ตรวจข้อสอบ > นนทภัทร คำลอยฟ้า > ชีวเคมีเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Biochemistry > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 42 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


จ. คาร์โบไฮเดรต

เพราะ มีโมโนเมอร์เป็นน้ำตาล ต่อกันเป็นสายยาว จึงสรุปได้ว่าเป็น คาร์โบไฮเดรต

อินูลิน (Inulin) เป็นโพลีแซคคาไรค์ชนิดหนึ่งในกลุ่มฟรุกแตน (Fructan) ประกอบด้วยน้ำตาลฟรุกโตสที่เชื่อมต่อกันเป็นสายยาว จำนวน 2 ถึง 60 หน่วย

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


ง. 2 และ 3

ข้อ 1. ผิดเพราะ คนที่เป็นโรคเบาหวานเกิดจากร่างกายขาดอินสูลิน ข้อ 4.ผิดเพราะ การฉีดอินสูลิน ฉีดให้คนที่เป็นโรคเบาหวานเพื่อควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลง

อินซูลิน เป็นฮอร์โมนที่ตับอ่อนสร้างขึ้น และมีหน้าที่สำคัญคือนำน้ำตาลในเลือดไปยังเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกายเพื่อสร้างเป็นพลังงาน แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้เต็มที่ เนื่องจากขาดฮอร์โมนอินซูลินมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


ค. เอนไซม์ทํางานได้ภายในช่วง pH ที่จํากัด

เอนไซม์ชนิดนี้เปลี่ยนแปลงระยะเวลาในการทำงานของเจลาตินอย่างเห็นได้ชัดแค่ได้ในช่วงpH7 ซึ่งแสดงว่าเอนไซม์ชนิดนี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงpHจำกัด

เอนไซม์แต่ละตัวจะมีค่า pH ที่ทำงานได้ดีที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงระหว่างpH 5 ถึง pH 9 ความสามารถของเอนไซม์ในการจับกับซับสเตรต และในการเร่งปฏิกิริยาอาจขึ้นอยู่กับความสมดุลของประจุของหมู่ต่างๆ ในบริเวณเร่งและบริเวณจับของเอนไซม์ รวมทั้งประจุของซับสเตรตเองด้วยที่ pH ต่ำหรือสูงเกินไปมักทำให้ประจุเปลี่ยนไปจนไม่เหมาะสมที่จะทำปฏิกิริยากัน นอกจากนี้ที่ pHสูงมากหรือต่ำมากอาจทำให้โครงสร้างของเอนไซม์เสียรูปร่างสามมิติเปลี่ยนไปจนทำงานไม่ได้

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


ข. ในร่างกายมนุษย์จะไม่พบโปรตีนที่มีกรดอะมิโนXและYเป็นองค์ประกอบ

โปรตีนเป็นพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยกรดอมิโน และในกรดอะมิโนทั้งหมดจะมีกรดอะมิโนบางตัวที่ไม่สามารถสังเคราะห์ได้ เรียกกรดอะมิโนจำเป็นซึ่งคือ xและy

จากกรดอะมิโนทั้งหมด 20 ชนิดกรดอะมิโน 9 ชนิดไม่สามารถสังเคราะห์ได้ในร่างกายของเราและเราจำเป็นต้องนำมันเข้าไปในอาหารของเรา เหล่านี้เรียกว่า กรดอะมิโนที่จำเป็นหรือขาดไม่ได้

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


ข ค จ

ก ผิดเพราะ จะได้ พอลีเพปไทด์ ,เตตระเพปไทด์ ง ผิดเพราะ โปรตีนก้อนกลมละล่ยได้ดีกว่า

ถ้าเป็นกรดอะมิโน 4 โมเลกุล ต่อเข้าด้วยกันก็จะเป็น เตตระเพปไทด์ (tetrapeptide) โปรตีนก้อนกลม (globular protein ) เกิดจากสายพอลิเพปไทด์ม้วนพันกันและอัดแน่นเป็นก้อนกลม ละลายน้ำได้ดี

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


A= กลีเซอรอล B=กรดไขมัน C=ไขมัน หรือน้ำมัน

ในปฏิกิริยาการเกิดไขมันจะใช้กลีเซอรอลเป็นแกนและจะมีกรดไขมันมาเกาะสามโมเลกุลจะได้เป็นไขมันและในปฏิกิริยานั้นจะได้น้ำสามโมเลกุล

ปฏิกิริยาการเกิดไขมันเป็นปฏิกิริยาการเกิดเอสเทอร์ (esterification) นั่นเอง เช่น ปฏิกิริยาการเกิดไตรกลีเซอไรด์จากกลีเซอรอล 1 โมเลกุลรวมกับกรดไขมัน 3 โมเลกุล จะได้ไตรกลีเซอไรด์ (หรือไตรเอซิลกลีเซอรอล) 1 โมเลกุล

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


การทดสอบประสิทธิภาพน้ำมันด้วยไอโอดีนยิ่งถ้าใช้หยดไอโอดีนมากแสดงว่าน้ำมันชนิดนั้นไม่อิ่มตัวมาก น้ำมันที่เหมาะแก่การใช้ไฟอ่อนควรเป็นน้ำมันไม่อิ่มตัว น้ำมันที่ทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดมากที่สุดคือน้ำมันที่อิ่มตัวมาก

ไขมันและน้ำมันที่ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว จะทำปฏิกิริยากับสารละลายโบรมีนหรือไอโอดีน(I2) เกิดปฏิกิริยาการรวมตัวตรงบริเวณคาร์บอนกับคาร์บอนที่จับกันด้วยพันธะคู่ของกรดไขมันไม่อิ่มตัวในน้ำมัน ไขมันและน้ำมันชนิดใด สามารถฟอกจางสีของสารละลายโบรมีน (Br2) หรือ ไอโอดีน (I2) มาก แสดงว่า ไขมันและน้ำมันนั้นประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวปริมาณมาก

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


เพราะน้ำมันที่อิ่มตัวมากจะแข็งตัว ไม่ค่อยเหม็นหืน

กรดไขมันอิ่มตัว หรือไขมันไม่ดี เป็นกรดไขมันที่มีพันธะระหว่างอะตอมของคาร์บอนกับคาร์บอนยึดเหนี่ยวด้วยพันธะเดี่ยวทั้งหมด มีคุณสมบัติแข็งตัวง่าย มีจุดหลอมเหลวสูง ไม่เหม็นหืน

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


จ. น้ำมันมะกอกประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่าน้ำมันหมูหรือไขวัว

น้ำมันมะกอกประกอบด้วยโอเลอิกมากซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัวและมากกว่าไขมันหมูและวัว

กรดโอเลอิก เป็นกรดไขมันที่มีสูตรเคมีคือ C₁₈H₃₄O₂ อยู่ในกลุ่มไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวโอเมกา-9 เป็นไขมันที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่ในเชิงพาณิชย์อาจมีสีเหลือง คำว่า "โอเลอิก" มาจากน้ำมันมะกอก

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


ก. ไข่ขาว , น้ำตาลทราย , เอทิลแอซิเตต

x เป็นการทดสอบหาโปรตีน y เป็นการทดสอบหาน้ำตาล

การทดสอบโปรตีนสามารถทดสอบได้ด้วยปฏิกิริยาไบยูเรต โดยให้โปรตีนทำปฏิกิริยากับสารละลาย CuSO4ในสารละลายเบส NaOH หรือ KOH จะได้สารสีน้ำเงินม่วง ส่วนการทดสอบน้ำตาล ( เฉพาะน้ำตาล โมเลกุลเดี่ยว ) เช่น น้ำตาลกลูโคส, ฟรักโทส, กาแลกโทส เมื่อใช้สารละลายเบเนดิกต์ซึ่งเป็นสีฟ้าหยดลงไป แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด ถ้ามีน้ำตาลกลูโคสจะเปลี่ยนเป็นตะกอนสีแดงอิฐ (หรือสีส้มแดง)

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


ข. ข้อ 1 และ ข้อ 2 ถูก

ข้อ 3 ผิดเพราะต้องประกอบด้วยพันธะ บีต้า 1-4 glycosidic linkage

เซลลูโลส (cellulose) เป็นคาร์โบไฮเดรท (carbohydrate) ประเภทพอลิแซ็กคาไรด์ (polysaccharide) ประเภท ฮอโมพอลิแซ็กคาไรด์ (homopolysaccharide) ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส (glucose) มาต่อกันด้วยพันธะไกลโคไซด์ (glycosidic bond) ที่ตำแหน่งบีต้า-1,4 (b-1,4) เป็นสายยาวมากกว่า 2,000โมเลกุล

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


ค. มีข้อถูก 3 ข้อ

4 ผิดเพราะ ไขมันจะอยู่ในหลอดน้ำเหลือง

ไตรกลีเซอไรด์ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ภายในเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้เล็ก จะถูกขนย้ายไปตามท่อน้ำเหลือง ในรูปของอิมัลชัน เรียกว่า “chyle” หรือไคโลไมครอน (chylomicron)

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


4 ชนิด

เพราะสารนี้ประกอบด้วยพันธะเพปไทด์สามตำแหน่ง

ถ้าเป็นกรดอะมิโน 4 โมเลกุล ต่อเข้าด้วยกันก็จะเป็น เตตระเพปไทด์ (tetrapeptide)

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


ข. มีข้อถูก 2 ข้อ

2 ถูกเพราะนิวคลีโอไทด์ 2 หน่วยถูกเชื่อมกันด้วยพันธะฟอสโฟไดเอสเทอร์ที่ตำแหน่งของหมู่คาร์บอกซิลและหมู่ฟอสเฟต 4ถูกเพราะพันธะเอสเทอร์เชื่อมกรดไขมันและกลีเซอรอล เข้าด้วยกันที่หมู่คาร์บอกซิลและหมู่ไฮดรอกซิล

กรดนิวคลีอิก (nucleic acid) เป็นพอลิเมอร์ของนิวคลีโอไทด์ ที่ต่อกันด้วยพันธะฟอสโฟไดเอสเทอร์ ( phosphodiester bond ) โดยที่หมู่ของฟอสเฟตที่เป็นส่วนประกอบของพันธะจะเชื่อมโยงระหว่างหมู่ ไฮดรอกซิลที่ตำแหน่ง 5' ของนิวคลีโอไทด์โมเลกุลหนึ่งกับหมู่ไฮดรอกซิลที่ตำแหน่ง 3' ในโมเลกุลถัดไป ปฏิกิริยาการเกิดเอสเทอร์ (esterification) นั่นเอง เช่น ปฏิกิริยาการเกิดไตรกลีเซอไรด์จากกลีเซอรอล 1 โมเลกุลรวมกับกรดไขมัน 3 โมเลกุล จะได้ไตรกลีเซอไรด์

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


ง. นมถั่วเหลือง กลูโคส น้ำตาลทราย

xเป็นการทดสอบโปรตีน yเป็นการทดสอบน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว z เป็นการทดสอบแป้ง

-การทดสอบโปรตีนสามารถทดสอบได้ด้วยปฏิกิริยาไบยูเรต โดยให้โปรตีนทำปฏิกิริยากับสารละลาย CuSO4ในสารละลายเบส NaOH หรือ KOH จะได้สารสีน้ำเงินม่วง โดยปฏิกิริยา CuSO4ในสารละลายเบสจะทำปฏิกิริยากับองค์ประกอบย่อยของโปรตีนคือ กรดอะมิโน ได้สารสีน้ำเงินม่วง ซึ่งเป็นสารประกอบเชิงซ้อนระหว่าง Cu2+กับไนโตรเจนในสารที่มีพันธะเพปไทด์ตั้งแต่ 2 พันธะขึ้นไป -Benedict's test เป็นวิธีทดสอบน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) และน้ำตาลโมเลกุลคู่ (disaccharide) ที่เป็นน้ำตาลรีดิวซิงทุกชนิด -สารละลายไอโอดีน : มีสีน้าตาลเหลือง ใช้ทดสอบ : แป้ง

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


ก. ไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัว ไฮโดรคาร์บอนไม่อิ่มตัว กรดไขมันอิ่มตัว กลูโคส

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


จ. W, X, Y และ Z

การทดสอบด้วยเบเนดิกต์เป็นการทดสอบน้ำตาล

Benedict's test เป็นวิธีทดสอบน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) และน้ำตาลโมเลกุลคู่ (disaccharide) ที่เป็นน้ำตาลรีดิวซิงทุกชนิด ยกเว้น น้ำตาลซูโครส (sucrose)

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


จ. กรดอะมิโน

กรดอะมิโนสามารถเป็นได้ทั้งกรดและเบสซึ่งเป็นสมบัติของบัฟเฟอร์

บัฟเฟอร์ (buffer) เมื่อกรดแอมิโนละลายน้า จะอยู่ในรูปสวิตเตอร์ไอออน มีทั้งประจุบวก ของแอมมิเนียมไอออน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นเบสอ่อน และประจุลบของคาร์บอกซิเลตไออน เป็นกรดอ่อน ท าให้เป็นสารละลายบัฟเฟอร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโซ่ข้างของกรดแอมิโน

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


2. พืชไม่สามารถใช้ ADP และ NADP+ ได้ตามปกติ

ถูกปิดกั้นการทำงานของระบบแสง

10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

21


2. สามารถพบลักษณะของ cell membrane แบบ phospholipid bilayer ได้

10

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

22


ข้อใด ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับอะไมโลสและอะไมเลส

จ. อะไมโลส และอะไมเลสไม่ทำปฏิกิริยากับสารละลายนินไฮดริน

6

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

23


1. Glucose เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

24


5. mRNA

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

25


5. Glucose

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 62.3 เต็ม 161

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา