามมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ได้ทำให้เกี่ยวข้องกับ Environmental toxicology ทั้งหมด

สารกำจัดศัตรูพืช เช่น ไดคลอโรไดฟีนิลไตรคลอโรอีเทน (ดีดีที) ถูกนำมาใช้ในการเกษตรเพื่อควบคุมศัตรูพืช แต่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากการคงอยู่และความเป็นพิษที่อาจเกิดขึ้น สารเคมีอุตสาหกรรม รวมถึง PCB และ PFAS มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ แต่การกำจัดที่ไม่เหมาะสมหรือการปล่อยโดยไม่ตั้งใจอาจนำไปสู่การปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อมได้ พิษวิทยาสิ่งแวดล้อมมุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจว่าสารเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสุขภาพ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


ข้อใดไม่ได้อธิบายสมมติฐาน Life on the Edge ที่เกี่ยวข้องกับโรคอะไมลอยด์

3. ธรรมชาติของโพลีเปปไทด์

เพราะข้อ3ไม่เกี่ยวข้องกับโรคอะไมลอยดา

Life on the Edge มีความเกี่ยวข้องกับภาคผนวกของชีววิทยาและการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับชีววิทยาประจำส่วนต้นทางที่มีการเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่สุ่มและท้าทาย เนื่องจากนี้ การดริฟท์ทางพันธุกรรมซึ่งเป็นการสะสมของการกลายพันธุ์แบบสุ่ม (1) และการคัดเลือกโดยธรรมชาติ (2) เป็นสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ ในขณะที่ธรรมชาติของโพลีเปปไทด์ (3) และวิวัฒนาการ (4) ไม่ได้ถูกนำเสนอเป็นสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับ Life on the Edge ดังนั้น ข้อที่ 3 ถูกต้องในการระบุว่ามันไม่ได้อธิบายสมมติฐาน Life on the Edge ที่เกี่ยวข้องกับโรคอะไมลอยด์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการขาดกลูโคส -6- ฟอสเฟต G6PD?

3. กลูตาไธโอน

ทุกข้อเกี่ยวกับ กับการขาดกลูโคส -6- ฟอสเฟต G6PDหมดทุกข้อ ยกเว้นกลูตาไธโอน

กลูตาไธโอน (glutathione) เป็นโมเลกุลที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากสารออกซิเดชัน (oxidative stress), แต่มันไม่เกี่ยวข้องกับการขาด G6PD (glucose-6-phosphate dehydrogenase) โดยตรง.

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


ข้อใดไม่ใช่กลไกการออกฤทธิ์ของ Gleevac

1. ยับยั้งโปรตีนฟิวชัน

Gleevac ไม่ใช่ยับยั้งโปรตีนฟิวซัน ดังนั้น, ข้อที่ถูกคือ "1. ยับยั้งโปรตีนฟิวซัน"

Gleevac (Imatinib) มีการออกฤทธิ์โดยการยับยั้งโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง, ทำให้มีผลในการควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง.

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


เป็นเรื่องปกติที่จะให้ยา Warfarin ในขนาดเริ่มต้นที่แตกต่างกันกับผู้คนตามเชื้อชาติของพวกเขา หากให้น้อยเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น

3. ทำให้หัวใจวาย

การให้ยา Warfarin ในขนาดเริ่มต้นที่แตกต่างกันสามารถเกิดขึ้นเนื่องจากความต่างในรูปแบบยีน CYP2C9 และ VKORC1 ที่มีผลต่อการตอบสนองของร่างกายต่อยา. การปรับขนาดยา Warfarin เป็นเรื่องที่สำคัญเนื่องจาก Warfarin เป็นยาที่มีช่วง terapeutic ค่อนข้างแคบ หากให้น้อยเกินไป, การควบคุมการหลับตายของเลือด (anticoagulation) อาจไม่เพียงพอ, ซึ่งทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด และหัวใจวาย

อาจทำให้เกิดอาการลิ่มเลือด เสี่ยงต่อการหัวใจล้มลาย หัวใจวาย

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


การกลายพันธุ์ของยีนใดที่อาจส่งผลต่อระดับ Warfarin

5. ไม่มีข้อถูก

ต้องเป็น CYP2C9

CYP2C9: ยีนนี้เข้ามีบทบาทในกระบวนการตัดเหลี่ยมของ Warfarin ในตับ. รูปแบบยีนที่ต่างกันของ CYP2C9 สามารถทำให้คนมีการตอบสนองต่างกันต่อ Warfarin. บุคคลที่มีเวอร์ชันที่น้อยลงของ CYP2C9 อาจมีความไวต่อการตัดเหลี่ยมน้อย, ซึ่งทำให้ Warfarin คงตัวในร่างกายนานขึ้น และจำเป็นต้องให้ปรับขนาดยาเป็นพิเศษ.

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = Co e^(-rt), จงหาสมการที่เป็นไปได้ หากยา x, มี r =0. 09 แล้วมีความเข้มข้นลดลง 80% จาก the model, C(t) = Co e^(-rt)

3. In 0.8 = -0.09t

If the drug concentration decreases by 80%, you can use the given information to find the value of C(t) when t > 0. Substitute r = 0.09 and the 80% decrease into the exponential decay model: \[ C(t) = C_0 e^{-rt} \] Given that the concentration decreases by 80%, you have: \[ C(t) = C_0 \times 0.2 \] Substitute this into the model and solve for t: \[ 0.2 = e^{-0.09t} \] Now, solve for t by taking the natural logarithm (ln) of both sides: \[ \ln(0.2) = -0.09t \] Finally, solve for t: \[ t = \frac{\ln(0.8)}{-0.09} \]

\[ C(t) = C_0 e^{-rt} \] Given that the concentration decreases by 80%, you have: \[ C(t) = C_0 \times 0.2 \] Substitute this into the model and solve for t: \[ 0.2 = e^{-0.09t} \] Now, solve for t by taking the natural logarithm (ln) of both sides: \[ \ln(0.2) = -0.09t \] Finally, solve for t: \[ t = \frac{\ln(0.8)}{-0.09} \]

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = C0 e^(-rt), จงหาค่า r ถ้า Initial concentration = 10 mg/L 3 mg/L is shown after 9 hours.

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = C0 e^(-rt), ถ้า r = 0.041 /hr Co = 9 mg/L t = 7 จากสมการจงหาความเข้มข้นของยา ณ เวลาที่ฉีด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


ข้อใดมีผลต่อ Aβ-dependent tau phosphorylation

1. Astrocyte reactivity

Astrocyte เป็นเซลล์ที่อยู่ในสมองและประสาทรอบประสาทที่มีบทบาทในการสนับสนุนและปกป้องเอ็นเอส. เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์

Astrocyte Reactivity หมายถึงการตอบสนองของเอสโทรไซต์ต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในสมอง, เช่นการบาดเจ็บหรือโรคที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในเอสโทรไซต์. การ Astrocyte Reactivity อาจเป็นการป้องกันหรือเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองต่อการทำลายที่เกิดขึ้นในสมอง.

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


ความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดของผู้ป่วยหลังจาก t ชั่วโมง จำลองตามสูตร C (t) = 5(0.5)^t โดยที่ C วัดเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร ต้องใช้เวลานานเท่าใดที่ความเข้มข้นจะลดลงถึง 70% ของระดับเริ่มต้น

5. 2.8 hr.

เพื่อหาเวลาที่ความเข้มข้นลดลงถึง 70% ของระดับเริ่มต้น (C(0)), ให้นำสูตร C(t) = 5(0.5)^t มาใช้ และตั้งค่า C(t) เท่ากับ 70% ของ C(0)

5(0.5)ยกกำลังt=0.7*c(0) 0.5ยกกำลังt=0.14 หาt t=log0.5 0.14 tประมาณ2.8

5

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


ข้อความใดต่อไปนี้ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรกิริยาการจับที่เป็นไปได้ของเอไมด์ทุติยภูมิ

3. สามารถมีส่วนร่วมในพันธะไฮโดรเจนได้ทั้งในฐานะผู้ให้พันธะไฮโดรเจนและตัวรับพันธะไฮโดรเจน

เพราะว่า ในอันตรกิริยาการจับที่เป็นไปได้ของเอ ไมด์ทุติยภูมินั้น อันตราส่วนที่เป็นไปได้ทั้งในฐานะ ผู้ให้พันธะใฮโดรเจนและตัวรับพันธะไฮโดรเจน ทำให้มีความหลากหลายและสามารถมีส่วนร่วมใน ทั้งสองบทบาทได้

ข้อมูลทางเคมีและอันตราส่วนในคำตอบข้างต้นไม่ เพียงพอที่จะระบุที่มาที่แน่นอนของเอไมค์ทุติยภูมิ ที่ถูกอธิบาย การวิเคราะห์ทางโครงสร้างทาง โมเลกุลและปฏิกิริยาเคมีเป็นองค์ประกอบสำคัญ ในการเข้าใจพฤติกรรมของสารเคมีนี้ การศึกษา เอไมด์ทุติยภูมิในบทวิจารณ์วิทยาศาสตร์เคมีหรือ วารสารวิชาการทางเคมีอาจจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับที่มาและลักษณะเคมีของสารนี้ได้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


ข้อใดเกี่ยวข้องกับ Plasma measures of GFAP

2. CSF levels

CSF Levels หมายถึงระดับของสารหรือโปรตีนที่พบใน Cerebrospinal Fluid (CSF) หรือ ของน้ำสมอง เป็นน้ำหล่อเลี้ยงสมองและหลอดสมองส่วนท่อ (spinal cord) มีบทบาทสำคัญในการ ปกป้องสมอง, การส่งผ่านสารอาหารและสารต่าง ๆ ไปยังสมอง, และในการลดแรงกระทำต่อ สมองที่เกิดจากการกระทำของน้ำหนัก ซึ้งเกี่ยวข้องกับ plasma measures of GFAP

CSF Levelsเกี่ยวข้องกับ plasma measures of GFAP

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


ความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดของผู้ป่วยหลังจาก t ชั่วโมง จำลองตามสูตร C (t) = 5(8)^t โดยที่ C วัดเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร ความเข้มข้นของยาจะเป็น 80 มิลลิกรัมต่อลิตร ที่กี่ชั่วโมง

2. 1.45

ความเข้มข้นของยาจะเป็น 80 มิลลิกรัมต่อลิตร ที่ 1.5 ชั่วโมง.

5(8)ยกกำลังt=80 แก้สมการ 8ยกกำลังt=80/5 =16 หาt t=log8 16=1.5

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


การจับยากับตำแหน่งจับของโปรตีน Disulfide bond ไม่เกี่ยวข้องกับโรคใด

5. ผิดมากกว่า 1 ข้อ

มีข้อผิดมากกว่า1ข้อ

การจับยากับตำแหน่งจับของโปรตีน เกี่ยวข้องกับการสร้าง disulfide bonds หรือ พันธะไดซัลไฟด์ในโครงสร้างโปรตีน ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มไซสเทีนของกรดอะมิโน (cysteine) ทั้งสองข้างของโปรตีน. การเชื่อมต่อนี้ช่วยให้โครงสร้างโปรตีนมีความเสถียรและรูปร่างที่ถูกต้อง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 53.6 เต็ม 138

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา